แจ๊ค เชิญยิ้ม – หญิง อภิสรา พบทางสว่างหลังฝ่าโรคร้ายกว่า10ปี สานฝันพรีเวดดิ้ง พร้อมรับงานวงการ

ควงคู่มารับงานในรอบ2ปี สำหรับ คู่รัก แจ๊ค เชิญยิ้ม กับภรรยาสาว หญิง อภิสรา หลังจับมือสู้กับอาการป่วยโรคไต และวัณโรคปอด จนอาการตอนนี้เริ่มดีขึ้นมากแล้ว

ล่าสุด ทั้งคู่มาร่วมงาน ถ่ายภาพแฟชั่นเซ็ตให้กับ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร CQMIN ซึ่งเป็นธีมชุดแต่งงานที่เรียกว่าเป็นการสานฝัน ที่อยากจะมีรูปแต่งงานดีๆ สักครั้งในชีวิต พร้อมอัปเดตอาการป่วย


หญิง: “วันนี้มาในธีมบ่าวสาว งานนี้ก็เป็นเหมือนกันสานฝันการแต่งงาน มันก็เป็นความฝันอย่างหนึ่งของผู้หญิงอยากใส่ชุดแต่งงานอยากมีโมเมนต์อยากจะมีภาพสวยๆ”

แจ๊ค: “งานนี้ที่เราแต่งตัวเป็นเจ้าบ่าว ด้วยเนื้องานมันทำให้เรามีสุขภาพดีขึ้นด้วย เพราะตัวผลิตภัณฑ์ เราก็เลยอยากจะมาแบ่งปันให้กับทุกคนที่ได้เห็นการถ่ายครั้งนี้ให้คนรู้จักและได้รับประทานเหมือนเรา ให้เขาแข็งแรงมีร่างกายที่ดีขึ้นเหมือนเรา”

แล้วสุขภาพเป็นยังไงบ้าง?
แจ๊ค: “นอกเหนือจากยาที่โรงพยาบาลแล้ว ปฎิเสธไม่ได้กับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ปลอดภัยต่างๆ มันตรงกับโรคที่เราเป็นด้วย พอมันมาบวกคู่กันทั้งสองอย่างมันทำให้อาการป่วยหรือการใช้ชีวิตประจำวันของเรา มันดีขึ้นคูณสอง”

หญิง: “ก็ยังไปหาหมอเหมือนเดิม อย่างลุงแจ๊คสองเดือนนัดที แต่ของหญิงต้องฟอกเลือดแบบวันเว้นวัน จันทร์ พุธ เสาร์ สัปดาห์หนึ่งก็มีสามวัน คือชีวิตครึ่งหนึ่งอยู่โรงพยาบาล ถามว่าเบื่อไหมมันไม่เบื่อ เรียกว่าเป็นความชิน เราอยู่กับโรคนี้มา 13 ปีแล้ว ถ้าทำใจยอมรับได้ก็จะไม่ค่อยทุกข์ เราก็ไม่ค่อยทุกข์นะ เหมือนเราต้องไปตอนเช้าตีสี่ครึ่ง ก็คิดซะว่าฉันไปนอน พอถึงโรงพยาบาลเราก็หลับพอตื่นมา 10 โมงก็กลับบ้านคิดในแง่บวกว่าไปทำสวย จะได้ไม่เครียด”


รอการปลูกถ่ายเปลี่ยนไต?
หญิง: “ใช่รอไตบริจาค รอไตจากน้องชาย ตอนนี้มันก็มีปัจจัยหลายอย่างเพราะมันต้องตรวจเยอะมากกว่าจะได้เปลี่ยน ต้องผ่านขั้นตอนหลายอย่าง นอกจากจะเป็นโรงพยาบาลเอกชน ถ้าเรามีเงินก้อนใหญ่หนึ่งล้านบาทแล้วถ้าเรามีไตของญาติพี่น้อง แล้วเราก็เอาเงินหนึ่งล้านบาทไปแล้วก็สามารถเปลี่ยนได้เลย เราก็เลยต้องรอถ้าเรารอจากสภากาชาดก็คือต้องรอคิวนาน”
แจ๊ค: “คือมันสำคัญที่ไตว่าเราจะมีไตสำรองรอเปลี่ยนไหม บางทีมีเงินแต่ไม่มีไตก็ลำบาก”
หญิง: “และอีกอย่างคุณหมอกลัวว่าน้องชายที่เขาจะบริจาคไปให้อ่ะ เขาจะไม่แข็งแรง เพราะว่าน้องชายเราก็กินดื่มสูบบุหรี่ เขาก็กลัวว่าถ้าได้รับไตไปมันจะอยู่กับเราได้ไม่นาน เขาเลยอยากให้น้องไปดูแลสุขภาพให้แข็งแรงแล้วมาตรวจรอบใหม่ ถ้ามันผ่านเกณฑ์แข็งแรงแล้วอาจจะได้เปลี่ยน”

อย่างที่เห็นตอนนี้ว่าสีหน้าดูดีขึ้นมาก?
แจ๊ค: “ใช่ครับ มันอาการเฉพาะให้เห็นเลย ด้วยการดูแลตัวเอง มันทำให้เราดีขึ้นขนาดไหน เมื่อก่อนที่มันไม่ไหวจริงๆ รับงานไม่ได้เลย เดินเหินไปไหนก็ไม่ได้ ไกลแค่เดินออกมาจากหน้าหมู่บ้านมันก็เหนื่อยแล้ว พูดก็เหนื่อย คุยกันก็เหนื่อย เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปพูดถึงไดอะล็อคในการพูดหรือแสดงเลย มันทำให้เขาไม่ไหวแน่ๆ และพอกลับมามีเชื้อรอบสอง แล้วไปได้รับการรักษาใหม่อีกครั้งกับตัวยาที่มันตรงกับเชื้อที่อยู่ในปอด เอาจริงๆ มันเห็นผลในสามเดือนหกเดือน มันก็เลยทำให้เรารู้สึกมีกำลังใจในการรักษา ในการอยากจะรับประทานยา เพราะอาการมันดีขึ้นทุกวัน มันสามารถมองเห็นอนาคตว่าเราจะสามารถทำอะไรได้บ้างในการรับงาน มันมีกำลังใจ มันไม่มีอะไรที่ทำให้เราท้อ”

“วินาทีนี้เราไม่ได้คิดว่าอยากจะกลับมามีงานเยอะแยะมากมาย แต่ถามว่าเรารู้สึกเสียดายมากไหมมันก็มี แต่เราก็รู้สึกว่าเราผ่านมันมาหมดแล้ว เราได้ไปอยู่ขั้นบนสุดมาแล้วในตอนที่อายุยังน้อย อาจจะทำให้เรามีความกระหายในอะไรพวกนี้น้อยลง เพราะเราเคยพบมันแล้ว ก็เหมือนว่าตอนนี้เรากลับมารับงานเพื่อให้ได้ยืดเส้นยืดสาย ได้หายคิดถึงได้เจอพี่ๆ น้องๆ หรือได้มาสนุกมากกว่า แล้วก็บาลานซ์ชีวิตในการทำงานครอบครัวของตัวเองให้มันดีขึ้นกว่าแต่ก่อน ที่เราเคยทำงานไป 100% ตอนนี้เราได้มีความสุขในการใช้ชีวิตมากกว่าเดิม”

เปรียบเทียบรูปตอนเราป่วยในโซเชียลกับตอนนี้คือมันแตกต่างกันมาก?
แจ๊ค: “ก็คือมันแย่มาก แต่มันก็การันตีได้อย่างที่น้องพูด และคนที่เห็นเรา ข้างนอกหรือคนที่เห็นเรา เวลาที่เราไลฟ์ในโซเชียล เขาก็จะทักทายเราว่าทำไม เราทั้งสองคนดูสดใสขึ้นเหมือนไม่ป่วย คือพวกเขาดูออกว่าดีขึ้นแน่นอน กำลังใจมันเต็ม 100 มากๆ”
หญิง: “เพราะเวลาเราเปิดอินเทอร์เน็ต รูปพวกนี้มันอยู่ในอินเทอร์เน็ต เราเห็นเราไปดู เราก็รู้สึกไม่น่าเชื่อว่าเราผ่านจุดนั้นมาได้อย่างไร การที่หญิงป่วยหนักมาก นั่งรถเข็นหน้าบวมข้างหนึ่ง เราคิดว่าต้องลาโลกแน่เลย อย่างลุงแจ๊คไปเปิดดูเห็น เขาก็จะบอกว่าสงสารป้าหญิง ตอนนั้นป้าหญิงเป็นหนักมาก ไม่เชื่อว่าเราจะข้ามผ่านมันมาได้”

แจ๊ค: “แล้วอีกหนึ่งเรื่องเลยที่จะบอก นอกเหนือจากอาการป่วย การที่กลับมาเล่นโซเชียลต่างๆ สโคปงานอาจจะเล็กลงกว่าเดิม แต่ด้วยงานในโซเชียลมันทำให้เราได้เจอผู้คนไม่ว่าจะเป็นการทำคลิปหรือเป็นการไลฟ์ คือเราอยากให้อาการป่วยของเรา มันมีประโยชน์กับทุกคนที่เข้ามาดูไลฟ์ บางคนอาจจะป่วยอยู่หรือบางคนอาจจะมีญาติพี่น้อง คุณพ่อคุณแม่ที่ป่วยอยู่มาขอคำแนะนำ หรือบางคนอาจจะป่วยเป็นโรคเดียวกับป้าหญิง ป่วยเป็นโรคเดียวกับแจ๊คเข้ามาสอบถามว่าต้องทำอย่างไร หรือแม้แต่ให้กำลังใจคนที่ไม่ป่วย แม้แต่คนที่เข้าข่ายที่จะป่วยในอนาคตว่าป้องกันตัวเองอย่างไร คืออยากจะเล่าว่าตอนนี้มันมีความสุขกับการแชร์”

ความรักของคู่เราก็ถือว่าเหนียวแน่น จับมือฝ่าโรคร้ายกันมากกว่า13ปี?
แจ๊ค: “ก็เหนียวแน่น 13 ปีมันไม่มีอะไรที่รู้สึกว่ามันห่างกัน ทิ้งกัน เราไม่อยากจะไปเปรียบเทียบว่าบางคู่พอเห็นอีกคนหนึ่งป่วยอีกคนหนึ่งก็เหมือนจะตีจาก จะหนี คิดว่าคนนี้อาจจะดูแลเราไม่ได้ หรืออาจจะต้องดูแลเขาไปตลอดชีวิต เราไปหาทางอื่นดีกว่า ซึ่งมันเป็นสิทธิ์ของแต่ละคนที่อยากจะทำ แต่เรามันมากกว่าความรักไปแล้ว มันคือความผูกพัน มากกว่าครอบครัว มันขาดกันไม่ได้ มันมีความสุขที่ได้ดูแลกัน ซึ่งก่อนที่เราจะป่วย หญิงเขาก็ป่วยเกือบจะ 10 ปี ตอนที่เรายังไม่ป่วย เราก็ดูแลเขามาตลอด มันเหมือนเป็นหน้าที่เราต้องทำอยู่แล้ว ไม่ได้รู้สึกว่าใครเป็นภาระของใคร มันก็กลายเป็นว่าตลกดีที่ป่วยทั้งคู่ ในความที่มันโชคไม่ดีมันก็ยังมีความโชคดี เราก็ต้องอยู่กับมันให้ได้”

หญิง: “ป่วยมา 13 ปี ถามว่าท้อไหม มันไม่ท้ออยู่แล้ว แต่คิดอยากจะจบชีวิตไม่เคยคิด จะคิดในแง่บวกตลอด ว่าโอกาสเป็นโรคโรคหนึ่งที่สามารถรักษาหายได้ เราก็ยังสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนทั่วไป สำหรับคนที่ป่วยแล้วคิดมาก คนที่มีกำลังใจแล้วสู้มีเยอะมากนะคะ”
แจ๊ค: “แต่ด้วยบางเคสที่เกิดเหตุเกิดข่าว มันอาจจะเปอร์เซ็นต์น้อยจาก 100 มันอาจจะมีสัก 5% ที่คิดสั้น แต่ในเปอร์เซ็นต์ที่น้อยแจ๊คอยากจะบอกกับคนที่กำลังคิดแบบนั้นอยู่ ถ้าเกิดขึ้นกับคุณแล้ว มันมีอีกหลายมุมหลายด้านที่เราจะสามารถพึ่งพิงได้ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย หาความรู้เพิ่มเติมในการหาความรู้ในการรักษาโรคของเรา หรือถ้าสุดๆ เลยก็คือพึ่งธรรมะ”

อยากจะกลับมารับงานในวงการบันเทิงไหม?
แจ๊ค: “อยากจะรับงานบ้าง แต่ไม่ได้ถึงกับเยอะเหมือนเดิมแล้ว งานที่เราทำไหวและไม่เป็นภาระเขา และดูคนที่อยากจ้างงานเราจริงๆ มันมีนะ ด้วยคาแรกเตอร์ของเรา และแรงที่เราพอจะทำงานในกองถ่ายนั้นได้ก็ต้องคุยกันให้ลงตัวก่อน”

หญิง: “อย่างหญิง คือถ้าเป็นไปได้ ก็อยากจะกลับมาเล่นละคร ชอบแสดงละคร คือพอร่างกายแข็งแรงและผู้ใหญ่เห็น พี่ๆ ที่เคยร่วมงานเห็นว่าหญิงแข็งแรงขึ้นแล้ว ก็อยากจะกลับไปทำงาน อยากไปแสดงสิ่งที่เราชอบ ก็จะมีความสุขเพราะได้ทำงานแล้วเราก็จะมีพลัง”

เห็นว่าอยากมีงานแต่งสักครั้งในชีวิต?
แจ๊ค: “งานแต่งที่บอกว่าอาจจะเกิดขึ้น มันอาจจะเกิดขึ้นได้ปุ๊บปั๊บอยู่แล้ว เพราะว่าเดี๋ยวนี้มันไม่จำเป็นจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายแพงเหมือนงานอื่นๆ บางคนก็อาจจะชอบจัดงานใหญ่หรูหราในโรงแรม เราไม่ได้เป็นฟีลแบบนั้น แต่อันนี้ก็จะเป็นการบ่งบอกซึ่งการให้เกียรติซึ่งกันและกัน ให้เกียรติครอบครัวอยู่แล้ว แต่ถ้าเราคุยกันคลิกกันว่ามันอาจจะมีครอบครัวบุคคลสำคัญจริงๆ สถานที่คือแพลนไว้ริมทะเล มันมีโรงแรมที่ติดทะเลมีหาดส่วนตัวแล้วเขารับเป็นโปรโมชั่นที่มีห้องพัก พร้อมจัดสถานที่ ก็มีปาร์ตี้ริมหาด ก็เป็นงานที่เหมารวมแล้ว ซึ่งเป็นราคาที่โอเคเลย มีออร์แกไนซ์ให้ ชอบแบบนี้ไหม ซึ่งมันง่ายมากๆ ที่จะมีงานแต่งน่ารักๆ เล็กๆแค่นั้นก็พอแล้ว ซึ่งโอกาสมันมีเกิดขึ้น แต่ถ้ามันจะมีเมื่อไหร่เราจะมาบอก”

หญิง: “ก็อาจจะปุ๊บปั๊บเซอร์ไพรส์ อาจจะมี”
แจ๊ค: “มันก็ต้องดูเรื่องราวของร่างกายด้วย มันคือเรื่องที่สำคัญที่สุด การใส่ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวตอนอายุเยอะๆ มันก็น่ารักไปอีกแบบนะ ลุงป้า แต่ยังไงก็คู่นี้ร้อยเปอร์เซ็นต์”

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน