รู้อยู่แล้วว่าต้องคิดเพราะมันปุ๊บปั๊บจริงๆ เคลลี่ ประกาศแต่งงานรอบ 2 มั่นใจ ‘พลอยไพลิน’ ลั่นคนที่ใช่ ลั่นรักมาก ชีวิตนี้ขาดเขาไม่ได้ เคลียร์ชัดโดนเม้าธ์ท้องก่อนแต่ง

ประกาศข่าวดี เตรียมเข้าพิธีวิวาห์อีกครั้ง ในวันที่ 2 ตุลาคมนี้ สำหรับพระเอกรุ่นใหญ่ “เคลลี่ ธนะพัฒน์” กับแฟนสาวนอกวงการ “พลอยไพลิน” หลานสาว ‘แซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี’ หลังคบหาดูใจกันมา 2 ปี

ล่าสุด ‘หนุ่มเคลลี่’ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังมาเป็นแขกรับเชิญเปิดใจในรายการ “ทัวร์มาลง” ณ สตูดิโอ MONO29 ถนนชัยพฤกษ์ นนทบุรี ถึงแพลนแต่งงานที่ฉุกละหุก หลังดูฤกษ์มากะทันหัน พร้อมเคลียร์ประเด็นคนเม้าธ์ท้องก่อนแต่งหรือเปล่า แถมยังหยอดหวาน ‘พลอยไพลิน’ ว่าที่เจ้าสาวคือคนที่ใช่ ชีวิตนี้ขาดเขาไม่ได้

ใกล้จะมีข่าวดีแล้ว?
“วันที่ 2 ต.ค. ครับ (ยิ้ม) ตอนนี้เริ่มตื่นเต้นแล้ว เพราะใกล้จะถึงวันแล้ว ต้องบอกว่างานนี้น่าจะเร็ว เพราะเราทั้งสองกำลังยุ่งกับเรื่องจัดงาน ก็ฉุกละหุกนิดนึง จริงๆ แพลนไว้ว่าจะแต่งงานต้นปี แต่กลายเป็นว่าพอไปดูฤกษ์แล้วได้มาตอนแรกเขาบอกว่าควรจะแต่งก่อนที่จะถึงวันเกิดผม เพราะผมเกิด 8 พ.ย. แล้วได้วันที่ที่ดีที่สุดคือวันที่ 2 ต.ค. ก็เลยกลายเป็นวันนั้น แต่จริงๆ ใจผมอยากจะแต่งประมาณเดือน 2 เดือน 3 ปีหน้า ยังมีเวลาวางแพลนเตรียมงาน”

แสดงว่าเพิ่งได้ดูฤกษ์
“ผมคิดว่าจะแต่งงานกันต้นปีหน้า ก็เลยไปดูฤกษ์ พอได้ฤกษ์มาก็ตกใจ เร็วมาก คือเร็วสำหรับการเตรียมงาน ก็เลยเป็นงานเล็กๆ ที่จะมีครอบครัวทางพลอยและเพื่อนๆ ที่สนิทกันกับเราทั้งคู่ อย่างแรกเลยต้องขอโทษเลยที่อาจจะไม่ได้เชิญในวงการ เพื่อนๆ พี่ๆ ผู้ใหญ่ในวงการมา เพราะเนื่องจากเราจัดงานเล็กๆ กันก่อน และเกรงใจด้วยเพราะค่อนข้างจะเร็ว”

มีความรู้สึกว่าพร้อมแต่งตั้งแต่เมื่อไหร่?
“คือผมรู้สึกตั้งแต่เดือนแรกที่คบกับทางคุณพลอย ผมรู้สึกได้เลยว่าคนนี้แหละคือคนที่จะแต่ง ผมก็บอกเขาไปนะว่า ผมจะแต่งงานกับคุณ นี่เป็นความรู้สึกข้างในจริงๆ แต่พอคบกันมาตอนนี้เข้าปีที่ 2 แล้ว ก็ได้คุยกันว่ามันก็ถึงเวลาแล้ว เพราะเราคบกันมาจะ 2 ปีแล้ว โดยอายุ ความพร้อม ก็รู้สึกว่าเราพร้อมแล้ว ก็คิดว่าต้นปีหน้าด้วยที่คิดว่าเราจะมีเวลาพอที่จะเตรียมงาน และมองไปถึงอากาศบ้านเราว่าน่าจะเหมาะสม พอได้เดือน ต.ค.ก็ตกใจเพราะมีเรื่องของฝนด้วย”








Advertisement

ทำไมถึงคิดว่าคนนี้แหละคือคู่ชีวิตเรา?
“หลายคนก็ถามนะครับ แต่ตอบยากนะ ถ้าจะบอกว่าเขาน่ารัก เขาดี เขาดูแลเรา อันนี้ก็ใช่อยู่แล้ว แต่มันเป็นความรู้สึกที่อยู่ข้างใน ไม่รู้สิ มันมีเยอะมาก และอธิบายไม่ได้หมดว่าทำไมถึงเป็นคนนี้ แต่เวลาผมอยู่กับเขา ผมรักและขาดเขาไม่ได้ เขาทำให้ผมมีความสุข และแฮปปี้ ทำให้ผมอยากอยู่ด้วย รวมถึงครอบครัวของทางพลอยด้วยนะครับ คุณพ่อคุณแม่เขาให้ผมเหมือนผมเป็นลูกชายคนนึง ให้ผมรู้สึกเขาให้ความอบอุ่น ผมอบอุ่นมาก​ก็รู้สึกว่าโชคดีครับ”

เล่าโมเมนต์ตอนขอแต่งงานหน่อย?
“จริงๆ ที่คุยกันยังไม่ได้มีการคุกเข่าเซอร์ไพรส์นะครับ แต่น่าจะมี(ยิ้ม) แต่วันนั้นก็คุยกันตรงๆ ว่าคงถึงเวลาแล้ว เพราะผมบอกเขาตั้งแต่เดือนแรกแล้วว่าคุณคือคนที่ใช่แน่ เมื่อเรารู้สึกว่าเราทั้งคู่พร้อมแล้ว เราก็ได้คุยกันว่าน่าจะเป็นต้นปีหน้า ก็มาดูฤกษ์กัน แต่พอได้วันที่ไวก็มีหลายๆ อย่างที่ผมยังไม่ได้ทำในสิ่งที่ผมอยากทำ แต่ยังไงเดี๋ยวก็ต้องมีครับ”

เขาว่ายังไงบ้างจะแต่งงาน?
“ตอนแรกก็คุยกันว่าจะจัดงานทันไหม จะเตรียมทุกอย่างทันไหม แขกจะมาทันไหม อย่างผมเองคุณแม่ไม่ได้อยู่แล้ว คนที่ผมรักเหมือนคุณแม่คือคุณป้าท่านอยู่อเมริกา อายุ 80 ปีแล้วท่านจะมาได้ไหม แล้วฝ่ายของพลอยด้วยที่มีญาติอยู่ที่ต่างประเทศ เราก็ต้องคุยว่าแขกสำคัญของเรามาได้ไหม พอตรงนี้ได้ปุ๊ป เราก็ลุยเรื่องการจัดงานเลย พลอยเขาเหนื่อย เป็นคนดูรายละเอียด เราก็สไตล์ผู้ชายอะไรก็ได้”

เขาคิดเราจ่าย?
“อย่าพูดนั้นสิๆ (หัวเราะ) ไม่ใช่แบบนั้น เราก็ต้องตามใจแฟนเราอยู่แล้ว ผู้หญิงอยากได้แบบไหนเราก็ตามใจ เราให้ไอเดียได้ก็ตามใจเขาอยากได้ดอกแบบไหน ชุดแบบไหน เราก็ให้ฟีดแบ๊ก ก็เต็มที่ครับ แต่ว่าเราไม่ได้จัดงานเลี้ยงใหญ่ เป็นงานเล็ก มีแต่ครอบครัว งานไม่มีธีม เป็นสไตล์ฝรั่งมากกว่า แต่เรามีพิธีสงฆ์ตอนเช้า มีสวมแหวน รดน้ำสังข์ตามประเพณีไทย มีทานข้าวกลางวัน งานค่อนข้างเรียบง่าย ไม่มีแห่ขันหมาก ไม่ได้มีโชว์สินสอด แล้วก็จะมีการจดทะเบียนในวันนั้นเลยครับ จัดงานที่ปาร์คนายเลิศ”

เขามีกังวลตรงไหนไหม?
“เขากังวลเรื่องที่นั่งแขก เพราะเรามีทานกลางวันกัน ก็กังวลว่าแขกคนนี้จะอยู่กลุ่มไหน เขาใส่รายละเอียดในเรื่องจัดงานนี้เยอะมาก ผมก็รู้สึกผิดว่าอาจจะไม่ได้ช่วยเขาพอควร เราก็แล้วแต่ ได้หมด แต่พอใกล้วันดีเทลเยอะมาก ก็นั่งคิดว่าพาร์ทของเราลืมอะไรไหม ก็เริ่มตื่นเต้น แขกก็ประมาณ 140 คน”

มองภาพครอบครัวไว้ยังไงบ้าง จะมีลูกเลยไหม?
“เรื่องลูกยังไม่แน่ใจว่าจะมีหรือไม่มี ยังไม่ได้ตัดสินใจกันว่าเราควรจะมีหรือไม่มี ถ้าถามว่าจะเป็นคุณพ่อแบบไหน สามีแบบไหน ก็หวังว่าจะเป็นสามีที่ดี จะพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เขามีความสุข สิ่งที่เราทำได้คือให้เขารู้สึกถึงความรักที่เรามีต่อเขาทุกวัน ให้เขารู้สึกว่าเรารักเขาทุกวัน ให้เกียรติเขา พลอยเขาน่ารัก เขาเตือนสติผมในหลายๆ เรื่อง เราไม่ใช่อายุน้อยๆ ก็ต้องคิดถึงเรื่องอนาคตของเรา หรือในหลายๆ เรื่อง เราเป็นผู้ชาย เราอยู่ในวงการนี้ บางทีเราก็ไม่ได้วางแผน ไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดเหมือนเขา ที่เขาทำงานบริษัท ทำงานองค์กรมา เขาก็ช่วยเราได้เยอะครับ”

พอมีข่าวออกมาแบบนี้ชาวเน็ตก็สงสัยว่าแต่งอีกแล้วเหรอ?
“อีกแล้วเหรอ ก็ไม่ได้แต่งมาบ่อยนะครับ ก็เพิ่งเคยแต่งมาแค่ครั้งหนึ่ง ไม่เป็นไรครับ ผมก็นั่งคิดแต่งมากี่ครั้งแล้วเหรอ (หัวเราะ)”

รู้สึกอย่างไรที่คนมาจับจ้องตรงนี้?
“ไม่รู้สึกอะไรเลยครับ”

พอประกาศแต่งปุ๊บปั๊บคนเลยสงสัยว่ามีน้องหรือเปล่า?
“อันนี้ผมรู้อยู่แล้วว่าคนต้องคิด เป็นผมก็คิด เพราะมันไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะมันปุ๊บปั๊บจริงๆ แต่ไม่ได้ท้องก่อนแต่งครับ อย่างที่บอกว่า ไปดูฤกษ์แล้วได้ฤกษ์มา เราแพลนที่จะแต่งอยู่แล้ว แต่เป็นต้นปี อาจจะเลื่อนวันที่มาเร็วขึ้น ถ้าจัดทุกอย่างได้ทัน อันนี้เป็นสิ่งเดียวที่ผมกังวลว่าจะทันมั้ยครับ”

เขาเครียดมั้ยพอมีข่าวออกมาว่าท้องก่อนแต่งหรือเปล่า?
“ไม่เลยครับ ก็ไม่ได้ท้อง ก็ไม่ต้องเครียด ง่ายๆ เลย (คนมาวิจารณ์มาคอมเมนต์?) ห้ามเขาไม่ได้หรอกครับ สมัยนี้คนเขาวิจารณ์สนุกสนาน ถ้าเราไม่ไปเครียดกับคำวิจารณ์ซึ่งมันไม่ได้เป็นจริง เราก็ไม่ต้องไปเครียด เขาอยากจะพูดเราห้ามเขาไม่ได้ คนมีสิทธิ์ที่จะคิด และเป็นผมเองก็คิด ท้องก่อนแต่ง ทำไมอยู่ดีๆ ถึงแต่ง ที่ไม่ได้แจ้งด้วยคือตัวผมไม่ได้เป็นคนที่ป่าวประกาศ และเป็นคนที่ค่อนข้างจะมีความเป็นส่วนตัว อีกอย่างเราวุ่นการจัดงาน การ์ดก็เพิ่งจะทำเสร็จเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ทุกอย่างมันค่อนข้างจะไวครับ ก็เลยยังไม่ได้แจ้งสื่อ”

อยากจะพูดถึงว่าที่เจ้าสาวอย่างไรบ้าง?
“รักนะครับ รักมากขึ้นทุกวัน คุณพลอยเป็นคนที่ดี เป็นแฟนที่ดีมาก อย่างที่บอกผมนึกไม่ได้เลยว่าถ้าชีวิตนี้ไม่มีเขาจะเป็นอย่างไร เรารู้สึกว่าเราขาดเขาไม่ได้ อาจจะดูเลี่ยนไปหน่อยแต่ก็เป็นเรื่องจริงนะครับ เรารัก”

ศึกษาดูใจกันมากี่ปีแล้ว?
“จะเข้า 2 ปีแล้วครับ”

เร็วไปมั้ย?
“ไม่ บางคนเจอกันปุ๊บปั๊บอาทิตย์เดียวก็แต่งอยู่ด้วยกันมาทั้งชีวิต บางคนรู้จักกันมาเป็น 10 ปีแต่งก็เลิก ผมว่าไม่เกี่ยวกับเวลา มันเกี่ยวกับการคบกัน การปรับตัวเข้าหากัน เคยมีคนบอกผมว่าความรักอย่างเดียวมันไม่พอ ผมก็ไม่เข้าใจตรงนี้ ทำไมล่ะคนรักกันทำไมมันถึงอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่จริงๆ แล้วมันมีหลายปัจจัยนะ การที่คนเราจะอยู่ด้วยกันได้ ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ระหว่าง 2 คน คนรอบข้าง ครอบครัว มันมีหลายปัจจัย อันนี้เราไม่อาจบอกได้หรอกว่าเพราะอะไร คือผมคิดว่าไม่มีใครอยากคบ อยากแต่งแล้วเลิก แต่ถ้าเขาแต่งแล้วเลิกก็อย่าไปว่าเขา ซ้ำเติมเขา เพราะเขาก็เสียใจพอแล้ว การที่เราไปซ้ำเติม ไปสมน้ำหน้าหรือต่อว่าเขา อย่าไปซ้ำเติมกันให้เป็นบาปเลย เพราะเราก็ไม่รู้ว่าที่เขาจะต้องแยกทางกันเหตุผลคืออะไร ผมเชื่อว่าทุกคนที่เขาต้องแยกทางกันเขาก็รักกัน แต่มันมีเหตุผลที่เขาไม่ได้แจ้งเราว่าเพราะอะไร”

หลายๆ คนแสดงความยินดีเยอะเหมือนกัน?
“ขอบพระคุณจากใจนะครับ ดีใจมากที่มีคนเขามาแสดงความยินดี และสนใจไม่ว่าจะเรื่องของงานหรือเรื่องของผม เขาเห็นผมมีความสุขแล้วเขาก็มีความสุขด้วยอันนี้ผมซึ้งใจมากๆ นะครับ ผมชอบคุณจริงๆ ครับ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน