สไมล์เรดิโอ เตรียมรุกออนไลน์เต็มรูปแบบ แฟนเพลง80-90ฟิน กิจกรรมแน่นทั้งปี

สไมล์เรดิโอ / ดื่มด่ำ สุขสนุก ประทับใจกันตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับเหล่าดีเจ คนฟัง แฟนพันธุ์แท้สไมล์เรดิโอ ที่พร้อมใจกันบินลัดฟ้าไปอิ่มเอม หาดทรายสายลมเกลียวคลื่นกับ Smile Trip with Smile Djs @ Phuket

กิจกรรมดีๆ ส่งท้ายปีที่สร้างรอยยิ้มและความสุขให้คนฟังรุ่นเก๋ารุ่นเก๋ได้ใจพองโตมหาศาลกันไป นำทีมโดยบอสใหญ่ วนิดา วรรณศิริกุล พร้อมเหล่าดีเจ หัทยา วงษ์กระจ่าง, วินิจ เลิศรัตนชัย, สาลินี ปันยารชุน, ม.ร.ว.รุจยาภา อาภากร, นฤพนธ์ ไชยเพิ่ม, มรกต โกมลบุตร, ณพล พรมสุวรรณ, มธุรส โอสถานนท์ และ สุทธิธรรม สุจริตตานนท์ รวมถึงหมอดูไพ่ยิปซีชื่อดัง อาจารย์มงคล รอดเที่ยงธรรม ผู้ที่เปิดดวงผ่านเพจสไมล์ เรดิโอ มาร่วมทริปดูดวงชะตาให้กับกรุ๊ปเดินทางกว่า 80 ชีวิต

หลังจากสายการบิน Thai AirAsia ได้แลนดิ้งที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต เพื่อไปพักที่โรงแรม Cape Panwa Phuket ก่อนออกไปทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ปิ้งย่างและชาบูที่ร้านหลินต้าเซียน

โดยวันที่2 ทั้งหมดเดินทางขึ้นเรือใบยอชท์ คาตามารัน (Catamaran) 2 ลำ แบ่งผู้บริหาร ดีเจและแฟนพันธุ์แท้ของ Smile Radio ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ไปยังเป้าหมายแรกของเราคือเกาะเฮ และต่อกันต่อที่เกาะราชา พร้อมทั้งเสียงเพลงสดๆ จากคลื่น Smile Radio และสัมภาษณ์สดจากห้องส่งกับผู้ฟังบนเรือใบยอร์ช

ส่วนวันที่3 ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ได้แวะรับประทานอาหารท้องถิ่นที่ร้านย่าหยา ซึ่งทริปนี้ทุกคนที่มาต่างสนุกสนานแฮปปี้ร่วมกัน มีรอยยิ้ม ขนความสุขความทรงจำดีๆกลับบ้านไปกันถ้วนหน้า

โดย วินิจ เลิศรัตนชัย ได้เปิดใจถึงทริปนี้ว่า “สนุกมากๆเลย แล้วก็ใช้ชีวิตเวลาสั้นๆด้วยกัน ได้พบปะกับคนที่มีความทรงจำดีๆ และยังคงเป็นความทรงจำที่ต่อเนื่อง คิดว่าน่าจะมีบรรยากาศแบบนี้เกิดขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง จะเป็นรูปแบบอะไรก็ได้ครับ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นทริปท่องเที่ยว อาจจะเป็นทริปที่ทำกิจกรรมอื่นๆที่เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นๆบ้าง คือสไมล์เรดิโอยุคนี้ผมก็เป็นส่วนเล็กๆเท่านั้นเอง ที่มาร่วมกับพี่ๆเพื่อนๆมาร่วมกับทุกคนในเวลาเท่าที่สามารถจะทำได้”

ทางด้าน ปิ๋ว วนิดา วรรณศิริกุล บอสใหญ่ได้เปิดใจว่า “ในฐานะการตลาด เราตั้งใจอยู่แล้วว่าเราจะไม่ได้ทำเฉพาะวิทยุ เพราะว่าวิทยุมันเป็นเรื่องของเมื่อวาน แต่เหมือนเราย้ายบ้านออกจากบ้านนี้ไป30 ปี แล้วเรากลับไปที่เก่าเพื่อจะไปหาเพื่อน ถ้าเพื่อนยังไม่ย้ายไปไหน เราก็เลยไปเริ่มที่ FM98 พอเรากลับมาทำ เราก็รู้แล้วว่ามันไม่เหมือนเดิม ทั้งในแง่ธุรกิจและสัมปทาน แล้วคลื่นมันก็ไม่ชัดด้วย ยิ่งในเมืองคลื่นมันตีกัน เราก็เลยมาทำพร้อมกันทั้งFM และแอพพลิเคชั่น

ก็ถึงเวลาแล้ว ครบปีแล้ว ในเดือนมกราคมปี67 เราจะเปลี่ยนมาเป็นแอพพลิเคชั่นเต็มรูปแบบ FMก็จะหายไป ให้เข้ากับยุคสมัยด้วย คือเราเป็นคนที่กลับมาใหม่ใน 30 กว่าปี เราก็เลยคิดว่าโอกาสที่เรากลับมาแล้วเราจะไปเป็นTop3 มันเป็นไปไม่ได้ แล้วพอเราไม่ใช่Top3 คนที่เขาอยู่กันมาต่อเนื่องเขาก็เลยได้งบโฆษณาตรงนั้นไป หนึ่งปีที่ผ่านมามันพิสูจน์แล้วว่า เราอย่าไปฝืนนี่คือความเป็นจริง เพราะฉะนั้นเราก็ตัดสินใจไม่ผิดที่จะเดินหน้าไปเป็นออนไลน์เต็มรูปแบบ เราจะออกทุกแพลตฟอร์ม แอพพลิเคชั่น YouTube Facebook TikTok”

ด้าน เปิ้ล หัทยา เผยว่า “คือจริงๆ พี่มีประสบการณ์ของพี่ พี่เคยทำวิทยุของตัวเองมาแล้ว วิทยุเหมือนเป็นมีเดียให้กิจกรรม คือเราต้องทำกิจกรรมเยอะๆ พอเราไปหากิจกรรมแล้ววิทยุกลับเป็นมีเดีย พอเขาซื้อกิจกรรมแล้ว เราก็จะมีวิทยุให้เขาใช้ในมีเดีย มันไม่เหมือนกับการที่เราไปขายวิทยุแล้วเรามีกิจกรรมพ่วง แต่คราวนี้เราไปขายคอนเสิร์ตไปขายกิจกรรมหรือโปรเจ็กต์ต่างๆ แต่เราให้มีเดียเขาในวิทยุของเรา อันนี้ก็เหมือนกัน ตั้งแต่เราทำสไมล์เรดิโอ อันนี้เราก็รู้เลยว่าเราต้องทำกิจกรรมควบคู่กันไปด้วยนะ พอเราทำกิจกรรม ตั้งแต่คอนเสิร์ต ‘ที่สุดของหัวใจ แจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์’ เรารู้เลยว่า พอเราขายคอนเสิร์ตได้เหมือนขายในตัวคอนเสิร์ตแล้วพอมีวิทยุก็เอามาใช้ตรงนี้ มันส่งเสริมกัน เขาก็มาใช้โฆษณามีเดียในวิทยุของเรา ถ้าเกิดเราไม่มีพี่แจ้ เขาอาจจะไม่ซื้ออะไรเราเลยก็ได้”

ส่วนเป้าหมาย ปี 67 เปิ้ล หัทยา บอกว่า “เป้าหมายของสไมล์เรดิโอมาทางออนไลน์ ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าแอพพลิเคชั่นของเราไม่ว่าจะเป็นแอนดรอยด์หรือ iOS จะได้รับการตอบรับมากที่สุด

ด้านบอสใหญ่ ปิ๋ว วนิดา “ฝากคนฟังไปบอกต่อ ถามว่าทุกคนรู้จักสไมล์ไหม รู้จักหมดเลย แต่เขาก็ยังจะถามว่าแล้วอยู่เบอร์อะไรล่ะ คือมันไม่ได้อยู่ในโลกการสื่อสารกับคนอื่น ตลอดนี้คือมีแอพพลิเคชั่นแล้ว

สำหรับแผนกิจกรรมปีหน้า วางแผน 3 โปรเจ็กต์ใหญ่ๆ คืออันแรก ทรีบิ้วอิมพอสซิเบิ้ล มี ชมพู-นันทิดา มีทั้งรุ่นเก่าใหม่ ผสมกัน แล้วก็ โจอี้ ดา เอ็นโดรฟิน แล้วก็มีอิมพอสซิเบิ้ลตัวจริงด้วย ตัวที่สองคือเพลงของกรวิก อีกอันนึงก็จะเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 เราก็ไปจ้างมือโปรดิวเซอร์จากนิวยอร์กทำให้ และในเดือนมกราคม จะมีทริปสายมูไปถ้ำนาคา