มิติใหม่วงการหมอลำ ‘อุ๋งอิ๋ง เพชรบ้านแพง’ นางเอกหมอลำวัย 17 ปี แห่งวง สาวน้อยเพชรบ้านแพง ที่เข้าวงการมาไม่ถึงปีก็แจ้งเกิดเป็นซุปตาร์หมอลำเจนใหม่ จากสาวน้อยบ้านนาที่สู้ชีวิตแบบไม่รู้จักคำว่าท้อ พลิกชีวิตจนมาเป็นนางเอกหมอลำแถวหน้า สร้างปรากฏการณ์คว้ามาลัยเงินล้านในช่วงข้ามคืน และนาทีนี้ในวงการหมอลำไม่มีใครไม่รู้จักดาวรุ่งดวงใหม่ดวงนี้
ชีวิตตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
อุ๋งอิ๋ง – “ดีขึ้นจ้ะ มันเริ่มดีตั้งแต่เข้ามาตอนแรกเลยหลังจากมาอยู่กับสาวน้อยเพชรบ้านแพงเกือบ 1 ปีแล้วค่ะ”
ย้อนกลับไปกว่าจะเป็น อุ๋งอิ๋ง เพชรบ้านแพง ในวันนี้?
อุ๋งอิ๋ง – “อุ๋งอิ๋งก็เป็นเด็กธรรมดาคนหนึ่งเหมือนคนทั่วไป อยู่ตามท้องไร่ท้องนา วันแรกที่เข้ามาหาพ่อโจ ได้ทักเฟซบุ๊กพ่อโจไป อยากสมัครเป็นนักร้อง หลังจากพ่อโจตอบรับแล้ว ก็ได้เดินเข้าไปหาพ่อโจหลังเวทีไปกับแม่ และได้ขึ้นร้องบนเวทีใหญ่เพื่อเทสต์เสียงเลย วันนั้นตื่นเต้นมาก พ่อโจและแม่นุชได้ปั้นให้อุ๋งอิ๋งเป็นศิลปินจนถึงวันนี้ ดีใจมากค่ะ”
Advertisement
ชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก?
อุ๋งอิ๋ง – “ใช่ค่ะ หนูฝึกร้องเพลงตั้งแต่อยู่ป.2 ประมาณ 8 ขวบ วันนั้นมีงานอยู่ที่บ้าน แล้วแม่จับเราขึ้นไปบนเวทีเลยตอนนั้นหนูยังไม่รู้ว่าเลยด้วยซ้ำว่าร้องเพลงเป็นยังไง จะร้องเป็นมั้ย แต่แม่ก็จับเราขึ้นเวทีไปเต้นกับพี่ๆ ในวงหมอลำเลย พอเห็นว่าเขาร้องกันยังไง หลังจากนั้นหนูก็เริ่มฝึกร้องเพลงมาเรื่อยๆ หนูคิดว่าตัวเองเสียงไม่ดี แต่เราก็พยายามพัฒนาตัวเองมากขึ้น”
เคยไปร้องเปิดหมวกตามตลาดนัด?
อุ๋งอิ๋ง – “แม่ไม่มีเงิน หนูก็คิดว่าจะทำยังไงดีจะหาเงินมาช่วยแบ่งเบาแม่ได้ เพราะหนูก็อายุยังน้อย ยังเรียนหนังสืออยู่ ไปเห็นคนที่มาร้องเพลงในตลาดนัด เขาไม่ได้เป็นขอทาน แต่ว่าเขาเอาเสียงเพลงแลกกับเงินเพื่อเป็นทุนการศึกษา หนูเลยมีความคิดว่าเราควรลองทำแบบนี้ดีมั้ย ตอนนั้นหนูอยู่ป.6 ก็รู้สึกอายคนอยู่นะคะ ร้องไปด้วยหันหน้าหนีคนไปด้วย ทำตัวไม่ถูก(หัวเราะ)”
เป็นการทำงานหาเงินช่วยแม่ครั้งแรก?
อุ๋งอิ๋ง – “ใช่ค่ะ เวลาไปร้องแต่ละครั้งได้เงินวันละพันกว่าบาท แต่บางวันก็ได้น้อย วันละ 300-400 จากนั้นหนูก็ไปเดินสายหมอลำซิ่ง หัดร้องลำบนรถแห่ คือเราประสบการณ์น้อยกว่าพี่ๆ เราก็เลยมีงานน้อยกว่าเขา บางงานที่พี่เขาไปไม่ได้ ก็จะโยนมาให้เรางานนึง เราก็ฝึกประสบการณ์ไปเรื่อยๆ”
มาขึ้นเวทีใหญ่หมอลำ ทำไมถึงเลือกคณะสาวน้อยเพชรบ้านแพง?
อุ๋งอิ๋ง – “วันนั้นหนูคิดว่ากำลังจะไปสมัครอีกวง แต่พ่อบอกว่าทำไมไม่ลองขึ้นเวทีที่บ้านตัวเองก่อน มันเป็นช่วงที่วงสาวน้อยเพชรบ้านแพงมาแสดงโซนอีสาน แถวๆ ศรีสะเกษ พ่อก็บอกให้เราลองไปออดิชั่นก่อน ก่อนหน้านั้นหนูก็เคยทักเฟซบุ๊กไปหาพ่อโจมาแล้ว แต่พ่อโจยังไม่ตอบกลับ หนูไม่ได้รู้สึกถอดใจ ก็คิดว่าเขาไม่ตอบวันนี้ วันหน้าเขาก็ต้องตอบ แต่ถ้าเขาไม่ตอบ ก็ไม่เป็นไร หนูก็แค่กลับไปร้องลำซิ่งเหมือนเดิม หรืออาจจะไปร้องเปิดหมวก ลำซิ่งรถแห่ รับงานปกติ”
คิดไหมว่าจะมีวันนี้?
อุ๋งอิ๋ง – “หนูไม่เคยคิดมาก่อนเลยค่ะ ซิงเกิลแรก หอบฝัน มาหลังฮ้าน กดดันค่ะ เพราะกลัวว่ามันจะไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่หลังจากที่ปล่อยเพลงไป กระแสตอบรับจากแฟนเพลงมันเกินคาดมากค่ะ ทำให้เรามีกำลังใจขึ้นมา ถ้ามองย้อนกลับไปชีวิตของตัวเอง ไม่คิดเลยว่าเราจะมีวันนี้ เรามีวันนี้ได้เพราะพ่อโจ แม่นุช และแม่หน่อย และเอฟซีสาวน้อยเพชรบ้านแพงทุกคนที่สนับสนุนผลักดันให้อุ๋งอิ๋ง มีวันนี้”
ทุกวันนี้รับมือกับความดังของตัวเองได้หรือยัง?
อุ๋งอิ๋ง – “หนูก็ใช้ชีวิตปกติธรรมดาของตัวเองเหมือนเดิมค่ะ เวลาไปไหนมาไหน หรือไปแสดงที่ไหน ไปกินข้าวก็มีคนมาขอถ่ายรูป หนูก็ดีใจ เขาเรียกชื่อเรา อุ๋งอิ๋ง”
ความดังมาพร้อมกับความดราม่า มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ เวลาเจอดราม่าต่างๆ เราทำยังไง?
อุ๋งอิ๋ง – “หนูก็ทำงานปกติ ถ้าเราเอาเรื่องดราม่ามาคิดตลอด เราก็จะทำงานไม่ได้ เรามีดราม่าตั้งแต่เข้ามาแรกๆ เจอว่าเรื่องน้ำเสียงว่าเราเสียงไม่ดี และตอนที่เราป่วยเจ็บท้องแต่ต้องขึ้นร้องบนเวที และช่วงนั้นที่เราจำเนื้อร้องไม่ได้ เพราะเราเครียดก็เลยร้องไห้ ก็เลยมีดราม่าว่าเราแค่นี้ก็ร้องไห้ คนที่เขาไม่ชอบเรา ถามว่านอยด์มั้ยที่เจอแบบนี้ ตอนแรกก็นอยด์ค่ะ แทบทำงานไม่ได้ เพราะเครียดมากเจอ ดราม่าหนักๆ พ่อโจก็เลยบอกว่าถ้าไม่อยากเจอดราม่า ก็ไม่ต้องเข้าไปดู ไม่ต้องเข้าไปอ่าน ไม่ต้องไปสนใจคนที่อคติกับเราเลือกเสพแต่ข้อความที่ดีๆ ที่พ่อๆ แม่ๆ เอฟซีที่เขาชื่นชมชื่นชอบเรา”
เจอดราม่าหนักๆ เคยคิดท้อถึงขั้นไม่อยากอยู่ในวงการนี้แล้ว?
อุ๋งอิ๋ง – “หนูไม่เคยคิดแบบนั้นค่ะ เพราะตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ได้เข้ามา หนูก็โดนว่ามาเยอะแล้ว ตอนที่ไม่ได้เป็นอุ๋งอิ๋งเหมือนอย่างวันนี้ แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไร พอเริ่มมีชื่อเสียงก็อาจจะโดนเยอะขึ้น ตอนนี้หนูก็ยิ้มสู้เลยใครที่ดราม่า(หัวเราะ) คนเราไม่สามารถทำให้ถูกใจคนได้ทั้งโลกหรอกค่ะ เราก็เป็นตัวของตัวเองดีที่สุดแล้ว ทำให้เต็มที่ สร้างสีสันให้หน้าเวทีสนุกสนานกัน”
ตั้งเป้าให้รางวัลอะไรกับตัวเอง?
อุ๋งอิ๋ง – “หนูก็อยากเก็บเงินสักก้อน เพราะตอนนี้บ้านก็ยังไม่เสร็จ เหลือตกแต่งด้านใน ตอนนี้งบบานไปมากกว่า 3 ล้านแล้ว แต่ไม่ถึง 10 ล้าน ก็อยากหาเงินซื้อที่เก็บไว้ให้พ่อกับแม่ที่ศรีสะเกษด้วยพ่อกับแม่ก็ภูมิใจกับตัวเรา ดีใจกับเราค่ะ”
เริ่มเป็นสาว ปรับเปลี่ยนลุกส์ มีชุดสวยๆ เต้นมากขึ้น?
อุ๋งอิ๋ง – “ก็เขินนะคะ ลุกส์เราเป็นเด็กน้อย ก็พยายามมีพัฒนาการมากขึ้นในเรื่องของการโชว์บนเวที”
มีคนมาจีบมั้ย?
อุ๋งอิ๋ง – “มันก็มีค่ะ แต่ในเฟซบุ๊ก หนูจะให้คนติดตามและคนดูแลเป็นคนจัดการให้ เขาอินบ็อกซ์มาทางเฟซฯ ครอบครัวก็จะเป็นคน คอยดูให้ ส่วนมากเขาก็จะทักมาประมาณว่า น่ารักครับ แม่ก็จะตอบไปว่า จ้า ไม่ถึงขั้นว่า ขอจีบได้มั้ย ไม่มีแบบนั้น พ่อโจบอกตอนนี้เราก็ต้องเอางานไว้ก่อน ทำงานเป็นหลัก หนูยังไม่สนใจเรื่องนี้ เรื่องความรักเอาไว้ทีหลัง หนูร้องเพลงอย่างเดียว ไม่รู้เลยว่าความรักเป็นยังไง”
เอฟซีหวงด้วยมั้ย?
อุ๋งอิ๋ง – “หวงค่ะ พ่อๆ แม่ๆ ไม่อยากให้เรามีคู่ อยากให้ทำงานร้องเพลงแบบนี้ไปก่อน”
เคยคิดอยากอัพหน้า ทำศัลยกรรมมั้ย?
อุ๋งอิ๋ง – “ไม่เลย ไม่เคยคิด ก็มีคนติดต่อเข้ามาเหมือนกัน แต่หนูคิดว่าให้เป็นธรรมชาติแบบนี้ดีกว่า หนูกลัวเจ็บด้วยค่ะ”
แฟนมีตติ้ง อุ๋งอิ๋ง ครั้งแรก เตรียมตัวอย่างไร?
อุ๋งอิ๋ง – “ดีใจค่ะ เป็นครั้งแรกที่พ่อโจและเฮียหน่อยจัดงานนี้ให้ วันที่ 13 ก.ค. 67 เป็นงานที่ใหญ่มากสำหรับหนู ความพร้อมอุ๋งอิ๋งเต็มร้อยค่ะ เรื่องเซอร์ไพรส์ก็ต้องมีแน่นอนค่ะถามว่ากดดันมั้ย ก็กดดันค่ะ แต่ก็ต้องทำให้เต็มที่เพื่อพ่อๆ แม่ๆ เอฟซีที่รอคอยวันนั้น ถามว่าลุ้นเซอร์ไพรส์ได้มาลัยเงินล้านมากกว่าเดิมมั้ย สำหรับหนูจะมีมาลัยหรือไม่มี ก็ไม่เป็นไร ก็อยากให้พ่อๆ แม่ๆ เอฟซีรู้ว่า สิ่งที่หล่าทำเพื่อให้พ่อ แม่ เอฟซีมีความสุข ก็ขอขอบคุณพ่อ แม่ เอฟซีที่คอยผลักดัน สนับสนุนคอยซัพพอร์ตอุ๋งอิ๋งมาตลอด”
