เป็นคนกลางสุดเหนื่อยหนักใจ น้ำหวาน พิมรา เผยฟางเส้นสุดท้ายทำให้เลิกกัน ไกล่เกลี่ยแม่และแฟนไม่สำเร็จ แจงปมเรือนหอถูกประกาศขาย

นักร้องสาว น้ำหวาน พิมรา เปิดใจในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 เผยทริปครอบครัวรักร้าวครั้งนั้นเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้าย ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ต้องจบลง ขอพูดถึงจุดแตกหักแยกทางรักเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย เผยพยายามไกล่เกลี่ยถึงที่สุดแล้ว เป็นคนกลางระหว่างแม่และแฟนแสนลำบากใจ ใจพังกินไม่ได้นอนไม่หลับ เอาแต่ร้องไห้ ไม่กล้าสู้หน้าใคร

น้ำหวาน เลิก กวาง

น้ำหวาน : “ปัญหาบนเรือจริงๆ เวลาหวานตอบมาก่อนหน้านี้ หวานจะตอบว่าเป็นปัญหาน้ำผึ้งหยดเดียว ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ค่ะ มันเกิดจากความเข้าใจผิด คือทริปนั้นหวานไปดำน้ำ เหตุการณ์มันเกิดขึ้นใต้น้ำค่ะ เป็นความเข้าใจผิดกันเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างคุณแม่กับพี่กวางที่เป็นบัดดี้กัน”

แปลว่าก่อนหน้านั้นความสัมพันธ์ระหว่างคุณแม่กับพี่กวางก็ยังเป็นปกติกันอยู่? น้ำหวาน : “เป็นปกติค่ะ เพราะเขาเลือกกันเลยค่ะ ว่าเขาจะเป็นบัดดี้กัน เพราะคุณแม่ค่อนข้างสบายใจที่ดำน้ำกับพี่กวางแล้วนอกเหนือจากเรื่องดำน้ำ ความสัมพันธ์ในด้านอื่นของเขามันก็ไปได้ด้วยดี อันนี้หวานก็ยังยืนยันแบบนี้อยู่ ซึ่งตอนที่ลงไปดำน้ำคุณแม่นึกว่าคุณแม่หลง แต่จริงๆ คุณแม่ไม่ได้หลงจึงได้มีการอธิบายเสียงดังกันขึ้นนะคะ แล้วหวานอยู่ในเหตุการณ์ตรงนั้น หวานก็อึดอัดมาก เพราะว่าเราเป็นคนกลางเราเหนื่อยอยู่แล้ว เพราะคนหนึ่งก็แม่ คนหนึ่งก็แฟน หวานก็เลยเลือกที่จะเดินหนีจากสถานการณ์ตรงนั้นไปที่หัวเรือคนเดียว คุณแม่ก็ตามมาหาหวาน บอกว่าแม่จบแล้วนะ กับกวางแม่ไม่ไหว คือทำไมต้องมีการอธิบายที่เสียงดังกว่าปกติต่อหน้าคนเยอะๆ ด้วย หวานก็บอกแม่ เดี๋ยวหวานให้เขามาขอโทษแล้วกันเพราะหวานคิดว่ามันจะได้จบอะไรอย่างนี้ค่ะ แต่ก็ไม่ได้มีการขอโทษก็เลยเป็นที่มาของการที่คุณแม่โพสต์ลงเฟซบุ๊กในเรื่องของมารยาทแล้วก็ต่อเนื่องมาแบบที่ทุกคนได้อ่านกัน หวานก็พยายามไกล่เกลี่ยจนถึงที่สุด คือต้องเข้าใจว่าหวานกับพี่กวางคบกัน หวานมีเป้าหมาย หวานไม่เอาอารมณ์มาเล่นกับเรื่องแบบนี้เพราะว่าถ้าย้อนดูประวัติความรักของหวาน จริงๆ มันผ่านการสู้มาเยอะค่ะ (เสียงสั่น)

น้ำหวาน เลิก กวาง

เป็นคนกลาง แม่และแฟน แสนเหนื่อยใจ

เข้าใจความเป็นคนกลางอย่างไรก็เหนื่อยอยู่แล้ว? น้ำหวาน : “มันเหนื่อยค่ะ มันเหนื่อยที่เราไม่สามารถที่จะควบคุมอะไรต่างๆ ให้มันเป็นแบบที่ใจของเราคิดได้ ทุกอย่างมันเป็นเรื่องของการเข้าใจผิดค่ะ เข้าใจทั้งสองฝ่ายในหนึ่งเหตุการณ์มันก็คือผิดทั้งคู่ มองข้างไหนข้างนั้นก็ถูกแล้วแต่มุมมองของคนจะมองเพียงแต่หวานอยากให้แยกออกเป็น 2 เรื่อง ก็คือเรื่องที่หนึ่งเราอาจจะมีการเสียงดังผู้ใหญ่อันนี้ก็อยากให้มาขอโทษในมุมหวานเป็นเด็ก แล้วอีกแยกเป็นอีกก้อนหนึ่งของความเข้าใจผิดที่ต้องเคลียร์ ส่วนคนจะเข้าใจผิดมากน้อยแค่ไหนหรือผ่านเวลาไปอย่างไรก็ไม่เป็นไร คุณแม่ก็ยืนยันตอนที่นั่งอยู่ที่หัวเรือว่าไม่ต้องมาขอโทษ ไม่เป็นไร แต่ก็พูดดีๆ กับน้ำหวานนะคะ ไม่เป็นไรไม่ต้องมาขอโทษหรอกแม่คงจบแล้ว แม่คงตกใจเพราะว่าเขารักพี่กวางเหมือนลูกอีกคนเลยค่ะ เขาอาจจะตกใจและเสียใจ แต่หวานคิดว่าหวานสามารถจัดการได้ แต่เวลาผ่านไปหวานก็ยังไม่สามารถจัดการสถานการณ์บนเรือได้เพราะว่าเราจะต้องอยู่บนเรือต่อ”

ในจังหวะที่หวานบอกว่า หวานใช้วิธีเดินหนีออกมาแล้วไปนั่งอยู่ตรงหัวเรือตอนนั้นคิดอะไรอยู่? น้ำหวาน : “เยอะค่ะ ส่วนใหญ่จะขึ้นด้วยหมวดทำไมเต็มไปหมด ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ ทำไมเราต้องมาอยู่แบบนี้แล้วเราผิดอะไรซึ่งมันเยอะมาก มันค่อนข้างไม่เป็นเรื่องเป็นราวเท่าไหร่ ณ เวลานั้นของหวานนะคะ แต่หวานพยายามเข้าใจว่าไม่เป็นไร ต่างคนต่างเข้าใจผิด ต่างคนต่างโกรธให้เวลา แต่เดี๋ยวพอเขาคิดได้เดี๋ยวเขาก็จะมาดีกันเองแต่ก็ไม่ได้มีอย่างนั้น”








Advertisement

น้ำหวาน เลิก กวาง

แล้ว ณ ที่เราคิดอยู่บนเรือได้คิดไหมมันจะจบลงอย่างที่เราโพสต์? น้ำหวาน : “ไม่คิดเลยค่ะ แต่เราก็ได้คุยกันนะคะ จนมันจบตรงสิ่งที่มันแก้ไขไม่ได้ ถามว่าใครเป็นคนตัดสินใจ เรามองหน้ากันแล้วก็พอเขาพูดเหตุผลนั้นมาหวานก็เข้าใจในทันทีค่ะ”

ส่วนเรื่องขายบ้านนี่อย่างไรเอ่ย? น้ำหวาน : “เรื่องขายบ้านใช่ไหมคะ จริงๆ หลายคนถามว่าหวานตกใจไหม เสียใจไหม บ้านที่จะเป็นเรือนหอถูกขายจริงๆ บ้านนี้ถูกขายมาปีกว่าแล้วค่ะ แต่อาจจะไม่ได้ประกาศเป็นวงกว้างแต่ด้วยช่วงเวลาที่ถูกรู้ในวงกว้างทำให้คนโยงมาเป็นเรื่องเดียวกัน”

แต่กวางให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีเหตุผลที่ต้องอยู่กับภาระนี้ แต่พอเห็นสัมภาษณ์นี้ทำให้เข้าใจได้ว่าการประกาศขายเกิดขึ้นจากเหตุผลนี้จริงๆ? น้ำหวาน : “หวานเห็นแล้วค่ะ แต่มันถูกประกาศขายมาปีกว่าแล้วค่ะ หวานแจ้งประมาณนี้ดีกว่า”

น้ำหวาน เลิก กวาง

ยากจังเลยกับบางสถานการณ์ที่พร้อมจะมีคนจับประเด็นในบางคำพูด? น้ำหวาน : “ในสถานการณ์ต่างๆ พี่เชื่อไหมวันนั้นหวานพิมพ์ คนคอมเมนต์ด่าหวาน หวานบอกไม่ได้เราต้องแก้ว่ามันถูกประกาศขายมาปีกว่าแล้ว ไม่ได้เราต้องแก้เพราะว่าเราโดนเยอะมาก พอพิมพ์เสร็จไม่เอาดีกว่า เราอยู่ของเราดีกว่า ถ้ามีคนถามเราก็ค่อยตอบเพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นว่าไม่เข้าใจอันนี้เดี๋ยวหาว่าหิวแสงโพสต์ทับกัน ห้ำหั่นคือหวานเห็นคอมเมนต์สมัยนี้หวานคิดในใจหวานต้องอย่างไร สามารถจับโยงเป็นเรื่องได้หวานอ่านหมดนะคะ เพราะหวานจะได้รู้ว่าควรจะต้องตอบอะไร อะไรที่คนสงสัยแล้วอะไรที่หวานควรจะต้องพูด หรือว่าคนคิดกับหวานอย่างไร เชื่อไหมคะว่าเวาที่หวานอ่านคอมเมนต์มากๆเพราะ 3-4 วันแรกหวานไม่ได้รับงานเลย หวานไม่ได้ไปทำงานเพราะรู้สึกไม่อยากไปสู้หน้าคน หวานก็เลยบอกผู้จัดการว่างานขอเลื่อนก่อน ซึ่งไม่ดีนะคะ เพราะเราต้องแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว หวานขอพักใจก่อน เรากลับรู้สึกว่าเมื่อไหร่จะกลับไปทำงาน บางทีมีคนถามเราจะได้อธิบายได้ในส่วนที่เป็นตัวเราก็อ่านหมดบางอันก็เข้าใจ บางอันก็ โอ้โห รู้มากกว่าเราอีก บางอันเขาก็มีเหตุผลเราก็รับฟังไว้เผื่อจะได้มาตอบ”

น้ำหวาน เลิก กวาง

อันนี้ถามด้วยความสงสัยจริงๆ ที่หวานบอกว่าประกาศขายมาก่อนหน้านี้ตั้งปีกว่าทำไมประกาศขายเรือนหอทั้งที่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน แล้วนี่คืออนาคตที่จะเป็นเรือนหอของเราทั้งสองคน? น้ำหวาน : “ก็อาจจะขยับขยายอะไรของเขาไปค่ะ แต่ก็เกิดจากความตกลงร่วมกัน ก็คุยกัน รู้มานานแล้วค่ะ”

ซึ่งเป็นบ้านที่เรายังไม่ได้อยู่เลย? น้ำหวาน : “หวานไปทุกวันค่ะ แต่ว่าเป็นบ้านที่เขาอยู่เป็นหลักค่ะ”

ถ้าเป็นบ้านที่เราตั้งใจจะอยู่ด้วยกันแล้วมีเพื่อนเขาอยู่อีกหนึ่ง ตอนนั้นเขาจะอยู่ยาวๆ เลยเหรอ? น้ำหวาน : “หวานเป็นคนชวนเพื่อนเขาเข้ามาเองค่ะ คือพี่เขาออฟฟิศอยู่ไม่ไกลบ้านหวานเลยงั้นมาอยู่ไหม มาอยู่เป็นเพื่อนพี่กวางเพราะพอถึงเวลาหวานก็ต้องกลับ พี่กวางจะได้ไม่เหงาเพราะเขาสนิทกันมา 20-30 ปีแล้วค่ะ ก็เลยเป็นที่มาที่พี่คนนี้เข้ามาอยู่ในบ้าน พี่กวางก็บอกว่าอยู่ก็ต้องทำตามกฎของหวานนะ หวานบอกไม่เลย สบายๆ เพราะเขาเป็นเพื่อนสนิทพี่กวาง หวานรักเขาเราถูกคอกันทุกวันนี้เราก็ยังรักกัน เขาก็ยังอยู่กับพี่กวางอยู่ปัจจุบัน แต่ว่าตอนนี้บ้านกำลังจะขายได้แล้วค่ะ”

คลิป สัมภาษณ์ น้ำหวาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน