ตุ๊กกี้ ยื่นคำขาด ญาติมายืมเงินพ่อแม่ตน เกือบ 2 ล้าน เผยคนใกล้ตัวทวงยากที่สุด แนะวิธีปฏิเสธไม่กลัวโดนเกลียด ชี้มีภาระเยอะ เห็นใจกันบ้าง

ลำบากใจไม่น้อย กับปัญหาที่ญาติมาขอยืมเงินอยู่บ่อยๆ งานนี้ตลกสาวชื่อดัง ตุ๊กกี้ สุดารัตน์ บุตรพรม ถึงกับต้องโพสต์ระบายความอัดอั้น ล่าสุดมีโอกาสเจอ สาวตุ๊กกี้ ที่มาร่วมงานรอบกาล่าภาพยนตร์เรื่อง “อีสานซอมบี้ (E-Sarn Zombie)” ณ อินฟินิซิตี้ ฮอลล์ ชั้น 5 พารากอน ซินีเพล็กซ์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาหนักใจที่พยายามหาทางออก หลังญาติมายืมเงินพ่อกับแม่ของตนไปเกือบ 2 ล้าน ทำให้ตลกสาวต้องออกมาเคลียร์ พร้อมเผยการกลับมารับงานหนังในรอบ 7 ปี

“กลับมารับเล่นภาพยนตร์ในรอบ 7 ปี ตั้งแต่หลวงพี่แจ๊ส 5G สำหรับเรื่องนี้อีสานซอมบี้ ขอบคุณมากๆ ที่ผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านที่เห็นความสามารถและนึกถึงตุ๊กกี้อยู่ พอรู้ว่าเป็นอีสานปุ๊บรับเลยแต่ยังไม่เห็นซอมบี้นะ เล่นไปสักพักมันมีความสุขมาก ดีใจที่ได้กลับมาคืนสู่จอภาพยนตร์แล้วเจอน้องๆ นักแสดงและคนสนิทด้วย เป็นเรื่องที่ตัดสินใจถูกมากที่เลือกจะรับเล่น ตอนที่เราโพสต์โปสเตอร์ไป มีคนดีเอ็มมาบอกว่า รอพี่มานานแล้ว พอคำนี้มา โอ้โหตั้งใจมากๆ คนรอชมเราดีใจมากๆ มีกำลังใจที่สุดเลย ขอบคุณมากๆ ค่ะที่รอชม”

“เชื่อเสมอว่าคนที่เป็นแฟนคลับตุ๊กกี้ ก็จะไม่มีอะไรมากนอกจากว่า พี่ตุ๊กกี้ออกมาก็ต้องฮา ฉากเดียวก็ฮา ถามว่ากดดันมั้ย เราเป็นคนฮา แต่ถ้าอยากให้พี่ตุ๊กกี้ออกมาแล้วดราม่านี่เครียดเลยนะ กดดันเลยนะ แต่นี่มันคือทางของเรา มีความสุขมาก เป็นการเปิดประตูในรอบ 7 ปี พี่ๆ ผู้กำกับฯ เขียนบททุกท่าน ตุ๊กกี้กลับมารับเล่นหนังแล้วนะคะ เคลียร์เวลาให้เรียบร้อยแล้ว หลายคนได้ยินกระแสมาว่า ทำงานทุกวันจนไม่มีคิว หนังเรื่องนี้บอกเลยว่ายังไงก็มีคิวค่ะ”

ตุ๊กกี้ ยื่นคำขาด ญาติยืมเงิน

เรื่องความขยันของเราเอง กลายเป็นที่พึ่งพาของคนรอบตัว? “เรากำลังจะเข้าเรื่องหนี้สินใช่มั้ย เศร้า เพราะว่ามันไม่ใช่เราให้ยืม มันกลายเป็นญาติพี่น้องมาทางคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งบอกเลยว่าความไว้ใจ เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด หลายๆ อย่างที่เกิดขึ้น เรามีหน้าที่ทำงานปั่นเงินดูแลครอบครัวไป แต่หลังบ้านพอมีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ มาซึ่งปัญหาที่เรารู้ทีหลังมันกลายเป็นเรื่องใหญ่บานปลายไปแล้ว แก้ไขยาก น่าจะเอาความเครียดนี้ไว้กับการทำงานอย่างเดียวดีกว่า กลายเป็นว่าต้องมาเช็ดหลังบ้านอีกเยอะแยะมากมาย ก็เลยเป็นคนที่เมื่อก่อนเก็บไว้กับตัวเอง ไม่โพสต์ ไม่พูดถึง จนเราไม่สบาย ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้วเราไม่สบาย เพราะว่าเป็นคนกดตัวเอง กดความรู้สึก กดความเครียด นิ่งเงียบ ปรากฏว่าการไม่ได้ระบายมันกลายเป็นผลกับโรคภัยไข้เจ็บ”

“ทุกวันนี้ขอโทษทุกคนที่เข้าไปเห็นในเฟซบุ๊กแฟนเพจต่างๆ ในเรื่องราวการบ่นเพ้อๆ อย่าถือสาคนเพ้อเลยนะคะ มันแค่ระบายออก แต่ว่าปัญหาทุกอย่างเชื่อเสมอว่า เรามีสติ มีความหวังดี เราไม่คิดร้ายกับใคร การบ่นไปแค่นั้นน่าจะเป็นผลสะกิดกับตัวที่มีปัญหากับเราหรือยังไงก็ตาม นึกถึงใจเราบ้าง แค่นั้นเอง”

ตุ๊กกี้ ยื่นคำขาด ญาติยืมเงิน

ญาติมายืม ให้ยืมมั้ย?เราไม่ค่อยให้ยืม ไม่รู้ทุกคนเป็นเหมือนตุ๊กกี้มั้ยตรงที่ว่า ทวงยากคือญาติเรานี่แหละ คนใกล้ตัวก็ญาติเรานี่แหละ ไม่กล้าเก็บดอกอะไรด้วยนะ เห็นใจกัน มีเท่าไหร่คืนเท่านั้น แต่บังเอิญว่าคนที่เขากล้ามายืม เขารู้นิสัยเรา เขาไม่ยืมเราน่ะสิ เขาก็ไปร้องห่มร้องไห้กับพ่อกับแม่เรา พ่อกับแม่เราจะรู้อะไรพอเห็นน้ำตาปุ๊บก็ให้ไปครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่2 เอาไปอีก ยอมรับว่าเยอะมากๆ หลักล้านปลายๆ ขาดไม่กี่พันก็ 2 ล้านแล้ว”

“ไม่โทษใคร ไม่โทษคนยืมเพราะว่าเขาน่าจะมีภาวะที่แก้ปัญหาไม่ได้ น่าจะเป็นทางตันแล้วพึ่งพาอาศัยกัน เราเป็นญาติกัน แล้วก็ไม่โทษคนให้ คือพ่อกับแม่ด้วย จะโทษตรงที่ว่าอันนี้ฝากบอกทุกคนเลยก็ได้ เวลาที่เราให้ใครยืมตังค์ไม่ว่าจะเป็นญาติ เพื่อนสนิท ลายลักษณ์อักษรสัญญามันสำคัญมาก ต่อให้เราไม่เก็บดอกเบี้ยก็ตาม วันที่วันคืนวันยืมมันสำคัญ เป็นเรื่องลายลักษณ์อักษรมากกว่า ไม่โทษคนยืม ไม่โทษคนให้ สิ่งสำคัญกว่านั้นคือเราเป็นคนหาเงิน ดูแลทั้งครอบครัว เพราะฉะนั้นแล้วเราก็อยากได้คืน ทยอยมากระตือรือร้นให้หน่อยว่าเราเป็นหนี้กันและกันแค่นั้นเอง”

“ตอนนี้ได้คืนมาบ้างแล้วค่ะ หลังจากวันนั้นที่โพสต์ เขาก็รู้สึก สิ่งที่เราดีใจคือว่าบางเรื่องมันอาจจะไม่หนักหน่วงถ้าโพสต์ไป แต่เป็นการสะกิดเตือนใจกัน เขารู้สึกกับสิ่งที่เราเป็นทุกข์อยู่ช่วยกันแก้ปัญหาร่วมกับเรา พูดง่ายๆ เขารู้ว่าเป็นหนี้ก็พยายามจะคืนแล้ว พี่โล่งใจแล้ว ตอนนี้ก็ลบโพสต์นั้นไปแล้ว”

ตุ๊กกี้ ยื่นคำขาด ญาติยืมเงิน

“ถามว่ากลัวเขาโกรธมั้ย เขามายืมแล้วเราไม่ให้ มันจะมีคนประเภทหนึ่ง ที่กลัวคนไม่รัก แล้วกลัวคนโกรธ แต่ว่าวิธีการพูดลองบอกเขาว่า อย่าคิดว่าการยืมครั้งนี้เป็นวาระสุดท้าย ถ้าอนาคตคุณลำบากอีกเราพร้อมช่วยนะ เพราะฉะนั้นเคลียร์เรื่องนี้ให้จบก่อนแล้วค่อยไปเรื่องข้างหน้า”

มีหลายคนมั้ยที่ยืมไปแล้วยังไม่คืน? “มีรายเดียวค่ะ พอเรื่องมันถึงหูเรา พ่อกับแม่ก็ไม่อยากให้เรามีปัญหากับใคร เขาหนักใจมากกลัวคนไม่รักตุ๊กกี้ เราก็บอกแม่ โลกใบนี้มีทั้งรักและทั้งเกลียดแหละ จะให้คนรักเราทั้งหมดมันเป็นไปไม่ได้ ถ้าเราอยู่บนเหตุผล เราไม่เบียดเบียนเขา เขาไม่เบียดเบียนเรา เรามาอยู่ตรงกลางร่วมกัน เชื่อเสมอว่าปัญหาทุกอย่างมันคลี่คลายได้ เพราะฉะนั้นแล้วเริ่มทำสัญญาเพราะเรื่องมันถึงตุ๊กกี้แล้ว ตอนนี้สบายใจแล้ว เราทวงอยู่แล้ว แต่ถ้าขอพี่ให้ พี่จะไม่ติดใจ แต่ให้ยืม คำว่ายืมจะอย่างไรก็ต้องคืนเขา ทยอยจ่ายเดี๋ยวมันก็หมด”

ตุ๊กกี้ ยื่นคำขาด ญาติยืมเงิน

“แล้วพี่จะคุยกับพ่อกับแม่ก่อนว่ามันเป็นปัญหาแล้ว คุยกันดีๆ ก็บอกกับพ่อกับแม่ว่า ถ้าจะให้ใครยืมเงิน มาถามหนู เดี๋ยวหนูจะรับพิจารณาช่วยว่าควรหรือไม่ควร แล้วควรให้ยืมในรูปแบบไหน ยอมรับว่าคุณพ่อคุณแม่เครียดเพราะว่าใกล้ตัวเกินไป ถ้าเราอยากจะเป็นพี่น้องเป็นญาติสัมพันธ์ตรงนี้ยังยืนยาว เราต้องคุยกันตรงๆ อย่าใช้อารมณ์โมโห ช่วยกันแก้ปัญหา ที่พี่เล่าพี่เคลียร์แล้วก็เลยมาบอกทุกคนว่าลองใช้วิธีพี่ดู”

ใช้คำพูดปฏิเสธคนที่มายืมเงินยังไง? “จะบอกเลยว่า พี่เป็นคนมีภาระเยอะ เห็นมั้ยพี่ทำงานหนักมากเหมือนคนเป็นหนี้ หนี้ชีวิตประจำวันที่ใช้กินใช้อยู่ ถ้าดูแลคนเดียวเราหยุดทำงานแล้วนะ แต่นี่ดูแลเยอะ ทุกคนมีภาระ สายสัมพันธ์ของเราถ้าจะยืนยาวอย่าเป็นหนี้กันและกัน

“ตอนนี้ถ้าจะมีใครมายืม ต้องดูก่อนว่าเขาลำบากแบบไหน จริงๆ พี่เป็นคนชอบช่วยเหลือคนนะ แต่ว่าต้องดูด้วยเหตุและผลว่าปัญหาที่เขาเจอนั้นมันหนักหน่วงมั้ย เป็นคนใจบุญให้คำปรึกษาไม่พอนะ เป็นคนใจบุญช่วยเหลือจุนเจือด้วย แต่ว่ามันไม่ได้เบียดเบียนชีวิตจริงเท่าไหร่ค่ะ”.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน