ควบ 2 วง เก้า ขึ้นแท่นนักร้องนำ Retrospect ยันไม่ทิ้ง Bad Baboon วงเก่า

เก้า ขึ้นแท่นนักร้องนำ Retrospect ยันไม่ทิ้ง Bad Baboon ควบสมาชิก 2 วง ทำคนละหน้าที่

ขึ้นแท่นเป็นนักร้องนำวง Retrospect พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับหนุ่มมากความสามารถ เก้า จิรายุ ละอองมณี ทำเอาหลายคนสงสัยว่าเจ้าตัวโบกมือลาวงเก่าอย่าง Bad Baboon แล้วหรือเปล่า?! งานนี้ หนุ่มเก้า มีคำตอบให้ชัดเจนหลังมาร่วมโชว์สดในงาน “Retrospect After Life” ที่ Lido Connect สยามสแควร์ วานนี้(22ส.ค.)

พอมาเป็นนักร้องนำให้วง Retrospect หลายคนเลยสงสัยว่าแล้วกับวง Bad Baboon ยังมีอยู่ไหม? “ยังมีอยู่ครับ Bad Baboon ตอนนี้สมาชิกเหลืออยู่ 3 คน เนื่องจากนักร้องนำแยกออกไปแล้ว อยู่ในช่วงที่วงกำลังออดิชั่นนักร้องนำคนใหม่ รวมถึงทางวงเองก็กำลังทำเพลงใหม่ๆ รอไว้เลย ถามว่าแบ่งร่างตัวเองยังไง ผมเองก็เป็นสมาชิกของทั้ง 2 วง แต่ว่าคนละบทบาท Bad Baboon ผมจะเป็นมือกีตาร์ ส่วน Retrospect เป็นนักร้องนำครับ”

“ส่วนเรื่องของการรับงานจริงๆ มันก็แบ่งเวลาได้อยู่แล้ว อย่าง Retrospect ก็จะมีจำกัดงาน ไม่ได้รับตลอดทุกวัน เพราะอยากให้ได้คุณภาพด้วย ถ้าโชว์ติดๆ กันมากเกินไปก็จะไม่ได้พักผ่อน แล้วก็ เป็นโชว์ที่ใช้พลังงานค่อนข้างเยอะ เราก็อยากให้ทุกคนที่ไปประทับใจและสนุก เลยอาจจะไม่ได้รับงานทุกวันอยู่แล้ว ฉะนั้นก็จะแบ่งไปทำอย่างอื่นได้”

วง Bad Baboon

ก่อนที่จะมารับตำแหน่งนักร้องนำวง Retrospect ได้ถามความเห็นของเพื่อนในวง Bad Baboon ก่อนไหม? “คุยครับ ถามว่าเพื่อนในวงน้อยใจไหม ถ้าพูดว่าไม่มีเลยก็คงไม่ได้ แต่ว่ามันไม่ใช่ความรู้สึกน้อยใจหรอก คนที่เป็นเพื่อนกันถ้าเขาเห็นเราได้โอกาสที่ดี หรืออย่างผมเองก็ตาม ถ้าเพื่อนได้โอกาสที่ดีเราก็ไม่อยากที่จะไปห้ามเขาหรือปิดประตูใส่เขาอยู่แล้ว ซึ่ง Bad Baboon ผมทำมาตั้งแต่วันแรก ผมก็รู้สึกว่ามันเป็นผลงานที่ผมภาคภูมิใจ ผมไม่อยากทิ้งและไม่มีวันทิ้งอยู่แล้ว สรุปว่าวง Bad Baboon ไม่แตกนะครับ ยังทำอยู่”

หลายคนสงสัยว่าทำไมเก้าไม่เป็นนักร้องนำของวง Bad Baboon เองเลย? “จริงๆ Bad Baboon ค่อนข้างมีแนวทางที่แตกต่างจาก Retrospect รวมถึงแตกต่างจากวิธีการที่ผมร้องด้วย ซึ่ง Bad Baboon จะเน้นหลักๆ เป็นการแร็พ แล้วผมก็แร็พเก่งซะด้วย(หัวเราะ) เลยอาจจะไม่ค่อยเป็นทางของผมเท่าไหร่”

วง Retrospect

“แต่เรามีภาพในหัวที่ว่าอยากทำเพลงแบบนี้กับวง Bad Baboon โดยให้นักร้องนำเป็นคนแร็พ แต่เราเองแร็พแล้วรู้สึกไม่ชอบตัวเอง แล้วก็ด้วยส่วนของการเล่นกีตาร์ด้วยถ้าแร็พไปด้วยบางทีมันต้องแยกประสาทเยอะ แล้วความหลากหลายในการที่จะทำเพลงในมุมของแร็พเปอร์จริงๆ เขาจะมีอะไรใหม่ๆ มากกว่าเรา”

แล้วเรื่องของการแสดงล่ะ? “ยังทำอยู่ครับ แต่อาจจะต้องดูเรื่องของคิวนิดนึง เพราะว่าตอนนี้โปรเจ็กต์ดนตรีมันก็รันไปค่อนข้างเยอะแล้ว เราก็ต้องดูด้วยว่าละครหรือหนังที่จะเล่นเวลาทำงานมันเพียงพอไหม ถามว่าตอนนี้เทให้ในบทบาทของการเป็นนักร้องมากกว่านักแสดงแล้วหรือเปล่า อันนี้แล้วแต่คนจะมองเลย ผมเองก็แค่ทำในสิ่งที่ผมมีความสุข”

หลายคนกลัวว่าเราจะหายไปจากการแสดง? “ไม่รู้เหมือนกันครับ เพราะตอนเล่นบางทีก็ไม่ค่อยดู พอไม่เล่นก็มาบอกคิดถึง (น้อยใจเหรอ?) บางทีก็น้อยใจเหมือนกัน พอตอนไปเล่นละครเล่นหนังก็บอกว่าเมื่อไหร่จะมาร้องเพลงบ้าง พอทำเพลงปุ๊บถามหาละครอีก ไม่รู้จะเอาใจใคร(หัวเราะ) อำเล่นนะครับ จริงๆ ก็คือไม่ได้ทิ้งอะไรหรอก จังหวะเวลาถ้ามันใช่มันก็ใช่”

“ณ ตอนนี้เราก็ทำงานในวงการมาสักพักนึงแล้ว ได้ลองอะไรหลายอย่างมากเลย ตอนนี้ผมว่ามันเป็นช่วงที่บางทีก็ต้องเลือกบ้างว่าเราทำอะไรแล้วมีความสุข ในขณะเดียวกันก็ต้องพักด้วย ผมไม่ได้อยากทำงานจนผมไม่มีเวลาว่างที่จะไปทำอะไรเปื่อยๆ”