ณิชา ปล่อยชิลสถานะ โตโน่ ลั่น! การกระทำสำคัญที่สุด ไร้ปัญหาอายุต่าง 10 ปี
วันที่ 15 ก.ย.66 ที่ ชั้น 7 โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นางเอกชื่อดัง ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ ให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ “14อีกครั้ง l love you two thousand” ถึงโมเมนต์วันเกิดหนุ่มคนสนิท โตโน่ ภาคิน ที่ผ่านมา เผยที่มาคำอวยพรหวานและของขวัญวันเกิด ลั่น! ไม่กำหนดสถานะและอนาคต ปล่อยทุกอย่างเป็นธรรมชาติ ถึงเวลาที่ใช่ความรู้สึกจะบอกเอง
ณิชา ณัฏฐณิชา
พี่โตโน่ ภาคิน เพิ่งผ่านอายุ 37 มาหมาดๆ? “ใช่ค่ะ 37 แล้ว(ยิ้ม) จริงๆ ก็เป็นวันที่ง่ายๆ ธรรมดานะ ฉลองวันเกิดกัน เป่าเค้กแค่นั้นเอง จริงๆ ก็ไม่ได้เซอร์ไพรส์อะไรมากมายเลย แค่ไปที่บ้านพี่โน่ ไปกับแม่ แล้วก็ถือเค้กเข้าไปเบิร์ธเดย์ ไม่ได้เซอร์ไพรส์ด้วย เดินถือเค้กเข้าไปให้ถามว่ารีแอ๊กชั่นเขาเป็นยังไง เขาก็เออๆ มาเป่าเค้กกันแค่นั้นเลยค่ะ(หัวเราะ)”
นอกจากเค้กมีอะไรให้เป็นของขวัญอีกไหม? “คือจริงๆ เป็นของขวัญที่ไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นของขวัญวันเกิด แต่ว่ามันใกล้ๆ วันเกิดพอดี ก็เป็นแว่นค่ะ ที่ซื้อให้เพราะว่าพี่โน่ชอบมาแย่งของหนูใส่ หนูก็เลยรู้สึกว่าอย่ามาแย่งกันใส่ได้มั้ย หนูก็เลยซื้อให้เลย (เป็นแว่นคู่เลยไหม?) ก็ไม่เชิงคู่หรอกค่ะ ไม่ได้ใส่คู่กันขนาดนั้น แต่มันลักษณะเหมือนกัน (เราเลือกให้เองเลย?) เรารู้เพราะว่าเขาแย่งเราใส่บ่อย เลยรู้ว่าชอบแน่ๆ ก็ซื้อให้เลย”
แคปชั่นอวยพรวันเกิด 37 แล้วยังน่ารักอยู่เลย? “น่ารักมั้ยล่ะ(ยิ้ม) ก็น่ารักเหมือนเดิม ก็น่ารักทุกอย่าง แล้ววันนั้นก็เป็นวันที่น่ารักดี เราชอบอะไรที่สบายๆ ง่ายๆ อยู่แล้ว มวลรวมมันก็เลยเป็นคำว่าน่ารักเหมือนเดิม(ยิ้ม)”
โตโน่-ณิชา
ตอนที่พิมพ์ไปมีจั๊กกะจี้ตัวเองไหม? “ไม่ๆ วันนั้นก็รู้สึกว่าเป็นฟีลที่น่ารักจริงๆ มันไม่ได้มีแค่หนู มีคุณแม่พี่โน่ด้วย แม่หนูด้วย ผู้จัดการด้วย มวลรวมมันน่ารักค่ะ ก็รู้สึกว่า 37 แล้ว เขายังน่ารักเหมือนเดิม (ยิ้ม) ส่วนเขาก็ไม่ได้แซวอะไรนะคะ แต่เขาก็เขิน คือถ้าแกล้งเขาเยอะๆ เขาจะเขิน”
อาการเขินของเขาเป็นยังไง? “จริงๆ เวลาเขาโดนสัมภาษณ์เรื่องหนู ก็ประมาณนั้นแหละค่ะ เขาจะพยายามเก็บทรงนิดนึง แต่เขาก็จะบอกว่าพอแล้วๆ (ยิ้ม) นั่นก็คือเขินแล้ว (มีเสียงสองไหม?) ก็มีบ้างนะคะ ก็คงเสียงซอฟต์ๆ แหละ แต่ละสถานการณ์ก็เสียงไม่เหมือนกัน (ชอบเขาในแบบไหนมากกว่า?) ได้หมดเลยค่ะ(ยิ้ม)”
อวยพรอะไรพี่โน่บ้าง? “ก็ปกติธรรมดาค่ะ ขอให้มีความสุข ขอให้สุขภาพแข็งแรง ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ (จนถึงวันนี้ความรักยังดีใช่ไหม?) ก็ดีค่ะ(ยิ้ม)”
ฝ่าฟันกันมาเยอะเหมือนกัน? “จริงๆ หนูไม่ได้รู้สึกขนาดนั้นเลย ไม่ได้รู้สึกฝ่าฟันอะไร ก็สบายๆ กันอยู่แล้วค่ะ เลยไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นยังไง ชิลๆ เรื่อยๆ ก็รู้จักกันไป ดูแลกันไป ซัพพอร์ตกันไปแค่นั้นเอง”
ตั้งแต่สัมภาษณ์มายังไม่ได้ยินเรียกว่าแฟนเลย? “ก็มันไม่ได้คุยกัน คือถ้าหนูพูดมันก็มีขึ้นมาเอง คือเราชิลๆ ไม่ได้ว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ เราเป็นคู่ที่เป็นธรรมชาติมากๆ ไม่ได้ฟิกซ์อะไรตายตัว ชิลๆ มาเรื่อย คือพอไม่ได้พูด แล้วอยู่ดีๆ ให้หนูมาพูด มันก็รู้สึกแปลกๆ นิดนึง(ยิ้ม) (รอเขาพูดก่อนไหม?) ไม่ต้องพูดก็ได้ค่ะ หนูไม่ได้ต้องการ(ยิ้ม)”
การที่ไม่ได้ระบุสถานะทำให้เราสบายใจกว่าไหม? “สำหรับหนูการระบุหรือไม่ได้ระบุ มันไม่ได้สำคัญ มันอยู่ที่การกระทำ และสิ่งที่เป็นมากกว่า มันสำคัญกว่า ต่อให้เราจะเรียกอะไรก็ตาม แต่ถ้าความรู้สึกจริงๆ หรือการกระทำของเรามันไม่ได้สอดคล้องกันหรือไม่ได้เป็นแบบนั้น มันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรเท่าไหร่ มันอยู่ที่การกระทำมากกว่า”
ด้วยอายุที่ห่างกันเป็น 10 ปีมันมีช่องว่างไหม? “คือคนเราทุกคนไม่มีอะไรที่ตรงกันไปหมดอยู่แล้วค่ะ แต่ถ้าปัญหาเรื่องช่องว่างเรื่องอายุก็คือไม่มี หรือหนูไม่ได้มองว่ามันเป็นปัญหาก็ไม่รู้ หนูก็รู้สึกว่าเป็นธรรมชาติไป หนูคิดแบบนี้ เขาคิดแบบนี้ แล้วก็มาคุยกันก็จบ ไม่ได้คิดว่ามันคือปัญหาของระยะห่างของอายุ”
โตโน่-ณิชา
บางคนอาจจะมองว่าเราเด็กกว่าเยอะ เราอาจจะเอาแต่ใจมากกว่า มีปัญหาตรงนี้ไหม? “ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้นะคะ (ถ้าจะทะเลาะกัน ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องอะไร?) ถ้าจะเถียงกันก็คงเรื่องกินข้าว ถ้าจะกินเยอะๆ แล้วเขาชอบบ่น หนูก็จะบอกว่าบ่นทำไม ก็มันอยากกิน ก็จะมีบ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากค่ะ”
เรามีความคิดโตด้วยกันทั้งคู่ไหม? “ก็ไม่หรอกค่ะ หนูไม่รู้ว่ามันโตมั้ย แต่หนูก็มีมุมเด็กแหละ แต่มีอะไรเราก็คุยกันแค่นั้นเอง (เรียกแทบไม่ค่อยทะเลาะกัน เพราะเปิดใจคุยกันตลอด?) ใช่ค่ะ ก็จะคุยเลย”
ที่ผ่านมาไม่เคยทะเลาะกันเรื่องใหญ่ๆ เลยใช่ไหม? “มันไม่เคยทะเลาะกันแบบต่อสู้หรือข่มกันเลย มีแต่แบบว่าฉันรู้สึกอย่างนี้ คุณรู้สึกอย่างนี้ เอายังไงดี หรือแบบนี้ณิชาต้องปรับนะ อันนั้นช่วยกันปรับนะ คือมันก็คุยกันได้ค่ะ มันไม่ได้ว่าต่อสู้เป็นฝั่งตรงข้ามกัน ตอนนี้อย่างเดียวที่คุยกันคือใช้ชีวิตที่อยากทำให้ดี ณิชาอยากไปงานสายไหน อยากจะทำอะไรก็ไปให้สุดเลย หนูก็เหมือนกัน พี่อยากทำอะไรก็ทำให้สุดเหมือนกัน เรารู้สึกว่าในตอนนี้ที่เรายังมีแรงกัน เราก็อยากให้ต่างคนต่างทำในพาร์ตของตัวเองให้เต็มที่ค่ะ ซัพพอร์ตกันไป”
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ผู้ชายคนนี้เป็นคำตอบของเราในอนาคตใช่ไหม? “คือหนูเป็นคนที่ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติมากเลย หนูไม่ได้คิดตายตัวหรือปักหมุดไว้ หนูไม่เป็นอย่างนั้น”
สำหรับผู้หญิงบางคนอาจจะวางแผนว่าสักอายุ 30 จะแต่งงาน? “ไม่ได้วางเลยค่ะ ตามความรู้สึกดีกว่า เมื่อไหร่ที่รู้สึกใช่ เดี๋ยวมันจะเป็นไปเอง (แต่ถ้าสมมติเป็นคนนี้จริงๆ ในอนาคตล่ะ?) สมมติเหรอคะ ถ้าเป็นพี่โน่ก็โอเคอยู่แล้วค่ะ มันก็คงเป็นสิ่งที่เราตัดสินใจไปแล้ว และมันคงโอเคแล้ว เราถึงได้อยู่ไปถึงตรงนั้น แต่ทุกวันนี้ก็เต็มที่ในพาร์ตของตัวเองก่อน หนูยังมีอีกหลายอย่างเลยที่อยากทำในชีวิต”
