อ๊อฟ ชนะพล คลั่งรักขยันเสิร์ฟหวาน ฮาน่า ไม่กล้าแพลนแต่ง แต่แม่อยากอุ้มหลาน

อ๊อฟ ชนะพล ขยันเสิร์ฟหวาน ฮาน่า รับเป็นคนคลั่งรัก คบ 2 ปี ฝ่ายหญิงช่วยดูเรื่องลุกส์ ปรับให้ดูเด็กลง ไม่กล้าเผยแพลนแต่ง แต่แม่อยากอุ้มหลาน

ตั้งแต่เปิดตัวว่าศึกษาดูใจกันอยู่ เรื่องความหวานของคู่ อ๊อฟ ชนะพล สัตยา กับ ฮาน่า ลีวิส ไม่เคยแผ่ว ล่าสุดทั้งคู่พากันไปสวีตกลางทะเล พร้อมเก็บภาพหวานๆ มาอวดแฟนคลับ ล่าสุด(26 มิ.ย.66) อ๊อฟ มาร่วมบวงสรวงละครเรื่อง รักซ่อนรส ที่ช่อง 7 หลังจบพิธีพระเอกหนุ่มได้ให้สัมภาษณ์อัปเดตเรื่องความรัก

ตอนนี้หวานมาก? “แฮปปี้ครับ เราก็ให้กำลังใจกันเสมอ เพราะว่าเป็นช่วงที่เราสองคนทำงานหนักกันทั้งคู่ ถ่ายละคร 2 เรื่อง พอเราเจอกันก็จะเติมความน่ารักให้กันตลอดเวลา”

คบกันกี่ปีแล้ว? “2 ปีกว่าครับ ถือว่ามันเป็นความน่ารัก และให้กำลังใจกันมากกว่า เพราะว่าเวลาที่เราทั้งคู่ออกกองเแทบไม่มีเวลาคุยกัน แต่เราก็พยายามหาเวลาเจอกัน ทำให้เราเจอกันบ่อยครับ เวลาเราเหนื่อยเราก็อยากได้กำลังใจจากคนพิเศษของเรา”

ทริปล่าสุดก็หวานมาก? “หลายคนบอกว่าผมเป็นคนคลั่งรัก แต่ว่ามันคือความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของผมอยากจะให้คนรอบข้างหรือแฟนคลับของผมรู้สึกพิเศษเหมือนกัน อยากให้เขารู้สึกไปกับเราด้วย เวลาทำอะไรก็จะเต็มที่ ไปเที่ยวไปกินก็จะมีโมเมนต์น่ารัก หวานๆ หน่อย เวลาที่จะโพสต์รูปในโซเชียลต่างๆ คนก็จะรู้สึกลุ้น และมีความสุขกับเราไปด้วย”

2 ปีกว่าแล้ว มีอะไรต้องจูนกันอีกไหม? “ตั้งแต่เริ่มคบกันมาแทบจะไม่ต้องปรับตัว อย่างเรื่องงานเราก็เข้าใจกัน ทำงานในสายเดียวกัน นิสัยก็คล้ายๆ กัน แทบจะไม่ได้ปรับอะไรกัน มีแต่ตัวผมที่ต้องปรับให้ทันสมัยมากขึ้น ที่เห็นชัดเลยคือเรื่องการแต่งตัว ในลุกส์ให้ดูทันสมัยมากขึ้น ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม ให้ดูเด็กลง มันเป็นภาพลักษณ์ของเราที่เขาคอยดูให้ เรื่องเสื้อผ้าน้องจะเป็นคนจัดแจงให้เป็นส่วนใหญ่เลย ด้วยวัยของผมมากขึ้นเรื่อยๆ ยุคสมัยมันไปเร็วมาก น้องเขาก็บอกว่าพี่อ๊อฟต้องทันสมัยหน่อย จะมาเสื้อยืดกางเกงยีนส์อย่างเดียวมันดูเฉยไป เขาพยายามปรับให้ผมดูเด็กลง มันก็เป็นสิ่งที่ดีต่อผม และคนรอบข้าง ส่วนตัวผมแรกๆ เขินเลย ที่ปรับให้เป็นลุกส์เกาหลี แต่ผมโตมากับละครพีเรียด แล้วให้มาใส่เสื้อผ้าสไตล์เกาหลี เสื้อผ้าเยอะๆ ผมเยอะๆ ครั้งแรกมันก็เขินที่จะใส่ออกงาน พอฟีดแบ็กกลับมาว่าดูเด็กลงนะ มันก็เพิ่มความมั่นใจมากขึ้น ชุดก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ”

ฮาน่าเองก็เปรี้ยวขึ้น หวงไหม? “เรื่องงานผมไม่เคยห่วง เขาอยู่ในวงการมาก่อนที่เราจะคบกันด้วยซ้ำ ผมไม่สามารถที่จะก้าวก่าย เพราะมันเป็นอิสระในการทำงานของเขา ส่วนเวลาเขาเลิกงานมา ผมก็ชื่นชมเขานะ เราได้เห็นอะไรใหม่ๆ ในตัวเขา เรามีอะไรที่พอโชว์ได้บ้างก็โชว์ไป มันคงไม่มาเกินไปในลุกส์นางเอกของเขา”

เขามีส่งรูปให้เราดูบ้างไหม เวลาที่เขาจะเลือกใส่ชุดไหน? “มีบ้าง แต่ผมจะส่งให้เขาดูมากกว่า เวลาส่งให้เขาดู เขาก็จะบอกว่าไม่ได้พี่ ชุดนี้ไม่ผ่าน ถือว่าช่วยเหลือกันในทุกๆเรื่อง”

เพื่อนๆ เราเขาก็แต่งกันหลายคู่แล้ว คู่เรามีวี่แววหรือยัง? “ผมปล่อยให้มันเป็นเรื่องของเวลา พร้อมเมื่อไหร่ก็แต่ง เราก็เห็นหลายคู่ที่รู้จักกันแล้วแต่งเลย คบไม่ถึงปีก็แต่ง คบไม่ถึงปีก็มีน้อง แต่ผมเห็นคนเรา มีรักก็มีเลิก มันก็เลยทำให้ผมคิดว่าเรื่องการแต่งงานมันเป็นเรื่องใหญ่ ถามว่าเคยคุยกันบ้างมั้ย คือมีแต่หยอกกันมากกว่า แต่ส่วนมากเป็นเพื่อนที่แซว เพราะว่าเพื่อนเขาแต่งงานกันไปเยอะแล้ว บางคนก็มีน้องกันแล้ว ส่วนตัวผมไม่ชอบอะไรที่มันวุ่นวาย น้องเองก็เช่นกัน ถ้ามันลงตัวก็ค่อยว่ากัน ผมค่อนข้างที่จะละเอียดและปรับตัว เอาประสบการณ์จากการผิดพลาดจากความรักครั้งก่อน มาปรับให้ดีที่สุด แต่โชคดีว่าครั้งนี้ผมแทบไม่ต้องปรับตัวเอง เป็นตัวเองเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์”

เหมือนเราไม่อยากมีลูก? “คุณแม่ผมถามถึง เพราะว่าคุณแม่ไม่ได้เลี้ยงหลานเลย ก็อยากมีครับ แต่ถ้ามีก็อยากมีเวลาให้เขา ผมอยากเลี้ยงลูกเอง ถ้าจังหวะที่เราพร้อม เวลามีแล้ว เราก็ต้องเบรกงานนิดหนึ่งเพื่อไปเลี้ยงลูกเอง (อีกสักกี่ปีแต่งงาน?) ไม่กล้าพูดแล้ว ปล่อยให้ระยะเวลาที่มันเหมาะสมกับเราจริงๆ”.