วันที่ 5 มี.ค. ที่ศูนย์การค้าสยาม พารากอน นักแสดงสาว เชอรีน-ณัฐจารี หรเวชกุล ให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวภาพยนตร์ “ตีสาม AFTERSHOCK” อัพเดตอาการป่วยเส้นประสาทอักเสบถึงกับเดินไม่ได้ ต้องเข้าแอดมิทโรงพยาบาล ด้านพี่ชายอย่างนิชคุณทราบข่าวรีบมาเยี่ยมน้องสาวทันที
เชอรีน กล่าวว่า “ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้วค่ะ ที่เป็นคือเป็นเส้นประสาทอักเสบ แล้วก็ติดเชื้อในไขสันหลังค่ะ มันเกิดจากไวรัสค่ะ ไม่ใช่การออกกำลังกาย หรือการเคลื่อนไหวอะไร เป็นจากการที่ก่อนหน้านั้นเชอป่วยเป็นหวัด เป็นหวัดปกตินั่นแหละ แต่ว่ามันมีไวรัสบางตัวที่เข้าไปในไขสันหลังแล้วไปทำลายรากประสาท”
สาเหตุเกิดจากอะไร ?
“ไม่รู้เลยค่ะ คือป่วยปกติ ก่อนที่จะป่วยก็แค่พักผ่อนน้อย แล้วเป็นหวัด ไอ มีน้ำมูก ก็เลยไปหาหมอ หมอบอกว่าเป็นแค่หวัดธรรมดา แล้วอยู่ดีๆ พอไข้หวัดหายไปอาทิตย์หนึ่งก็มาเป็นอันนี้”
อาการแรกที่รู้สึกว่าไม่ไหว ต้องไปโรงพยาบาลคืออะไร ?
“มันปวดตั้งแต่หลังด้านล่าง ยาวลงไปถึงเท้าทั้ง 2 ข้างเลย มันปวดแบบอธิบายยากมากค่ะ มันร้าวไปหมดเลย ช่วงแรกยังขยับได้ค่ะ โชคดีที่ไปหาหมอก่อนที่จะเริ่มขยับไม่ได้ ตอนแรกยังขยับได้อยู่ก็รู้สึกแปลกแล้ว รู้สึกว่าอาการมันแปลก ต้องการหาหมอ เลยไปโรงพยาบาล”
ตกใจไหม ตอนที่เริ่มมีอาการปวดจนขยับไม่ได้ ?
“ไม่ตกใจมากค่ะ เพราะว่าเราไปออกกำลังกายมาก่อนหน้านั้น เลยคิดว่าอาจจะเป็นกล้ามเนื้ออักเสบ ก็นั่งนวดตัวเองไป พอไปหาหมอก็บอกหมอว่าเราไปออกกำลังกายมา หมอเลยบอกว่าคงจะเป็นกล้ามเนื้ออักเสบแหละ เลยให้ไปเอ็กซเรย์ดู ไม่มีกระดูกเคลื่อนอะไร ไม่น่าจะใช่หมอนรองกระดูกเคลื่อน โอเคสรุปว่ากล้ามเนื้ออักเสบ จนไปกายภาพแล้วเดินไม่ได้ อาการมันค่อยๆ เพิ่มไปเรื่อยๆ”
“พอหลังจากกายภาพเสร็จก็ปวดจนแบบไม่ไหวแล้ว เดินไม่ได้เลย นั่งอยู่เฉยๆ ก็ปวด ปวดมาก เลยบอกหมอว่าขอแอดมิทแล้วกัน ไม่ไหวแล้ว เดินไม่ได้ พอแอดมิทเขาก็ให้ยาแก้ปวด ฉีดยาแก้ปวดปกติ ก็ไม่ช่วย คือถ้าเป็นกล้ามเนื้ออักเสบ ฉีดยาไปก็จะช่วยคลาย แต่อันนี้ไม่ช่วยเลย ฉีดไป 2 เข็ม แล้วปวดขึ้นอีกจนดิ้นอยู่บนเตียง นอนไม่ได้เลย หมอเลยจับเข้าเครื่องสแกน MRI ค่ะ ทำสแกนแล้วฉีดสี เลยรู้ว่าเป็นเส้นประสาทอักเสบ L1 ถึง L5 ครบทุกเส้นเลยค่ะข้างหลัง”
เรากลัวไหมตอนนั้น ?
“ตอนนั้นเจ็บจนคิดอะไรไม่ออกแล้วค่ะ รู้แต่ว่าขอให้หายๆ”
มีความคิดแว้บขึ้นมาว่าเราจะเป็นอัมพาตไหม ?
“ไม่ค่ะ เพราะว่าคุณพ่อหนูเขาค่อนข้างรู้เรื่องเกี่ยวกับพวกเส้นประสาทเยอะ พ่อบอกว่าไม่ต้องห่วง มันไม่ได้เป็นขนาดนั้น แต่ถ้าไปหาหมอช้ากว่านั้น อาจจะมีสิทธิ์ โชคดีที่มาเร็ว เลยได้ยาเร็วค่ะ(ยิ้ม)”
ใช้เวลารักษาตัวนานเท่าไหร่ ?
“ถ้าเอาแบบหายขาดเลยก็ประมาณเดือนหนึ่งค่ะ แต่ตอนนี้ยังยืนนานมากไม่ได้มันจะปวดช่วงน่องลงไปค่ะ และมีอาการชาที่ปลายเท้า การใช้ชีวิตในทุกวันนี้ก็จะเดินช้าๆ หน่อย ไม่ค่อยเดินไปไหน ส่วนใหญ่จะอยู่ห้อง นอนอย่างเดียว นั่งนานๆ บางทีก็มีนิดหนึ่ง พับขาไม่ได้ “
ออกกำลังกายได้ไหม ?
“ตอนแรกคุยกับหมอไว้ว่าสามารถออกกำลังกายได้ไหม เดินเบาๆ ได้ไหม เดินออกกำลังกาย หมอบอกว่าได้ แต่ดูจากสภาพตัวเองแล้วไม่น่าจะได้ค่ะ”
ต้องพักงานนานขนาดไหน ?
“จริงๆ ทำงานก็ทำได้นะคะ แค่ไม่สามารถออกแรงเยอะๆ ได้ หรือยกของหนักๆ ได้ ที่ยกของไม่ได้เพราะหนูเจาะไขสันหลัง เลยมีแผลอยู่ที่หลังก็ไม่อยากให้ออกแรง ตรงเส้นที่หนูอักเสบเป็นรากประสาทที่ออกมาจากไขสันหลังเลย เหมือนเป็นจากไขสันหลังด้วย เลยต้องเจาะไปดู”
ต้องไปเจาะอีกรอบเมื่อไหร่ ?
“ใช่ค่ะ ต้องตรวจซ้ำอีกรอบหนึ่ง เพื่อดูว่ายังอักเสบอยู่หรือเปล่า”
หมอคอนเฟิร์มไหมว่า 100 เปอร์เซ็นต์ หายขาดแน่นอน ?
“จะคอนเฟิร์มก็ตอนไปเจาะอีกรอบนี่แหละค่ะ คือจริงๆ ไวรัสไม่ได้น่ากลัวอะไร เป็นไวรัสที่มาโจมตี ที่เหลือก็ดูว่าเราจะหายขาดเมื่อไหร่ “
พี่นิชคุณมาเยี่ยมด้วย ?
“ใช่ค่ะ แวะมาเยี่ยม เขาเป็นห่วง โทรมาตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าเข้าโรงพยาบาล ตอนนั้นไม่มีอารมณ์คุย ไม่แตะโทรศัพท์ ไม่คุยกับใครเลย เพราะว่าปวดมาก ก็บอกพี่แค่ว่ามันเป็นแบบนี้ อย่างนี้นะ เขาบอกโอเค”
หมอได้บอกวิธีการป้องกันไวรัสไหม ?
“ป้องกันไม่ได้ค่ะ อยู่ดีๆ หายใจเข้าไปมันป่วย มันก็เป็นเลย จริงๆ มันเป็นเคสหายากนะ ทุกคนคงไม่ได้เป็นกันง่ายๆ หรอก ต้องดวงดีแบบหนูจริงๆ (หัวเราะ)”
มันจะกระทบกับชีวิตที่เราต้องเต้นตลอดไหม ?
“ไม่ค่ะ เพราะว่าหมอบอกแล้วว่าหายขาด เขายังแซวอยู่เลยว่าเดี๋ยวกลับไปเต้นหรือเปล่า ก็เต้นได้ เดี๋ยวกลับไปเต้นค่ะ”
