วันที่ 28 ก.พ. ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ “แคริสม่า” ผลิตภัณฑ์ผ้าเปียกไฮจีนไวพส์ จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ คว้าครอบครัวสุดฮอต “โอ๊ค-สมิทธิ์, โอปอล์-ปาณิสรา อารยะสกุล” พร้อมลูกฝาแฝด “อลิน-อรัญ” ร่วมงาน พร้อมให้สัมภาษณ์หลังจบงานถึงเรื่องที่ลูกฝาแฝดกำลังจะเข้าเตรียมอนุบาลแล้ว
โดยโอปอล์เผยว่า “เดือนหน้าจะเข้าโรงเรียนแล้ว คือเราซ้อมมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วว่าเดี๋ยวหนูจะไปโรงเรียน เราต้องฝึกให้เขากินข้าวเองให้ได้ ทุกวันนี้พยายามฝึกให้เลิกแพมเพิร์สให้ได้”
หมอโอ๊ค “ฝึกให้ช่วยเหลือตัวเองมากขึ้น ให้แปรงฟัน เปลี่ยนชุดเอง ก็ได้บ้าง ไม่ได้บ้างตามอารมณ์ คือน้องจะเข้าเตรียมอนุบาล” 
กังวลไหม
โอปอล์ “เราไม่กังวล เราว่าลูกเราเอาตัวรอดได้ แต่เราจะกังวลในฐานะแม่กับพ่อว่าเขาไปแล้วจะยังไง ปกติอยู่ในสายตาตลอด แล้วไปอยู่โรงเรียนทั้งวันจะอยู่ยังไง แต่ครูเขาบอกว่าถ้าส่งแล้วให้เราสะบัดหน้ากลับเลยเพื่อจะได้ทำใจได้ แต่คือทำใจไม่ได้หรอก”
หมอโอ๊ค “เหมือนพ่อแม่ทุกคนที่ส่งลูกไปโรงเรียนวันแรก คือเราอยู่ด้วยกันทุกวัน มันติดกันไปแล้ว”
ใช้เวลาในการหาโรงเรียนนานไหม
หมอโอ๊ค “เราเลือกด้วยเหตุและผลครับ ตั้งแต่ที่รู้ว่ามีลูกแล้ว และอาจเพราะเราชอบศึกษาเรื่องการศึกษาอยู่แล้ว มีระบบต่างๆ ที่เราวางไว้ในใจคร่าวๆ คือยังยืนยันว่ามันไม่มีระบบที่ดีที่สุด แต่เรารู้จักลูกเรามากขึ้น พอเขาโตขึ้นมา เราเริ่มรู้ว่าเขาเหมาะกับสไตล์ไหน”
ให้ลูกไปโรงเรียนบ้างหรือยัง เพื่อคุ้นเคย
โอปอล์ “ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เราจะส่งไปเข้าคลาสสั้นๆ ประมาณอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ให้เขาได้เจอเด็กคนอื่นบ้าง เพราะทุกวันนี้เขาเล่นกันอยู่สองคน และเขาเริ่มชินกับเด็กคนอื่น ก็รอโรงเรียนเปิดจริงๆ ช่วงเดือนเมษายน เขาน่าจะโอเคขึ้น”
คิดว่าน้องจะร้องไห้ไหม
โอปอล์ “โอ้ย ร้องอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติ ส่วนน้องจะอยู่ห้องเดียวกันไหม คือเราหวังใจว่าพอลูกเข้าโรงเรียน เขาคงแยกห้อง แต่ปรากฏโรงเรียนมีห้องเดียว”
แล้วพ่อแม่จะร้องไห้ไหม
โอปอล์ “เราต้องทนให้ได้”
หมอโอ๊ค “ต้องทำให้มันเป็นเรื่องปกติ ต้องมั่นคงก่อน เพราะเด็กเขาสัมผัสได้ ถ้าใจเราแป้วไปก่อน ลูกจะแป้วตาม”
เตรียมตัวเรื่องสุขภาพลูกยังไง เพราะบางคนบอกถ้าลูกไปโรงเรียนจะเริ่มป่วย
โอปอล์ “ทำอะไรไม่ได้หรอก ตอนเด็กๆ เรายังเป็นเหา มันห้ามอะไรไม่ได้”
แต่เราจะไปรับส่งเองใช่ไหม
โอปอล์ “ใช่ค่ะ คุยกันแล้วว่าถ้าเป็นไปได้จะรับส่งพร้อมกันทั้งพ่อแม่ แต่ถ้าไม่ได้พร้อมกัน รับอาจจะพ่อ ส่งอาจจะแม่”
หมอโอ๊ค “เราอยากจะสอนการบ้านเอง อยู่กับเขาให้มากที่สุด คือการที่ลูกเข้าโรงเรียน ไม่ได้หมายความว่ายกทุกอย่างให้คุณครูดูแล เรายังเป็นส่วนสำคัญมาก บ้านเป็นสถาบันหลัก”
หลังจากน้องเข้าโรงเรียน เราจะรับงานมากขึ้นไหม
โอปอล์ “ทุกวันนี้พี่โอ๊คก็ไม่มีเวลาแล้ว ส่วนปอล์เบื้องหน้าคงน้อยเหมือนเดิม ไม่ค่อยทำแล้วเพราะเรามีกิจการของตัวเอง แต่ความประทับใจของเราคือการย้ายบริษัททั้งสองบริษัทปอล์มาใกล้โรงเรียนลูก แต่ก่อนอยู่พระโขนง เดี๋ยวนี้มาเลียบด่วนหมดแล้ว ใกล้โรงเรียนและใกล้บ้านด้วย”
หมอโอ๊ค “คงไม่มากกว่านี้แล้ว แต่อาจจะจัดสรรเวลาให้มีเวลาไปรับส่งลูกมากขึ้น อยากจะดูว่าเขาเรียนอะไร”
