อ๊อฟ ปองศักดิ์ รับอายที่ต้องยกเลิกงานแต่ง รู้ตัวบีบแฟนเก่าเกินไป อยากให้เป็นพ่อบ้าน เปิดสัญญาณ ทำให้รู้เป็น ซึมเศร้า เคสเร่งด่วน

นักร้องเสียงดี อ๊อฟ ปองศักดิ์ เปิดใจในรายการ Club Friday Show เรื่องราวความรักสุดช้ำ ถึงขั้นล็อกคิวแต่งงานไว้แล้ว แต่มีจุดที่ต้องจบ พร้อมเผยสัญญาณที่ทำให้รู้ว่าตัวเองเป็น ซึมเศร้า เคสที่ต้องเข้ารับการรักษาด่วน

ในวันนั้นที่เราสูญเสียคุณแม่ไป คือสาเหตุที่ทำให้ อ๊อฟ เป็นซึมเศร้า? “คืออ๊อฟไม่รู้ว่าเหตุการณ์นั้นมันทำให้เกิดขึ้นหรือเปล่า เพราะว่ามันกลายเป็นซึมเศร้าหลังจากนั้น”

เพราะว่าเจอหลายๆ เรื่องพร้อมกัน มันไม่ใช่เรื่องคุณแม่เรื่องเดียว มีเรื่องแฟนด้วย อ๊อฟรู้สึกถึงสัญญาณของตัวเอง มาก่อนหน้านั้นอยู่แล้วหรือเปล่า ตอนที่มันเกิดขึ้นกับเรา เอาเท่าที่อ๊อฟสะดวกและเล่าไหวได้ เรารู้สึกเองจับได้เอง? “อ๊อฟรู้สึกถึงสัญญาณ คือเหมือนเราพยายามอยู่กับมันก่อนอ๊อฟพยายามอยู่กับความรู้สึกนั้น แล้วเราก็พยายามทำความเข้าใจกับมัน ว่ามันคงเป็นอาการของคนปกติ ของคนที่สูญเสียอะไรสักอย่างหนึ่งไป แต่ว่าพอถึงเวลาจริงๆ อ๊อฟรู้สึกว่าเหมือนเคมีในสมองมันวิ่งไปทั่วเลย รู้สึกว่าเราเหมือนคนจะเป็นบ้าอารมณ์มันจะแบบบางทีเรารู้สึกเราอยากจะตายโดยไม่มีสาเหตุ บางทีเรารู้สึกเราอยากจะจบชีวิตไป แล้วก็มองตัวเองว่าทำไมชีวิตเราไม่มีความสุขเลย แล้วก็เหมือนพยายามทำความเข้าใจกับมัน แต่สุดท้ายก็ทำความเข้าใจกับมันไม่ได้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร

เมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมานี่แหละครับ อ๊อฟก็วิ่งไปบอกพี่สาวว่าพาไปหาหมอหน่อยเพราะรู้สึกว่าตัวเองอยู่ไม่ได้ รู้สึกเหมือนตัวเองจะเป็นบ้าจริงๆ เพราะว่าอยู่ดีๆ เราก็รู้สึก เราอยากผูกคอตายไปเลย บางทีเราห้ามไม่ได้ว่าเราอยากจะทำมันหรือเปล่า แต่ว่าอยู่ดีๆ มันก็เป็นแว้บหนึ่งที่โผล่ขึ้นมา บางทีก็อยู่ดีๆ ก็นอนก็คิดว่าแบบ เอ๊ะ เราจะตายอย่างดี”

จริงๆ แล้วถ้าเกิดดูอยู่ อยากให้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน เพราะว่าสิ่งหนึ่งซึ่งอ๊อฟทำที่ถูกมากคือเลือกหาหมอ และไม่กลัวที่จะขอความช่วยเหลือ ตอนนั้นได้ปรึกษาใครก่อนบ้างไหม? “ไม่ได้ปรึกษาใครเลย คนใกล้ตัวเพื่อนสนิท เพราtอ๊อฟมองว่ามันเป็นเรื่องที่เราไม่น่าจะเป็น เพราะรู้สึกว่าชีวิตเราออกไปเจอคน แล้วเรารู้สึกว่าเราสนุกกับการที่เรามีชีวิตของเรามากๆ แต่ว่ามันก็จะมีบ้างแว้บที่มันแบบ เรารู้สึกว่าเคมีในสมองมันวิ่งไปทั่วเลยครับ มันเหมือนมันเป็นน้ำที่มันเคลื่อนไปเคลื่อนมา แล้วเราก็รู้สึกว่าไม่ได้แล้ว เพราะว่าอยู่ดีดีแล้ว เรารู้สึกว่าเราเป็นคนที่มองโลกในแง่บวกมากๆ เราเป็นคนที่มีความสุขกับการใช้ชีวิตมากๆ แต่ทำไมเราถึงคิดอะไรแบบนี้ขึ้นมาได้ โดยที่บางทีแล้วเราก็ห้ามความคิดนั้นไม่ได้”








Advertisement

แต่จริงๆ นะบางทีเราก็เผลอตัวตัดสินเนอะ เราจะเห็นบางคนที่บอกเป็นซึมเศร้าเหรอ จริงเหรอ เขาเป็นซึมเศร้าได้อย่างไร เพราะทุกคนมองว่าภาพของ อ๊อฟคือความเฮฮา มีความสุข ร่าเริงสม่ำเสมอ? “พออ๊อฟได้ปรึกษาคุณหมอเสร็จปุ๊บ ตอนแรกอ๊อฟบอกพี่สาวว่า ให้พาไปหน่อยเพราะเรารู้สึกว่าเราไม่ปกติ แล้วพ่อไปคุยกับคุณหมอปุ๊บ เราเป็นเคสกรณีเร่งด่วน ที่ต้องรักษาเลย”

ส่วนในเรื่องของความรัก ครั้งล่าสุดถึงขั้นถ้าทาบทามผู้ใหญ่ไว้ขนาดนั้น แล้วทำไมถึงไปต่อไม่ได้? “สาเหตุมันเกิดจาก พอเราต้องแยกกันไปต่างคนต่างทำงาน แยกกันไปต่างคนต่างใช้ชีวิต ตอนแรกอยู่ด้วยกัน แต่พอเขาเริ่มที่จะมีชีวิตของตัวเอง มันเลยทำให้เรารู้สึกว่า สิ่งที่เราเคยได้ สิ่งที่เราเคยมีหรือบางทีอาจจะเป็นเรื่องที่เราเองก็ได้ ที่เราดันมองความสุขที่เราเคยมีด้วยกันน้อยลง มันเลยทำให้เรารู้สึกว่าเราคงไปด้วยกันไม่ได้ บทที่มันยากที่สุดคือ บทที่เราจะต้องโทรไปบอกคนเหล่านั้น ที่เราเคยบอกว่าเดี๋ยวมางานเราหน่อยนะ นี่คือเป็นจุดที่ยากที่สุดครับ

แล้วโทรบอกพี่ฉอดว่า? พี่ฉอด : “ไม่ได้บอก”

อ๊อฟ ปองศักดิ์ : “ไม่ได้บอกครับ”

พี่ฉอด : “อยู่ๆ ก็เงียบไป คิวยังล็อกอยู่เลย(ยิ้ม)”

อ๊อฟ ปองศักดิ์ : “911 เลือกวันได้(หัวเราะ)”

เราได้ลองพยายามไหม มันอาจจะแค่ช่วงเวลาหนึ่ง? อ๊อฟ ปองศักดิ์ : “พยายามแล้วครับ ไม่รอด ไม่รอดจริงๆ”

มองสิ่งที่มันเกิดขึ้นไม่อยากบอกว่าครั้งแล้วครั้งเล่า คนเรามีสิทธิ์ผิดพลาดในความรักได้เสมอ เพราะว่ามันมีตัวแปรที่ควบคุมไม่ได้เยอะมาก แต่จากครั้งนี้เช่นกัน ครั้งที่เราเข้าใกล้กับการแต่งงาน ซึ่งเป็นความฝันของเรา เราเรียนรู้อะไรจากสิ่งนี้บ้าง? อ๊อฟ ปองศักดิ์ : “อ๊อฟว่าอย่างแรกเลยคือ ให้เวลากับมันมากกว่านี้อีกหน่อยดีกว่า เราอย่ารีบ”

ถ้าสมมติว่าจะแต่งงานปกติเขาก็ต้องคุยกันว่าจะอยู่อย่างไร อยู่บ้านใคร ซื้อที่ปลูกบ้านหรืออยู่คอนโด ที่ฉัน บ้านเธอ แม้แต่เรื่องเงินว่าจะแบ่งอย่างไร มันมีเรื่องที่จะต้องวางแผนกันเยอะมาก เราคุยกันไหม? อ๊อฟ ปองศักดิ์ : “คุยกันครับ ก็อยู่บ้านอ๊อฟอยู่แล้ว หรือถ้าเกิดว่าอยากจะอยู่คอนโดที่มันใกล้ที่ทำงาน เราก็มีคอนโด คืออ๊อฟจะเป็นประเภทแบบ อ๊อฟอยากได้พ่อบ้าน คือคนที่อยู่กับเราได้ตลอดเวลา”

คือไม่ต้องทำอะไรดูแลเราอย่างนี้เหรอ เหมือนฉันออกไปทำงานแล้วเธออยู่ดูแลฉันนะ ฉันกลับบ้าน ฉันจะเห็นเธอยืนยิ้มอยู่? อ๊อฟ ปองศักดิ์ : “ใช่ครับ อ๊อฟจินตนาการภาพเป็นอย่างนั้นไง”

บางทีบางอย่างเป้าหมาย อย่างเช่นรักควรต้องมีคำว่าแต่งงาน แต่จริงๆ แล้วต่อให้ไม่ถึงตรงแต่งงาน ตอนอยู่ด้วยกันสองคนมีความสุขหรือเปล่า อันนั้นสำคัญมากนะ หลายครั้งที่เราบอกว่าเป้าหมายได้แล้วต้องเป็นเป้าหมายแน่ๆ มันเลยกดดันทั้งสองฝ่ายเหมือนๆ กัน หรือว่าอยากได้พ่อบ้านบางทีมันอาจจะเป็นความคิดของเราหนึ่งฝ่าย แต่เราก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าแล้วเขาคาดหวังว่าแต่งงานแล้วเขาจะมาเป็นพ่อบ้านเลยหรือเปล่า? อ๊อฟ ปองศักดิ์ : “ใช่”

แล้วเขาอยากเป็นพ่อบ้านไหมเอาจริงๆ ตอนนั้น หรือเราพยายามยัดเยียดว่าเธอก็เป็นพ่อบ้านสิ พยายามครอบงำเขาอยู่ว่าจงอยากเป็น? อ๊อฟ ปองศักดิ์ : “ใช่ครับ แล้วเขาเองกลายเป็นว่า เขาก็ไม่พร้อมที่จะมาเป็นพ่อบ้านให้เรา แล้วเราเองก็เหมือนไปบีบเขามาก พอเราไปบีบเขามากปุ๊บ มันก็เลยทำให้ก็ต้องเลิกกันไปโดยปริยาย”

อย่างที่บอกความคาดหวัง แล้วครั้งนี้ถือว่าเราอกหักไหม? อ๊อฟ ปองศักดิ์ : “ก็อกหักนะครับ ครั้งนี้หักมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะว่าอายด้วย(หัวเราะ) ตรงที่ว่าเราต้องโทรไปบอกทุกคนว่าเรายกเลิก เราคืนคิวนะ”.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน