ผู้บริหาร ไทบ้าน จ่อเอาผิดมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อบริษัท หลอกลวงอนาจารสาว ยันไม่มีนโยบายรับคนเข้าสังกัด ห่วงแฟนคลับหวั่นหลงเชื่อ

พุ่งไม่หยุดฉุดไม่อยู่แล้ว ความสำเร็จของภาพยนตร์ สัปเหร่อ เรื่องล่าสุดของจักรวาลไทบ้าน กวาดรายได้ทั่วประเทศทะลุ 500 ล้านบาทแล้ว ล่าสุดวันที่ 24 ต.ค. 66 ผู้บริหารบริษัท ไทบ้าน โอม อวิรุทธ์ อรรคบุตร พร้อมด้วย ต้องเต ธิติ ศรีนวล ผู้กำกับฯ และทีมนักแสดงนำ ได้เปิดใจถึงปรากฏการณ์ความสำเร็จของ สัปเหร่อ ที่ตอนนี้กำลังจะส่งหนังไปชิงรางวัลต่างประเทศ

ผู้บริหาร ไทบ้าน – ต้องเต ผกก. ทีมนักแสดงนำ สัปเหร่อ

พร้อมกันนี้ได้ชี้แจงกรณีที่มีมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อบริษัท ไทบ้าน หลอกลวงอนาจารสาว บอกไม่นิ่งนอนใจอยู่ในขั้นตอนรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด ยืนยันทางบริษัทไม่มีนโยบายรับนักแสดงเข้าสังกัด ห่วงแฟนคลับที่ยังเป็นเยาวชนอาจหลงเชื่อ อยากให้ติดตามความเคลื่อนไหวและข่าวสารจากทางเพจหลักของไทบ้าน

ถามถึงเรื่องที่มีมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นชื่อทีมงานไทบ้าน หลอกลวงคนมาแคสต์เป็นนักแสดงในสังกัด?
โอม : “เบื้องต้นทางบริษัทได้พูดคุยกันแล้วว่าจะรวบรวมข้อมูล เพื่อให้ทีมกฎหมายดำเนินคดีต่อไป เพราะว่าเราเคยเจอรูปแบบนี้มาตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่สร้างไทบ้าน ซึ่งเป็นการปลอมแปลงเฟซบุ๊ก แต่รอบนี้มันค่อนข้างหนัก เพราะว่ามีเป็นโมเดลลิ่งการลวงทำให้เกิดความเสียหาย ทางผมกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อจะดำเนินคดีต่อไป แล้วก็เบื้องต้นทางเราพยายามประกาศทางออฟฟิเชียลบ่อยๆ ว่าเราไม่มีการเปิดรับคนไปหาบุคคลมา เนื่องจากว่าไทบ้านเราไม่มีสัญญากับน้องๆ แล้วเราก็ไม่มีนโยบายที่จะเอาน้องๆ มารวมกันแล้วค่อยๆ ป้อนงาน คือน้องๆ สามารถมีอิสระในการรับงานได้เลย บางคนอาจจะเข้าใจว่าไปอยู่แล้วมีสัญญานะหรือเซ็นไปแล้ว 3 ปี ไม่มีนะครับ ไทบ้านไม่มีนโยบายแบบนั้น”

มีน้องๆ ที่เป็นผู้เสียหายติดต่อมาหาทีมไทบ้านเยอะมั้ย? โอม : “จริงๆ หลังบ้านก็ค่อนข้างจะมี นอกจากเคสที่เป็นข่าว เราก็พยายามรวบรวมข้อมูลอยู่ ก็ค่อนข้างจะเยอะ เนื่องจากว่าบางทีมันก็กำกวมระหว่างคำว่าหาสาวๆ สไตล์ไทบ้าน เขาก็ตีความว่าเป็นไทบ้านแล้ว ซึ่งจริงๆ คำว่าไทบ้านมันไม่ใช่ว่าเหมารวมพวกเรา มันหมายความได้หลายรูปแบบ ไทบ้านมันมีเยอะมาก ไม่ได้มีแค่พวกผม เราก็พยายามประกาศว่า ของเราเองไม่ได้มีนโยบายหาบุคคล”

เตรียมดำเนินคดีมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อบริษัทไทบ้าน

จากเคสที่เป็นข่าว มีหลักฐานยังไงบ้าง? โอม : “ทางหลังบ้านรวบรวมอยู่ครับ เรื่องของความเสียหาย ตอนนี้เรื่องรายละเอียดให้ทางทีมกฎหมายดู”

ตั้งใจจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด? โอม : “ตั้งใจครับ ต้องยอมรับว่าฐานแฟนคลับเราเมื่อก่อนตอนรุ่นแรกที่เรามี ตอนนี้เขาเริ่มโต ทีนี้พอมาเรื่องนี้ฐานแฟนคลับเราอายุลดลงไปอีก นั่นหมายความว่าวุฒิภาวะในการตัดสินใจบางทียังไม่เต็มร้อย เราก็เลยพยายามจะเอาข้อมูลตรงนี้เพื่อสื่อสารกับแฟนคลับเรา (มีความเป็นห่วงแฟนคลับ?) ใช่ครับ เป็นห่วงพอสมควร”

ความคืบหน้าจะดำเนินการเมื่อไหร่? “น่าจะภายในอาทิตย์หน้าครับ เริ่มดำเนินการได้แล้ว เพราะตอนนี้กำลังรวบรวมข้อมูลกัน”

เรื่องนี้สร้างความเสียหายให้กับบริษัทเราอย่างไร? “หลักๆ เราเป็นห่วงเรื่องแฟนคลับ อย่างที่บอกเราโฟกัสแฟนคลับเป็นหลัก บางคนมีความฝันอยากเป็นเหมือนนักแสดงไทบ้าน แล้วมีความรู้สึกว่ามันเป็นง่าย อาจจะมีช่องทางที่เป็นทางลัด แต่จริงๆ มันไม่มีทางลัด เพราะว่าแต่ละคนกว่าจะมาอยู่จุดนี้ได้ก็นาน ก็เลยอยากจะฝากไปถึงแฟนคลับว่ามันไม่มีอะไรที่เป็นทางลัด บางทีอยู่ที่โอกาส ที่ดวงด้วยส่วนหนึ่ง รอติดตามข้อมูลในเพจใหญ่ เพจ Thibaan Channel และ เซิ้งมิวสิก ที่จะมีการชี้แจงอยู่เรื่อยๆ ติดตามที่เพจหลักออฟฟิเชียลครับ”

ฉลอง 500 ล้านกันยังไงบ้าง?
โอม : “เราก็วางแผนกันอยู่ครับ ตอนนี้คิวน้องๆ แน่นมาก ไม่มีเวลาได้พักกัน เคลียร์งานกันเสร็จน่าจะเป็นเดือนหน้าจะได้รวมตัวกันอีกที น่าจะไปญี่ปุ่น น้องๆ อยากจะไปญี่ปุ่น”
ต้องเต : “ช่วงนี้ก็จะฟีลตื่นเต้นเสียมากกว่า ดีใจ แปลกใจ เราทำงานเบื้องหลังแต่ช่วงนี้ออกสื่อเยอะมาก กลายเป็นเรามีกระแส ก็งงเหมือนกัน ทุกอย่างเข้ามาพร้อมๆ กันมากๆ”

คิดไหมว่าจะมาไกลขนาดนี้ 500 ล้าน?
ต้องเต : “คิดไว้ลึกมากๆ ลึกเกิน คิดว่ามันคงได้ 100 ล้าน คิดแค่นั้นแหละ มันคงมีสิทธิ์ได้ 100 ล้านแหละถ้าเราทำเต็มที่พอ เราอยากสร้างคุณค่าให้กับหนังเรื่องนี้ถึงเราไม่ได้ยอด 100 ล้าน แต่ก็มีคุณค่าที่เราได้เก็บบันทึกประวัติศาสตร์ความทรงจำของชาวอีสานไว้ ผมคิดแค่นั้นเลย ไม่ได้คิดไกล แต่พอมาถึงจุดนี้ ได้แค่นี้ก็พอแล้วครับ ตัวเลขเริ่มน่ากลัวแล้ว”

คิดไว้ว่ามันจะไปถึงเท่าไหร่ 1,000 ล้านเลยไหม?
ต้องเต : “ถ้ามันยังไหลเรื่อยๆ อยู่ 500 ก็โอเคแล้วนะ มันก็เกินมาเรื่อยๆ ตอนนั้นตั้งแต่ 100 มา 150 มา 200 ล้าน”
โอม : “หลายฝ่ายก็ลุ้นกัน แต่สำหรับเรามันเกินคาดมาตั้งแต่ 200 ล้านแล้ว”

ถ้ามันไปถึง 1,000 ล้าน? ต้องเต : “มันก็คงเป็นปรากฏการณ์จริงๆ ผมเองยังคิดว่ามันฟลุ๊ครึเปล่า มันคือหนังอีสาน มันคือหนังเฉพาะกลุ่มจริงๆ เราทำหนังอีสานเพื่อให้คนอีสานในเมืองดู ตอนนี้มันเป็นหนังอีสานที่คนทั่วไปดูได้ กำลังจะโกอินเตอร์บ้าง เป็นหนังอีสานที่ทำรายได้สูงสุดก็โอเคแล้วนะ อย่าไปกว่านี้เลย มันจะไปไหน กลัวเหมือนกันว่าหนังมันจะไปโผล่ตรงไหนอีก แต่ถ้ามันดีจริงก็การเดินทางมันพาไป”

เราคิดว่าหนังของเราตอบโจทย์คนดูตรงไหน คนถึงแห่มาดูกันขนาดนี้? ต้องเต : “มันน่าจะเป็นความจริงใจ มันเป็นหนังชีวิต มันเข้ากับชีวิตทุกคน มันจริงใจที่จะเล่าไม่ได้พยายามจะฝืนตัวเองเล่า ความสามารถผมได้เท่านี้ ผมอยากพัฒนา ผมอยากทดลอง อยากให้ทุกคนช่วยสนับสนุนผมหน่อย เขาก็อาจจะชอบ และอีกอย่างคือหนังเล่าเกี่ยวกับความสูญเสีย มันน่าจะแมสสำหรับทุกคน เราพยายามสร้างงานมา เราไม่รู้ว่าใครจะมาดูงานเรา นอกจากคนดู กระแสตอบรับต่างๆ ก็มาจากคนดูล้วนๆ หนังไม่ได้ประสบความสำเร็จด้วยตัวของเรา หนังประสบความสำเร็จด้วยคนดูพาไปล้วนๆ เลย”

โอม : “แฟนคลับเราก็เยอะพอสมควร กว่าจะมาเป็นจักรวาลไทบ้าน เป็นความฝันของเด็กๆ ที่วาดกันไว้ว่าอยากจะมีจักรวาลอีสานขึ้นมา แล้ววันนึงมันประสบความสำเร็จด้วยจังหวะที่มันพอเหมาะ เราเลยรู้สึกขอบคุณแฟนคลับที่อยู่กับเรามานาน เป็นรุ่นต่อรุ่น”

จะมีเรื่องต่อไปเลยไหม? ต้องเต : “อาจจะกลับมารวมกัน เป็นไทบ้านเดอะซีรีส์ ภาค 3 ยังไม่ได้คิดเลย แต่อยากทำมาก มีกำลังใจมากๆ”

หนังไปต่างประเทศ? ต้องเต : “ตอนนี้ไปลาวแล้ว ดีใจครับ เป็นหนังรายได้สูงสุดตลอดกาลของประเทศลาว เราก็ดีใจมาก เขาดูกันขนาดนั้นเลยเหรอ ที่เหลือก็คืออยากไปไหนมันไม่น่าจะขึ้นอยู่ที่เราแล้ว น่าจะขึ้นอยู่ที่ตัวหนังและคุณภาพของหนังมากกว่า ถ้าหนังมันไม่ดีก็ไม่ต้องพาไป เราก็อายเหมือนกันครับ ถ้าหนังเราไม่ดีแล้วเราไป ให้ตัวหนังมันพาตัวมันเองไปดีกว่า”

โอม : “ช่วงแรกๆ ที่เรารู้ว่าหนังจะได้ไปต่างประเทศ ก็มีคนติดต่อเข้ามาเยอะมาก ทางเราก็ได้คุยกัน วางแผนเรื่องของการจัดจำหน่าย พาหนังไปรางวัลต่างๆ ก็ได้คุยกับทางผู้ใหญ่ไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการพูดคุยรายละเอียด วันพรุ่งนี้ทางรัฐมนตรี ทางนายกฯ ก็จะไปดูหนัง ก็อาจจะได้เรื่องของการส่งออกหนังในการเข้าชิงรางวัล แต่สุดท้ายก็แล้วแต่หนังจะพาไปเลย”

มีประเทศที่เราอยากพาหนังเรื่องนี้ไปให้ถึงไหม? ต้องเต : “ตอนทำหนังเรื่องนี้แรกๆ ด้วยความเป็นภาษาท้องถิ่นมันเฉพาะ แต่เราก็ตีความว่ามุมกล้อง หรือการเล่าเรื่องมันต้องสากล ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะไปสากลในประเทศไหนบ้าง แต่ถ้าหนังเราไปได้ เราไม่ได้ดีใจกับตรงนั้นนะ แต่เราดีใจที่เราได้เป็นแรงขับเคลื่อนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ให้คนได้มองเห็นว่ายังมีค่ายเล็กๆ ทำหนังที่มีคุณภาพ อาจจะไม่ใช่ค่ายนี้ค่ายเดียว อย่าพาแค่เราไป ให้พาค่ายอื่นๆ ไปด้วย เพราะเดี๋ยวเขาจะหมั่นไส้เราเอา”

เรารู้สึกยังไงที่หนังเราได้รับการผลักดัน? โอม : “รู้สึกดีใจ จริงๆ มันคือความฝันของเรา เราอยากเป็นกระบอกเสียงของค่ายหนังเล็กๆ เราเป็นค่ายเล็กจริงๆ ถ้าเรามีโอกาสได้เป็นกระบอกเสียงเราก็ยินดีที่จะผลักดันอุตสาหกรรมภาพยนตร์ได้รับการส่งเสริม มีช่องทางที่มากขึ้น กว่าเราจะมาอยู่ตรงจุดนี้เราเองก็ล้มลุกคลุกคลานพอสมควร เราต่อสู้กับอะไรมาหลายอย่างมาก วันนี้ถ้าเรามีโอกาสเราก็อยากจะช่วยกัน”

จะมีการพูดคุยกับทางรัฐบาล ถึงการนำพาหนังไปสู่สากล เขาได้บอกอะไรเราไว้บ้างไหม? โอม : “ตอนนี้ยังไม่ได้รับการประสานอะไร เรารู้แค่ว่าท่านจะไปดูกันเฉยๆ”

สิ่งที่เราอยากสื่อสารกับคนดูสากล ในฐานะที่เราเป็นกระบอกเสียง? ต้องเต : “หนังเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง มันมีคุณค่าในตัวของมันเองที่คนจะมองเห็น ในเรื่องนี้ก็จะเป็นพิธีกรรม ความเชื่อของชาวอีสาน แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นซอฟต์พาวเวอร์ไหม ก็ดีที่เขามองเห็นประเด็นหลักๆ หรือคุณค่าของหนัง มันอาจจะมองเห็นในเรื่องอื่นๆ ที่ไม่ใช่เรื่องนี้ แล้ววงการอื่นก็อาจจะได้เอาเรื่องนี้มาเป็นมาตรฐาน เป็นแบบอย่างได้ (เราอยากผลักดันให้วงการหนังเป็นซอฟต์พาวเวอร์นำพาพัฒนาประเทศไปได้?) ใช่ครับ ถ้าผมแปลคำนี้ออกตั้งแต่แรกผมว่ามันจะมีซอฟต์พาวเวอร์ที่ดีกว่านี้ครับ ผมไม่รู้ว่าหนังมันควรมีซอฟต์พาวเวอร์มากกว่านี้นะ ตอนเขียนบทคิดไม่ได้เลย ก็เสียดายมาก เป็นสิ่งที่ผมอยากจะพัฒนาตรงนี้อยู่ เราคิดแค่เรื่องของวัฒนธรรมของภาคอีสาน ไว้เรื่องหน้าแล้วกัน อย่ากดดันกันนะครับ(หัวเราะ)”

หลายคนแชร์ภาพตอนที่ ต้องเต เป็นเดือนมหา’ลัย หล่อเทียบเหมือนเป็น ณเดชน์2 ? ต้องเต : “ครับผม ผมทาแป้งเยอะ(หัวเราะ) อดีตอ่ะครับตอนนั้นเป็นกฏของคณะ ระเบียบให้เราต้องตัดผม จริงๆ เราก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว แต่แค่ไม่มีโอกาสได้ปลดปล่อยตัวเอง”

ตัวตนของเราแบบนี้ มีฟีดแบ็กต่างๆ อยากบอกอะไรกับคนที่อาจจะไม่เข้าใจในตัวตนของเรา? ต้องเต : “เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวตนของคนอื่นได้ เราจงมีความสุขกับตัวตนของตัวเอง (เราก็เป็นณเดชน์ในเวอร์ชั่นนี้?) ใช่ เราก็เป็นนรกในเวอร์ชั่นนี้(หัวเราะ)”.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน