ต่าย อรทัย ปลื้มแฟนเพลงยกเป็นลูกทุ่งหญิงอันดับ 1 ทลายกำแพงในใจ กล้าเต้นมากขึ้น ไหว้พระแม่ลักษมี ขอพรเรื่องงาน ปัดขอความรัก

เป็นศิลปินลูกทุ่งสาวอันดับ 1 ที่ครองใจแฟนเพลงมายาวนานตลอด 20 ปี สำหรับลูกทุ่งสาวดอกหญ้า ‘ต่าย อรทัย’ ที่ประสบความสำเร็จในเส้นทางอาชีพนักร้อง กลายเป็นแรงบันดาลใจต้นแบบให้กับหลายคน แต่เธอก็พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ และปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย กล้าออกสเต็ปมากขึ้น เป็นการทลายกำแพงในใจที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะทำได้

ต่าย อรทัย กล้าเต้น ปัดขอพรเรื่องรัก

ลูกทุ่งสาวดอกหญ้า ต่าย อรทัย

โดย ‘ต่าย อรทัย’ ที่มาร่วมงานแถลงข่าวเปิดอัลบั้ม “ถนนคนเพลิน” ที่ศูนย์การค้ายูเนี่ยนมอลล์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับตัว กล้าเต้นมากขึ้น ออกจากกรอบภาพจำเดิมๆ พร้อมกันนี้ยังเผยถึงเรื่องที่ไปไหว้ขอพรพระแม่ลักษมี เจอหลายคนแซวมูขอเรื่องความรัก

คนยกเป็นนักร้องลูกทุ่งหญิงอันดับ1 ? “ความรู้สึกแรกเลย ตอนนี้มันมีกระแสอะไรทำไมถึงรีเสิร์ชขึ้นมาว่าเป็นนักร้องหญิงอันดับหนึ่ง ก็ถามเพื่อนพ้องน้องพี่ในทีมงานเหมือนกัน เราแอบงงอยู่เหมือนกัน (หัวเราะ) ก็ขอบคุณนะคะสำหรับหลายๆ คนที่ให้ความสนใจเสิร์ชเข้าไปจะด้วยความรู้สึกอะไรก็ตามแต่นั่นก็คือเป็นกำลังใจให้เรา ต่ายเป็นศิลปินมาในเส้นทางบันเทิงนี้ก็ 20 ปีแล้ว จะด้วยทุกคนตั้งใจฟังเพลงเราก็ตาม ให้เราเป็นแรงบันดาลใจหรือว่าให้เราเป็นต้นแบบก็ตาม ขอบคุณสำหรับการติดตามเสิร์ชเข้าไปชมให้กำลังใจ ก็ถือว่าเป็นหนึ่งกำลังใจแล้วค่ะ”

ครองใจแฟนลูกทุ่งอันดับ1 มานานหลายปี เป็นอีกหนึ่งตำนานของวงการ? “เรียกได้ว่าขอบคุณกับเส้นทาง 20 ปีว่าวันนี้เราได้อะไรกับเส้นทาง อยากจะบอกว่าเราไม่ได้แค่เดินตามความฝัน จะเรียกว่าเป็นประวัติศาสตร์ เป็นตำนานให้กับชีวิตของตัวเองก็ว่าได้ เพราะถือว่าเป็นเรื่องจริงที่เราอยู่กับเส้นทางนี้จริงๆ เราก็เป็นนักร้องในวงการจริงๆ คำต่างๆ ที่ทุกคนจะบัญญัติขึ้นมาอะไรก็ตามนี่คือกำลังใจของทุกคนในการที่จะสื่อสารที่แตกต่างกัน แต่ว่าอันนี้มันก็ยิ่งคอยตอกย้ำให้เรา 20 ปีที่อดทนต่อสู้มา แล้วเราบากบั่นกับมัน ตั้งใจกับโอกาสทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิตของเรา วันนี้ดีใจมากที่ทุ่มเททุกวินาทีที่ได้มีโอกาสเป็นศิลปิน ดีใจมากที่ทุกคนยังอยู่ร่วมเส้นทาง 20 ปีกับต่าย อรทัยมาโดยตลอดค่ะ

ต่าย อรทัย กล้าเต้น ปัดขอพรเรื่องรัก

ลูกทุ่งหญิงอันดับ1 ครองใจแฟนเพลง

สิ่งที่ทำให้เราอยู่ในวงการได้นานขนาดนี้ ไม่ง่ายกับการเป็นตำนานตลอดเส้นทาง20ปี? “อะไรที่ทำให้เราอยู่มาได้ 20 ปี มองย้อนกลับไปมองพี่ๆ ศิลปินในค่ายอย่างรุ่นใหญ่ พี่เบิร์ด ธงไชย พี่ก๊อท จักรพันธ์ พี่นาง ศิริพร พี่ไมค์ ภิรมย์พร เราก็เห็นการใช้ชีวิตเอาความเป็นจริง คือทุกคนร้องเพลงออกมาจากใจ เราสัมผัสได้ว่าเป็นต้นแบบ เป็นครูให้เรามาโดยตลอด เราจะเฝ้ามองพี่ๆ มา เราไม่ได้แค่ติดตามผลงานของพี่ๆ เขาด้วย พอได้มาอยู่ค่ายเดียวกัน เราก็คิดว่าพี่ๆ ทุกคนทำยังไงนะ อยู่มานานกว่าเราอีก บางคนมาถามต่ายว่าเราอยู่มา 20 ปี ต่ายก็เพิ่งตามมาตามหลัง เราอาจจะยังเป็นน้องใหม่อยู่ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต่ายต้องเรียนรู้เหมือนกันว่าหลังจาก 20 ปีนี้ไป เราจะยังอยู่ตรงนี้ได้มั้ย เหมือนพี่ๆ เขาหรือเปล่า ซึ่งอยากจะบอกว่าคนอื่นๆ ก็เป็นตำนานให้กับต่ายเหมือนกัน ต่ายเองก็เป็นน้องคนหนึ่งที่เดินตามมามีทุกคนเป็นต้นแบบให้กับเรา ดีใจมากสำหรับเส้นทางในวันนี้ค่ะ”








Advertisement

ศิลปินรุ่นน้องก็ยกพี่ต่ายเป็นไอดอลเหมือนกัน? “ขอบคุณนะคะ นอกจากฟังเพลงแล้ว ก็ยกให้พี่ต่ายเป็นต้นแบบ เป็นแบบอย่าง เป็นแรงบันดาลใจ ดีใจมากนะคะที่วันนี้ต่ายไม่ได้แค่ร้องเพลงออกไปให้ทุกคนได้ฟังมีความไพเราะมีความสุข แต่ว่าบทเพลงเส้นทางชีวิตที่บางคนอาจจะได้ฟังบทสัมภาษณ์มันอาจจะไปโดนความรู้สึกของใครบางคนที่อยากจะให้ลุกขึ้นมาต่อสู้ ได้ทำในสิ่งที่ดี หรือทำในสิ่งที่ต่ายเคยทำแล้วเราทำได้ เราประสบความสำเร็จ น้องๆ ก็มองว่าอยากจะลองทำเหมือนพี่ต่ายบ้าง อันนี้รู้สึกดีใจมาก ขอบคุณที่หลายๆ คนกลับมาเล่าให้พี่ต่ายฟังด้วยว่า หนูเรียนจบเพราะพี่นะ หนูมีงานทำที่ดีเพราะพี่ จากการที่หนูไม่เอาไหน ก็ได้เรียนรู้เส้นทางของพี่ต่าย นำไปเป็นต้นแบบ จนเขาสามารถที่จะก้าวข้ามอะไรบางอย่างจากที่เป็นคนไม่ได้ตั้งใจทำอะไร ก็มีอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาภูมิใจได้ในความเป็นต้นแบบของเรา ดีใจมากค่ะ”

มีการปรับเปลี่ยนเต้นโชว์ออกสเต็ปมากขึ้น เป็นการปรับตัวให้อยู่ในวงการลูกทุ่งต่อไปนานๆ? “เกี่ยวค่ะ เกี่ยวมากๆ พูดมาแล้วขนลุก(หัวเราะ) คือพยายามที่จะทลายกำแพงตรงนี้มานานหลายปีมากนะคะ ถ้าหลายๆ คนที่ได้ติดตามเพลงของต่ายจะเห็นว่ามันจะมีอยู่เพลงหนึ่ง ชื่อเพลงว่า ผู้บ่าวนินจา ตอนนั้นเป็นความตั้งใจของครูสลาว่าอยากจะให้มีภาพที่เปลี่ยน เพราะว่าต่ายเองร้องเพลงช้ามาตลอดเป็นภาพจำไปแล้วจริงๆ เรารู้สึกถนัดและมั่นใจที่จะร้องเพลงช้าอยู่แล้ว แต่ว่าเพลงนั้นมันอาจจะด้วยอะไรไม่รู้ ด้วยกำแพง ด้วยความไม่กล้า ที่เรามีประสบการณ์น้อย และมีเวลาซ้อมน้อยมากๆ มันทำให้ไม่กล้าที่จะกลับไปดูมิวสิกวิดีโอของตัวเองเลยจนบัดนี้ แต่ว่าพอครั้งนี้ครูสลาให้โจทย์มาว่า จะต้องเต้น ตอนแรกจะร้องเพลงนี้เราไม่ได้ติดเลยเพราะเราตั้งใจร้องเพลงอยู่แล้ว คิดว่าในห้องอัดไม่น่าจะมีปัญหา ครูบาอาจารย์นำพาเราให้ร้องเพลงออกมาได้อย่างสมบูรณ์แน่นอนอยู่แล้วในศักยภาพที่เรามี แต่ว่าพอมาถึงเรื่องของการเต้น เอาอีกแล้ว(หัวเราะ) ตั้งคำถาม แล้ววันนี้ยังไม่ได้มีโอกาสถามคุณครูเลยเหมือนกันว่าคิดอะไรอยู่ แต่คิดว่าครูน่าจะอยากให้มันมีภาพเปลี่ยนแล้วอยากจะให้หน้าเวทีมันมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ใช่แค่มีพาร์ตวัฒนธรรมเรื่องการฟ้อนรำ แล้วก็มาเป็นเรื่องของเพลงช้า เพลงดัง เพลงฮิต เรามีมาหมดแล้ว เพลงนี้(ลืมอ่านไลน์กลุ่ม)ก็ต้องขอบคุณที่หลายๆ คนชื่นชมเข้ามาเราได้ฟังคอมเมนต์ทีไร เราก็จะเขินทุกที เวลาคนขอมาหน้าเวทีให้เราเต้น เราก็ยังติดความเขินอายอยู่ แต่ว่าก็ทำได้เต็มที่คิดว่าทลายกำแพงอะไรบางอย่างไปประมาณหนึ่งแล้ว”

ต่าย อรทัย ทลายกำแพงกล้าเต้น ปัดขอพรเรื่องรัก

ทลายกำแพง กล้าเต้นมากขึ้น

จะมีเซอร์ไพร์สอีกไหม? “ไม่ทราบเลยค่ะ ในแต่ละเพลงหรือในอัลบั้มเป็นการมองภาพรวมของโปรดิวเซอร์ อย่างเพลงในวันนี้ก็เหมือนกัน ต่ายเองก็ไม่ถูกส่งข่าวก่อนล่วงหน้าว่าจะมีเพลงเร็วให้เต้น แต่พอได้รับโจทย์มา เราก็ทำให้เต็มที่ซึ่งวันนี้ก็มีอีกหลายอย่างที่เราต้องพัฒนาตัวเองเหมือนกัน”

มีอะไรที่เรารู้สึกว่าเรายังไม่ได้ทำ ที่อยากโชว์ให้เป็นแฟนได้ดู? “เรื่องการเต้นนี่แหละค่ะ(หัวเราะ) จริงๆ น่าเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์กับหลายคนด้วย แล้วก็เซอร์ไพรส์กับตัวเองด้วย คนอื่นเพลงนึงอาจจะซ้อมแค่วันเดียว แล้วเขาก็น่าจะถ่ายมิวสิควิดีโอได้แล้ว แต่ของต่ายคือต่อถ้าอยู่ 2 วัน แล้วเราก็ไปซ้อมอีก 20 ถึง 30 วัน แล้วเราก็มาถ่ายเพลงนี้ ก็คิดว่ามันที่สุดในชีวิตของตัวเองแล้ว ก็พยายามค่ะถ้ามีโอกาส เราก็จะทบทวนท่าของตัวเองได้ รู้สึกมั่นใจมากขึ้น”

เห็นว่าล่าสุดไปมูพระแม่ลักษมีมาด้วย? “เมื่อวานค่ะ เพิ่งมีโอกาสไป ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ต่ายไปไหว้ขอพรพระแม่ลักษมี แต่ว่าพระพรหมองค์ที่อยู่ตรงนั้น ต่ายไปไหว้อยู่เรื่อยๆ นะคะ แต่ว่าห่างหายไปหลายปีแล้ว แต่คราวนี้ทั้งต่ายและทีมงานก็มีอะไรหลายอย่างที่ทำด้วย ก็ไม่ถึงขนาดว่ามู แต่ว่าตั้งใจไปขอพร ขอพรว่าขอให้สิ่งที่ลูกทำ ทำให้มีจิตใจที่มุ่งมั่น แล้วก็เดินไปสู่เป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ให้ได้มากและขออย่าให้มีอุปสรรค และขอให้ราบรื่นทุกอย่าง ก็จะขอประมาณนี้ค่ะ”

มันอยู่ในช่วงที่หลายคนขอความรัก?ไม่ได้ขอเลยเอาจริงๆ ค่ะ ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องของความรักเลย เรื่องงานล้วนๆ ค่ะ ครอบครัวหน้าที่การงาน การทำงานล้วนๆ เลยค่ะ

ต่าย อรทัย ทลายกำแพงกล้าเต้น ปัดขอพรเรื่องรัก

ขอพรเรื่องงาน ปัดขอเรื่องรัก

หลายคนคิดว่าพี่ต่ายไปถือรูปขอคู่หรือเปล่า? “ไม่มีค่ะ ไม่ได้ถือไป (หัวเราะ)”

เป็นข่าวลือนะ? “อุ๊ย มีข่าวลือแบบนั้นด้วยเหรอ(หัวเราะ) ไม่มีค่ะ ไม่ได้ถือรูปใครไป และก็ไม่ได้ขออะไรพิเศษแบบนั้น ขอเรื่องงานค่ะ”

ส่วนตัวนับถือพระแม่ลักษมีไหม? “จริงๆ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านเราก็ศักดิ์สิทธิ์ทุกที่นะคะ แต่ว่าในแต่ละจังหวะและโอกาสมากกว่า ว่าจังหวะนี้เราตั้งใจที่อยากจะไปขอพรตรงไหนของประเทศไทย ตรงนั้นมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรบ้าง ซึ่งวันที่น้องๆ ทีมงานชวน ต่ายอยู่กรุงเทพฯ พอดี ช่วงนี้เราว่าง เราก็ไปขอกันดีกว่า จะได้รู้สึกสบายใจ เพราะว่าเรื่องการทำเพลงการทำโชว์ หรือว่าทำธุรกิจอะไรก็ตามแน่นอนปลายทางเรามีความตั้งใจ เราอยากไปถึงเป้าหมาย แต่ว่าความกังวลมันก็จะเกิดขึ้นในทุกหน้าที่ ในทุกอาชีพอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่าไปสักหน่อย เราขอพรจากพ่อจากแม่ เราขอพรจากครูบาอาจารย์ หรือจากคนร่วมงานหรือคนที่มีประสบการณ์ เราขอแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่เราได้ยึดเหนี่ยว ทางด้านจิตใจแล้วก็ไปสักหน่อย พอไปแล้วเราก็รู้สึกสบายใจ”

อัพเดตธุรกิจรีสอร์ทหน่อย? “ตอนนี้มีธุรกิจอยู่ 2 อย่าง พร้อมกันเลยตั้งแต่โควิดมาที่หลายคนเห็นภาพในโซเชียลก็คือ Nathai นาต่าย เป็นสไตล์แคมปิ้ง แล้วมีคาเฟ่เล็กๆ ทุกคนสามารถไปเจอกันได้ที่จังหวัดนครนายก เสาร์อาทิตย์ไหนถ้าต่ายไม่มีงานจ้าง เราก็จะโพสต์ให้ทุกคนได้ไปเจอกันเสาร์อาทิตย์ ต่ายก็จะต้อนรับทุกคนตลอดทั้งวัน แล้วก็มีอีกหนึ่งธุรกิจตอนนี้ก็ทำแชมพูปิดผมขาว ก็สามารถไปอุดหนุนกันได้นะคะ ต่ายก็โพสต์ลงโซเชียลให้ทุกคนได้รับทราบ”

ต่าย อรทัย ทลายกำแพงกล้าเต้น ปัดขอพรเรื่องรัก

ธุรกิจรีสอร์ท Nathai นาต่าย

ที่พักของเราตอนนี้มีมาตรการยังไงบ้าง? “จริงๆ กฎของที่พักในหลายๆ ที่ก็จะมีคล้ายๆ กันมันเป็นพื้นที่ที่เราอยู่ร่วมกับชุมชน รอบข้างเราก็อยู่ด้วยกันไม่ไกลมาก ก็อาจจะมีรีสอร์ทอื่นที่อยู่ใกล้เรา มีพ่อแม่พี่น้องชาวบ้านที่อยู่มานานแล้ว อันดับแรกคือทีมงานและแขกที่ไปพักจะตั้งกฎขึ้นมาว่าห้ามส่งเสียงดัง หรือว่าถ้าจะฟังเพลงก็ธรรมดาเนาะ เราเข้าไปพักผ่อน ก็อยากรีแล็กซ์ให้เต็มที่ ใช้เสียงได้นะคะ เปิดฟังได้ แต่มีกำหนดไม่เกิน 4 ทุ่ม อาจจะต้องงดใช้เสียง แล้วก็จะมีคนอื่นๆ ในการรักษาความปลอดภัย มีกล้องวงจรปิด ทีมงานของเราจะอยู่ทุกจุด ก็จะพักร่วมกับพี่แม่พี่น้องที่ไป และเราก็จะมีสายตรวจที่คอยตรวจอยู่เกือบตลอดเวลา ซึ่งก็มาดูแลตลอดทุกวัน อันนี้เราก็คิดว่าเราให้ความมั่นใจ กับทุกคนได้ประมาณหนึ่ง”

คนให้ความร่วมมือดี ตอนนี้ปัญหาลดน้อยลงไหม? “จริงๆ เท่าที่มีคือน้อยมากนะคะ ที่แฟนๆ ไปพัก เรายังไม่เจอปัญหาที่มันใหญ่มากๆ เช่นของหาย โทรทัศน์ พัดลม แอร์ ตู้เย็น หรือว่าอะไร ไม่มี คือแฟนๆ ไปพักน่ารักมาก ลูกค้าทุกคนไปพักคือน่ารักมาก มีนิดนิดหน่อยๆ ที่ไปกันหลายคน อาจจะมีเด็กเล็กเด็กน้อย มีบ้าง แต่ก็ไม่ถึงขนาดไปรบกวนเต๊นท์อื่นๆ”.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน