เกรซ กาญจน์เกล้า อยากแขวนหลวงปู่มั่นให้น้อง แกรนด์ กรณ์ภัสสร รับมีแผลในใจ โดนเปรียบเทียบพี่สาว โดนบูลลี่ปมศัลยกรรม วอนเลิกส่งพลังลบให้กัน
เป็นคู่พี่น้องดาราที่ถูกเปรียบเทียบมาตลอด สำหรับ เกรซ กาญจน์เกล้า และ แกรนด์ กรณ์ภัสสร ด้วยเศียรเกล้า จนกลายเป็นแผลในใจของน้องสาวอย่าง แกรนด์ ซึ่งโดนบูลลี่เรื่องทำศัลยกรรมทำให้เธอขาดความมั่นใจ งานนี้คนเป็นพี่อย่าง เกรซ ที่มีความมั่นใจในตัวเอง จึงอยากเพิ่มความมั่นนี้ให้กับน้องบ้าง และวอนคนหยุดส่งพลังลบให้กันดีกว่า
ล่าสุดร้องไห้ในรายการว่าถูกจับเปรียบเทียบกันตลอด? เกรซ : “เพราะเราก็รู้สึกว่าคนชอบมองน้องเราว่า สำหรับเนื้อหาในรายการนะคะว่าเก่งมาก แต่ความจริงเหมือนน้องเราไม่มีความมั่นใจ เราอยากให้ได้หลวงปู่มั่นที่เราแขวนไว้(หัวเราะ) เราอยากจะถอนแล้วสวมให้น้องเพราะเรามั่นสุดๆ”
แกรนด์ : “เราก็อยากได้สักครึ่งนึงมา ครึ่งนึงนะไม่ใช่ทั้งหมด”
เกรซ : “แล้วบาดแผลในใจของเขา อย่างบางคนก็จะบอกทำไมน้องไปทำหน้า มันเป็นความผิดพลาดที่เกิดจากการทำงาน น้องไม่ได้อยากไปทำเองแล้วตรงนี้แกรนด์ก็ไม่ได้อยากออกมาพูด คือไม่ได้คอมเพลนใครใดๆ ทั้งนั้นนะคะ ทุกคนมีเจตนาที่ดี และมีความหวังดีกับแกรนด์ทั้งนั้น แล้วแกรนด์เขาทำอะไรก็เต็มที่ค่ะ”
เหมือนน้องก็เก็บมานานไม่ออกมาพูดเลย เกรซก็ออกมาพูดให้คนเข้าใจ? เกรซ : “ใช่ เราอยากจะบอกคนที่ว่าหรือชอบเปรียบเทียบแล้วคือต่อจะให้ชมเราก็เถอะ เราก็รู้สึกแย่ที่มาเปรียบเทียบน้องกับเรา เพราะคิดว่าเราเท่ากับน้อง เกรซ = แกรนด์”
แกรนด์ : “กาสะลอง ซ้องปีบ”
Advertisement
แกรนด์เองปลดล็อกมากขึ้นไหม พอได้ออกมาพูดว่าเหตุผลจริงๆ มันคืออะไร? แกรนด์ : “ใช่ จริงๆ แกรนด์ไม่ได้ตั้งใจที่จะเปิดหรือปิดอะไรกับเรื่องนี้นะคะ ก็ปล่อยไป แต่พอวันนึงที่ได้พูดและมีคนได้เข้าใจในตัวเรามากขึ้น ก็ขอขอบคุณและมีกำลังใจที่ส่งไปให้แกรนด์เยอะมากๆ อย่างที่ตกใจเลย ก็ต้องขอขอบคุณแฟนๆ”
สภาพจิตใจตอนนี้เต็มร้อยไหมกับการทำงานหรือรับงานเพิ่มขึ้นไหมเพราะได้กำลังใจเยอะ? แกรนด์ : “ก็เพิ่มขึ้นนะคะ แต่เราก็ยังไม่ได้อยู่ในเลเวลของคนปกติ ก็กำลังเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองในหลายอย่างสิ่งที่เจอมาในชีวิตเนอะ สะสมมาตั้งแต่เข้าวงการคำบูลลี่หรือว่ากระแสวิพากษ์วิจารณ์ใดๆ ก็ต้องใช้เวลาในการเยียวยาจิตใจตัวเอง เพราะอย่างแกรนด์เป็นคนที่จิตใจไม่ได้แข็งขนาดนั้น ไม่เหมือนเขาที่ใจเป็นเหล็ก”
เกรซ : “ไม่หรอก เรื่องการบูลลี่สังคมเริ่มเปิดกว้างมากกว่าเมื่อก่อน สังคมเริ่มจะโอบกอดกันมากขึ้น แต่ยังมีการบูลลี่อยู่ ก็อยากจะให้เข้าใจว่าพวกเราทำงานตรงนี้ เราให้แต่พลังบวกกับคุณ อยากจะให้มองว่าบางทีแล้วไม่ต้องชมหรอก แต่อยากให้ใจกว้างกับเราหน่อย เราก็เป็นคนปกติธรรมดามีถูกมีผิด มีชอบมีไม่ชอบ บางงานอาจจะทำไม่ดี บางงานเราอาจจะเต็มที่แล้วประมาณนั้น ก็อยากให้เข้าใจตรงนี้ด้วยเพราะเรามอบแต่โพสิทีฟให้คุณ ก็เลยอยากให้คุณไม่ต้องมอบโพสิทีฟให้เราหรอก แต่อย่ามอบเนกาทีฟให้เราเลย”.
