เต้ย จรินทร์พร เผยทริปกระชับสัมพันธ์แฟนหนุ่ม เดินเท้าเข้าป่า โอด! ไม่ได้พักผ่อน

เต้ย จรินทร์พร / แม้จะมีเวลาว่างจากการทำงาน หรือถ่ายละครไม่มากเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังพอจะมีช่วงให้ได้ไปพักผ่อน เดินทางไปท่องเที่ยวใช้ชีวิตให้สนุกๆ อยู่บ้าง สำหรับนางเอกสาวร่างเล็ก ‘เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ’ ที่กำลังเป็นที่ฮือฮาและถูกพูดถึงอยู่ขณะนี้ กับบท มาตาลดา ในละครฟีลกู๊ด เรดติ้งพุ่ง

ล่าสุด เต้ย ปล่อยภาพสุดคูลกับการแบ็กแพ็กแบกเป้ เดินเท้าเข้าป่าชื่นชมธรรมชาติไกลถึงประเทศเดนมาร์ก โดยมีหวานใจหนุ่ม ‘เจโต-ปณิธิ นวสมิตวงศ์’ ร่วมทริปด้วย

ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสเจอกับ ‘เต้ย’ ที่เดินทางมาร่วมงานเปิดแคมเปญ เที่ยว วิน วิน ฟิน โค้ด โค้ด (เที่ยวสนุกสะสมพอยท์ ได้ฟินต่อ) ที่ห้องโถง1 ชั้น1 อาคารสำนักงานใหญ่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ถนนเพชรบุรี กรุงเทพมหานคร จึงได้สัมภาษณ์สอบถามถึงเรื่องที่เดินทางไปเที่ยวกับหวานใจ ทริปล่าสุดนี้ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง สนุก สวีต แค่ไหน

เต้ย เล่าว่า “ก็ไม่แน่ใจว่าไปพักผ่อนหรือไปทรมานตัวเอง (หัวเราะ) งงเหมือนกันค่ะ คือพี่ๆ ที่ไปด้วยเขาก็ได้เล็งเห็นแล้วว่าเรากางเต็นท์นอนแค่ 3 วัน มันคงไม่น่าโหดมากสำหรับครั้งแรกของเต้ย แต่กลายเป็นว่า 3 วันนี้ต้องเดินให้ครบประมาณ 75 กิโลค่ะ ซึ่งเท่ากับว่าวันแรกต้องเดิน 26.5 กิโล ก็คือเต้ยคำนวณมาแล้ว จากบ้านเต้ยอยู่รามคำแหงไปฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต หนูทำไปได้ยังไง ฝนตกด้วย เหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง

ถามว่าเอาอีกไหม คิดว่าไปอีกได้ แต่อย่าล็อกจำนวน คือมันจะมีอีกทริปหนึ่งที่มัน 6 วัน ไปนอนนานหน่อย แต่ว่าเราไม่ต้องเดินเยอะขนาดนี้ต่อวัน คนพาไปเขาก็บอกค่ะว่าจะเจออะไรบ้าง แต่ว่าพี่ๆ ที่เคยเดินกันแล้วเขายังบอกเลยว่าอันนี้โหดมาก ก็ไม่แนะนำสำหรับบิกินเนอร์นะคะ อย่าไป (หัวเราะ)”

โอดไหม ว่ามันโหดไป? “วันแรกหนูร้องไห้เลย มันเหมือนซีนในเอ็มวี ฝนตกหนักมาก และออกเดินตั้งแต่ 6 โมงเช้า 2 ทุ่มครึ่ง หนูยังไม่ถึงแคมป์เลย เดินๆ อยู่ก็ร้องไห้บอกไม่ไหวแล้วนะ (หัวเราะ) ร้องไห้ไปหนึ่งก๊อก หลังจากนั้นก็โอเคค่ะ”

แต่พอได้เห็นวิว แล้วก็ว้าวใช่ไหม? “คือจะบอกว่าตลอดทางมันมีธรรมชาติ และเพื่อนเดินทางของเรานี่แหละที่ช่วยฮีลเราตลอด เขาก็ดูแลตลอดว่าไหวไหม โอเคหรือเปล่า ของหนักด้วย เป้ประมาณ 6-7 กิโล ไม่รู้หนูไปเที่ยวหรือไปทรมานตัวเอง”

เจโต เขาขู่ไหมให้เดินเร็วๆ เดินไหวไหม? “เขาก็ช่วยเป็นกำลังใจให้ตลอดในการเดินค่ะ ไม่ขู่เลยค่ะ เขาเข้าใจแหละว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้น แต่พอวันที่สองหนูก็เริ่มเดินคล่องแล้ว เริ่มโอเค เริ่มเดินเร็วขึ้น สบายขึ้น แต่เดินสะดุดหินข้อเท้าพลิก ไม่มีความสวีตเลยค่ะ (หัวเราะ) ทุกอย่างคือเดินและชมธรรมชาติไป สวยอีกแบบหนึ่งค่ะ

ในทริปนี้ก็มีเดินป่า แล้วก็ไปต่อที่ไอซ์แลนด์ค่ะ ไม่รู้ว่าโชคดีหรือเปล่า เพราะไปตอนที่ภูเขาไฟระเบิดพอดี ก็เลยเห็นลาวาที่ไอซ์แลนด์ด้วย ก็เป็นทริปที่ได้ฝึกฝนตัวเองด้วย ได้เรียนรู้ ได้ลองประสบการณ์ใหม่ๆ ค่ะ จริงๆ เต้ยอยากไปกางเต็นท์อยู่แล้วค่ะ อยากลองอยู่แล้ว พอมันมีอันนี้ คือไปกัน 4 คน มีพี่อีก 2 คนมาชวนด้วย ก็เลยไป”

ทริปนี้โมเมนต์เรา 2 คน เป็นยังไงบ้าง? “แปลกที่ทริปนี้ตีกันน้อยค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าเราเดินเหนื่อยมาก ไม่มีแรง (หัวเราะ) แต่มันได้เอ็นจอยมากกว่าค่ะ ได้ลองทำฟรีซดรายไปกิน เอาก๋วยเตี๋ยวเรือไป ใส่น้ำและกินได้เลย”

จะมีไปอีกไหม เดินป่าแบบนี้? “ขอสักพักนึง ขอทำใจก่อน แต่อาจจะมีไปสวีเดนค่ะ ก็เดินเหมือนกัน แต่เดิน 6 วัน และอยากนอนไหนก็นอน ไม่ต้องไปนอนที่แคมป์”

เจโตเขาก็ดูแล อย่างดี? “ก็ขอบคุณใจเขาค่ะ คือหลังๆ เราเริ่มไม่ไหว เขาก็ถอดของจากเราไปแบกให้บ้าง คือตัวเขาเองก็แบกเยอะอยู่แล้ว เพราะเต็นท์เขาก็เป็นคนแบกให้ พอเราไม่ไหว เขาก็เอาไปแบกให้เพิ่ม ก็ขอบคุณมากค่ะ ถามว่าเป็นทริปพิสูจน์รักแท้เลยไหม (หัวเราะ) อันนี้ไม่มีแรงตีกันเลย เพราะต้องสนใจตุ่มน้ำพองที่เกิดที่เท้าด้วย(หัวเราะ) แต่ถ้าให้ไปเองก็ไม่ไหวค่ะ ก็ดีที่มีเขาไปด้วย ก็ดีกว่า ทริปหน้าก็รอปีหน้าไปเลยค่ะ ไม่ไหวแล้วค่ะ”