ป๋าต๊อบ วอนสังคมให้โอกาส ยู่ยี่ สวยขึ้นกล้อง – เผยชีวิตสุดแฮปปี้ เลิกหมด เหล้า-ยา-บุหรี่ โว!แข็งแรงเหมือนคนอายุ 30
ป๋าต๊อบ / ร่วมทุกข์ร่วมสุข คอยดูแลช่วยเหลือครอบครัวของอดีตนางแบบสาว “ยู่ยี่ อลิสา อินทุสมิต” มาตลอด สำหรับ “ป๋าต๊อบ ปฏิญญา ควรตระกูล” ซึ่งเผยว่าตอนนี้ชีวิต “ยู่ยี่” เพื่อนรักดีขึ้น พร้อมกลับมาทำงานใช้ชีวิตอีกครั้ง วอนหางานให้ช่วยทำ และอยากให้สังคมให้โอกาสเพื่อนด้วย
ล่าสุด “ป๋าต๊อบ” ที่มาร่วมงาน เอดีน่า เปิดตัวแคมเปญ เปลี่ยนคิ้วเสีย ให้เป็นคิ้วสวย ออกแบบ เพ้นท์ ลบ ครบ อย่าง professional ที่ศูนย์การค้าเกตเวย์ เอกมัย ชั้น5 ได้ให้สัมภาษณ์หลังยินดีช่วยเหลือ “ยู่ยี่” มาตลอด แม้ในยามเพื่อนตกต่ำ ตนก็ได้เรียนรู้บทเรียนชีวิตไปด้วย พร้อมกันนี้ยังเผยถึงความรัก 15 ปีกับหวานใจสาว “ปีใหม่ สุมนต์รัตน์” ยังหวานกันทุกวัน และได้อัพเดตสุขภาพ เลิกสูบบุหรี่ 5 ปี เลิกยาเสพติด 13 ปี และของมึนเมาทุกอย่าง จนตอนนี้สุขภาพแข็งแรงเหมือนคนอายุ 30
ถามถึงเรื่องที่ก่อนหน้านี้ดูแล ยู่ยี่ อลิสา? “ยูยี่ตอนนี้ชีวิตดี เป็นเพื่อนรักพี่ เป็นผู้หญิงที่มีความกล้าหาญที่สุดที่พี่รู้จักคนหนึ่ง ตอนนี้นางหางานทำ ช่วยหางานให้นางทำหน่อยค่ะ ผู้หญิงเราต้องมีรายได้เองจะมีความเคารพในตัวเอง แล้วพี่ก็อยากให้เพื่อนพี่มีงานเยอะๆ ตอนนี้เขาขึ้นกล้อง เขาพร้อม โฆษณาแทน(หัวเราะ)”
ย้อนกลับไปวันที่เราเริ่มเข้าไปช่วยดูแลลูกๆ ของเขา? “จริงๆ ใช้คำนั้นก็ไม่ถูกนะ ฟีลประมาณว่าเวลาเราเห็นคนมีอายุถือของเยอะๆ แล้วเขาถือไม่ไหว เราก็ช่วย เท่านั้นแหละ ไม่ได้สเปเชียลใหญ่โตอะไรอย่างที่ทุกคนเอาไปเขียนกัน พี่รู้สึกว่ามันเป็นความดีเหมือนคนทั่วไปที่เราทุกคนก็ทำกันเวลาไม่มีใครเห็น พี่ก็เป็นอย่างนั้นแหละ”
เขายกให้ พี่ต๊อบ เป็นผู้มีพระคุณ? “พี่ว่าตัวเขาเองก็มีพระคุณกับพี่ เพราะว่าทุกครั้งที่พี่ไปเยี่ยมเขา พี่ก็ได้บทเรียนกลับมาทุกที อ่อนน้อมถ่อมตนเป็นยังไง ความคิดที่อยากฆ่าคนแต่ไม่ฆ่าเขาเป็นยังไง(หัวเราะ) อยากจะมีปัญหากับคนเขาแต่กลัวเขาไปมีปัญหากับเพื่อนเราหลังจากที่เราเดินออกจากเรือนจำไปเป็นยังไง เราต้องหันไปขอบคุณครับ ทั้งๆ ที่ใจไม่ได้นอบน้อม จนตอนหลังใจนอบน้อมไปด้วย คือเปลี่ยนพี่ไปเยอะมาช่วงที่พี่ไปหาเขา ทำให้พี่ได้เห็นชีวิตของคนธรรมดา ของแม่ที่หิ้วชะลอมมาเยี่ยมลูก แล้วเขียนหนังสือไม่เป็น เราก็ไปนั่งกรอกให้ป้าเขา มันเป็นความชื่นใจ พี่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขามีพระคุณกับพี่นะ (เหมือนเป็นการไปแลกเปลี่ยนความคิดกัน?) ใช่ค่ะ ตัวพี่ก็อยากไปหาเขา ส่วนเขาก็รอพี่ไปหา”
ณ วันนี้ที่เขาออกมาแล้ว เราก็ยังมีการช่วยเหลือ? “ใช่ เขาก็มาทานข้าวบ้านพี่ มาทำอะไรขำๆ กันไปตามประสาแหละ ที่ไหนส้มตำปลาร้าอร่อยเราก็ชวนกันไปกิน ชวนกันไปดำน้ำ เพื่อนเราทุกข์เราก็อยู่กับเพื่อน เพื่อนเราสุข เราก็อยู่กับเพื่อน”
ตอนนี้ ยู่ยี่ พร้อมกลับมาทำงานเต็มร้อย เริ่มชินกับการออกมาใช้ชีวิต เห็นก่อนหน้านี้ค่อนข้างกลัวการออกมาเจอคน กลัวการเข้าสังคม? “ตอนนี้พร้อมแล้วค่ะ ออกกำลังกายทุกวัน สวยงาม รูปร่างดี นางเป็นคนขึ้นกล้องมากนะ แต่งหน้าขึ้นมาดูเป็นคนละคน ที่พี่ไปออกรายการกับเขา ตอนแรกเดินไปด้วยกัน แต่งหน้าเสร็จ จำไม่ได้ใครวะ ยู่ยี่นี่หว่า(หัวเราะ) ทำไมหน้าไม่เหมือนเลย เป็นคนขึ้นกล้องมาก”
อยากให้สังคมให้โอกาสเขาอีกครั้ง? “พี่ว่าสังคมเราบางทีก็ลืมให้โอกาสคน คำว่าผิดมันใหญ่มากเสมือนกับว่าเราไม่เคยผิดอย่างงั้นแหละ ทุกคนเคยผิดทั้งนั้น แทบจะไม่มีคนไม่เคยทำผิดเลย มันต้องมีผิดอะไรสักอย่าง ที่ไม่ควรทำ เราก็ชอบบอกอันนี้ผิดน้อย อันนี้ผิดเยอะ พี่ว่าผิดมันก็คือผิดมันก็พอแล้ว ถ้ามีคนให้อภัยกันมากขึ้น คนเราก็อาจจะทำผิดน้อยลงก็ได้นะ ไม่แน่”
สุขภาพตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? “ดี พี่แข็งแรงเหมือนอายุ 30 เลิกสูบบุหรี่ครบห้าปีกว่า เลิกยาเสพติด 13 ปี เลิกดื่มเหล้าไวน์ เลิกสิ่งมึนเมาทุกชนิดที่ทำแล้วทำให้พี่กลับไปเป็นคนที่พี่ไม่ชอบอีก”
จุดที่ทำให้ตัดสินใจว่าหักดิบ เลิกทุกอย่าง? “พี่ไม่ชอบตัวพี่เองในตอนนั้น ที่พี่ออกไปตามวงสังคมไปทำอะไรอย่างนั้น ถ้าไม่เมาก็ทำไม่ได้หรอก มันทุเรศอ่ะ(หัวเราะ) ทำไปได้ยังไง พี่ไม่ชอบตัวเองตลอดเวลาเลยนะคะ เนื่องจากว่าถ้าไม่เมาทำไม่ได้ไง แล้วพอหยุดเมาก็กลับไปทำอย่างเดิมไม่ได้ ก็แสดงว่าในตอนเมามันเปลี่ยนกลายเป็นคนที่ตัวเราเองก็ไม่ชอบ หลังจากนั้นพอหยุดเมาปุ๊บ ก็มาเริ่มเป็นนักเดินทางภายใน
เมื่อก่อนนี้ใช้เวลาเดินทางภายนอก ฉันต้องได้รถคันนั้น ฉันต้องเป็นแฟนคนนั้น ฉันต้องแต่งตัวแบบนั้น ฉันต้องลงหนังสือพิมพ์หน้านั้น ถึงจะมีความสุข แต่ความสุขไม่มีเลย แล้วก็ไม่เคยน่ารักกับทุกคนเลย เดี๋ยวนี้พี่เจอใครพี่ก็ยิ้ม(ยิ้ม) ใครทำอะไรพี่ก็ ครับ(ยิ้ม) พี่รู้สึกสบายตัวกว่าตั้งเยอะ”
มันรู้สึกดี เบากว่าเมื่อก่อน? “มากเลยค่ะ เดี๋ยวนี้ความสุขมันมีง่ายค่ะ เมื่อก่อน โอ้โห ยากเหลือเกิน ต้องได้นู้นได้นี่ถึงสุข สุขมาแป๊บเดียว เดี๋ยวต้องไปหาอีกแหละ แล้วแต่ละอย่างก็เบียดเบียนคนอื่นทั้งนั้น”
แล้วเวลาไปเจอเพื่อน ไปเจอสังคม เพื่อนชวนดื่ม? “เดี๋ยวนี้เพื่อนๆ พี่ไม่ค่อยชวนแล้วค่ะ เขารู้ว่าพี่ไม่ได้ไป เพื่อนๆ พี่เขาก็จะรู้แล้วล่ะ จะมาถาม น้ำเปล่ามั้ยพี่(หัวเราะ)”
เพราะปีใหม่ขอด้วยมั้ย ให้เราเลิกทุกอย่าง? “จริงๆ ถ้าพี่ไม่เลิก ปีใหม่ตายเลยนะตอนนั้น เพราะน้องเขาก็มาใช้กับพี่ น้องมาเมากับพี่ไปด้วยตอนนั้นไง เพราะเขาห้ามพี่ไม่ได้ เหมือนเขามีมิชชั่นว่าเขาจะต้องมาชาตินี้เพื่อมาเจอป๋าต๊อบเนี่ยในตอนนั้นที่แปลกประหลาดมาก มีเทวดาส่งให้เกิดมาเพื่อให้มาเจอพี่ เพื่อให้มาช่วยพี่หยุด เป็นเพราะเขา เป็นเพราะพี่รักเขา แล้วเป็นเพราะความสดใสที่พี่เห็นเขามันหายไปหมดหลังจากที่เขาเมา แล้วพี่ก็เฝ้าตามหาผู้หญิงที่สดใสที่พี่รักเขาหายไปไหน คนที่เสียงหัวเราะเขาเหมือนเสียงระฆัง เสียงกระดิ่ง แล้วเวลาเขายิ้มดูเบิกบานมันหายไปเลย ไม่เหลือเลย”
เราจึงตัดสินใจหยุดดีกว่า? “ใช่ค่ะ ไม่อย่างนั้นเขาเหมือนเป็นเทียนแล้วพี่ไปดับเขา มันไม่ไหว ตอนนี้เขากลับมาสดใสร่าเริงแล้ว”
แล้ววันนี้เป้าหมายชีวิตของเราคืออะไร? “ตอนนี้ทั้งสองคนไปเรียนที่เรียกว่า Sound Healing รับจ้างตีขันทิเบต อีกประมาณ 2 เดือนกว่าๆ พี่จะเปิดร้านขายอุปกรณ์ Healing เป็นอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการรักษาคนด้วยเสียง เสียงที่พี่พูดมันเป็นเสียงบริสุทธิ์ เสียงโอม คือเสียงที่ไม่มีการตัดสิน เสียงที่ไม่มีการต่อว่าต่อขาน เป็นเสียงที่ช่วยเรื่องซึมเศร้า ช่วยให้สมองหลั่งฮอร์โมนความสุขออกมา คนเราชอบฟังเสียงเพลง เวลาเราทุกข์ชอบหาเสียงเพลงแต่มักจะไปพลาดตรงที่ว่า อกหักฟังเพลงอกหัก มันก็เลยยิ่งรักคุดหนักกว่าเดิม แต่อันนี้คือเสียงที่ไม่มีคำพูด ช่วงนี้กำลังมาแรงมาก เพราะว่ามันช่วยฮีลมนุษย์ได้เยอะ”
คบกับปีใหม่ มานานมาก กี่ปีแล้ว? “15 ปีแล้ว ความหวานเรามีกันทุกวัน เดินผ่านกัน จับตัวกัน มือแตะไหล่กันนิดนึง มองตากันเมื่อคืนหลับสบายมั้ยจ๊ะ(ยิ้ม) ก็มีทะเลาะกันบ้างอยู่แล้ว มีเบื่อกันบ้าง คนเรามันอยู่ด้วยกัน ส่วนมากเป็นพี่ที่งี่เง่า(หัวเราะ) จะเหลือเหรอ ความเอาแต่ใจตัวเองมันก็ยังมีอยู่ จะบอกว่าเราบรรลุแก้ไขได้ร้อยเปอร์เซ็นต์มันก็ไม่ใช่ แต่ว่าถึงจะทะเลาะกันยังไง ไม่เคยบอกว่าเลิกกันมั้ย ประโยคนี้ห้าม ไม่พูดจาหยาบคายต่อกันให้อีกคนหนึ่งเจ็บ ไม่ลำเลิกเรื่องเก่า เราไม่ทำกันเลย เราพูดแค่เรื่องปัจจุบัน ถ้าโมโหกันก็อย่าเพิ่งพูดด้วย สักแป๊บหายโมโหแล้วค่อยมาคุยกัน”
