เปลือยชีวิตดารารุ่นใหญ่ แอ๊ว อำภา เผยวิบากกรรม อาภัพรัก โดนทำของใส่ปางตาย

เปลือยชีวิต นักแสดงรุ่นใหญ่ แอ๊ว อำภา เผยวิบากกรรม อาภัพรัก อดีตสามีทิ้งไปผูกข้อไม้ข้อมือภรรยาใหม่ เคยโดนทำของใส่ปางตาย แถมเจอทอมหลอกคบซ้อน

นักแสดงรุ่นใหญ่มากความสามารถ แม่แอ๊ว อำภา ภูษิต เปิดชีวิตในวงการบันเทิงกว่า 47 ปี เล่าชีวิตรักสุดทรมานเป็นวิบากกรรมที่ทำให้เจ็บจนถึงทุกวันนี้ พร้อมเผยเหตุการณ์เจอคนทำของใส่นาทีวิญญาณเอาชีวิต ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

แม่แอ๊วเป็นคนท้ายๆ เลยที่ผู้จัดนึกถึง? แม่แอ๊ว : “มีอยู่เรื่องหนึ่ง ช่องน้อยสีเขาถ่ายกันไปแล้ว 2 วัน เขาโทรมาปุบปับ ฮัลโหลเล่นได้ไหมแม่ ทองเนื้อเก้า เล่นสิ ได้ๆ แต่บอกแม่ก่อนนะว่าตอนนี้เขาถ่ายไปแล้ว 2 ฉาก แล้วแม่ไปแทนใคร เราก็อยากรู้ แทนใครแม่ไม่ว่า แม่เล่นหมด แต่หนูต้องไปคุยกับคนที่เล่นให้ดี ไปบอกเขาให้รู้เรื่องว่าเพราะอะไรมาเอาเรา ไม่ใช่เรามาสาระแนเล่น

แต่วันนั้นเป็นวันที่ 9 เขาบอกแม่พรุ่งนี้วันที่ 10 วันรัฐธรรมนูญ แม่ต้องรอก่อนนะ แล้วถ่ายวันไหน เขาบอกพฤหัสบดีค่ะ คิวเรา พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ โอเคหนูไปเคลียร์เรื่องนั้น แม่ต้องรอใช่ไหม ก็รอเขาไปเคลียร์กัน ช่องน้อยสีก็ตอบมาเลยว่า โอเค เอาแอ๊วนี่แหละ เป็นคนสุดท้ายที่เขาเลือกมา”

แม่น้อยใจไหม? แม่แอ๊ว : “มันก็นิดนึงทำไมถึงมาเลือกเรา แต่คิดว่าถ้าเราไม่ดีจริงเขาคงไม่มาเลือก แต่กลัวว่าถ่ายไปแล้วเขามาเปลี่ยนอีก กลัวอันนี้มากกว่า”

เขาเลือกเราเป็นคนสุดท้ายในบทนั้นๆ แต่แม่เล่นแล้วแม่ขโมยซีนได้ทุกเรื่องที่เล่น? แม่แอ๊ว : “แม่ไม่ได้แกล้งใครนะ แม่เป็นคนอ่านบท เข้าใจกับตัวละคร”

มีบทนึงที่แม่ไม่ชอบ และไม่เล่นด้วย คือเลิฟซีน? แม่แอ๊ว : “เล่นไม่ได้ ถ้าปัจจุบันนี้นัวเนียๆ แต่เราเกิดมาจากเลิฟซีนหนัง กอดกันแล้วลงไปที่นอนแล้วจะแพลนไปไฟ ได้กันแล้ว แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ เดี๋ยวนี้ต้องเห็นกันจริงๆ มีหนังอยู่เรื่องนึง ชู้กับผี แม่ต้องไปอีโรติก เล่นกับพี่เอก สรพงศ์ แล้วสิ่งที่แม่ฟังมามันต้องถอดจริงๆ เห็นข้างหลัง แล้วต้องมีลูบไล้กัน อย่ามาเล่นกับฉัน ฉันจั๊กจี้ เดี๋ยวฉันร้องอะไรมา อายเขา แล้วจะมาเอาน้ำแข็งให้ฉันลูบ แม่ไม่เล่นค่ะ”

อย่างบางซีน มีผู้ชายมากระซิบข้างหูแม่ไม่เอาเลย? แม่แอ๊ว : “เมื่อก่อนถ่ายหนังแล้วยืนถ่ายรูปด้วยกัน เขายืนข้างเรา เขาตั้งท่ามาร้องเพลงข้างๆ หู ประมาณว่าเหมือนจีบในตัว แต่เราก็ไม่ได้โกรธอะไรเขานะ แต่ข้างในมันคิดเฉยๆ”

แม่คือเครื่องหมายแห่งความสดใส แต่ชีวิตรักของแม่ไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย เป็นคนที่เรียกว่าอาภัพรักเลยก็ว่าได้? แม่แอ๊ว : “ใช่ เหมือนเราซื้อล็อตเตอรี่มาใบนึงเรายังมีลุ้น แต่อันนี้ล็อตเตอรี่แม่ถูกขโมย ไม่ได้ดูแลมันเลย มันไปแล้ว”

แม่แอ๊วได้เลิกรากับอดีตสามีนานมากแล้ว? แม่แอ๊ว : “นานมากแล้วตั้งแต่ปี40”

ด้วยการที่โดนนอกใจด้วย โดนทำร้ายจิตใจ? แม่แอ๊ว : “ใช่ มันเหมือนกับว่าเราทูนหัวทูนเกล้าให้ ในความรู้สึกเราดูแลทุกอย่าง แต่พอวันนึงเมื่อไปอยู่บ้านเขา ซื้อสารพัดสัตว์ตัวแพงๆ ไปไว้บ้านเขา เขาโมโห เอาปืนเหน็บเอว เฮ้ย..โมโหเมีย ทำอย่างนี้เหรอ มันก็ใจเสีย ฉันอยู่ได้ไหมเนี่ย ฉันต้องหนีแล้วมั้ง บ้านแม่เขากลางมุ้งให้เลย สามีภรรยาทะเลาะกันยังไงนอนด้วยกัน ขาเขี่ยกันเดี๋ยวมันก็ดีกันแล้ว แต่นี่ ทางนู้นปูเสื่อกลางมุ้งให้ เรามีหน้าที่อย่างเดียวคือปิดประตูบ้านแล้วนอนไป ร้องไห้ไปไม่มีการง้อ ชีวิตไปคนเดียว โดดเดี่ยว ทุกอย่างเศร้า ได้แต่ตัวกลับมา”

เรื่องแย่ๆ ที่ผ่านมามันสอนอะไรเราบ้าง? แม่แอ๊ว : “สอนให้รักตัวเองมากๆ ถามว่าคนที่เราต้องดูแลคือลูก พ่อ แม่ นอกนั้นเขาจริงใจกับเราหรือไม่จริงใจกับเรา เราก็ดูไว้ ใครดีก็ดีด้วย แต่ต้องรักตัวเอง รักคนของเราให้มากที่สุด”

แม่ก้าวข้ามมาได้ยังไง? แม่แอ๊ว : “จริงๆ ข้ามไม่ทันจะได้หรอก ดูหมอ ไปหาหมอถอนของ เขาบอกว่าโดนของ หนูถามต้องทำยังไง เขาบอกเอาตะปูไปตอกหน้าต่างบ้าน จุดเทียน 3-4 เล่มหน้าพระ เกือบไฟไหม้บ้านตั้งแต่นั้นเลิกทำเลย เรื่องจริง มันอยู่ที่ตัวเรา ไม่ต้องไปดูหมอ ไม่ต้องไปหาทางออก เขาจะไปไหนให้เขาไปเลย เขาเลิกแล้วไปเลย ทำตัวเราให้ดีที่สุด แล้วมาตั้งต้นชีวิตใหม่ ดูว่าเราทำอะไรได้ หาเงินได้ หาไปเลยไม่ต้องกระวนกระวายหาเขา”

แม่พูดถึงปี40 ถึง 3 ครั้ง แสดงว่าปีนั้นเป็นปีที่ไม่ดีที่สุด? แม่แอ๊ว : “เป็นปีที่แย่ที่สุดของชีวิต ลื่นล้ม ไปเอ็กซเรย์หมอบอกว่า มีเนื้องอกก้อนเท่านี้ มันมีฟัน มีผม มีเล็บ มีเส้นขน ถามหมอว่าเขาเรียกว่าอะไร ถ้าทางวิทยาศาสตร์เขาเรียกว่า เดอะมอยซ์ แต่ถ้าทางไสยศาสตร์คุณโดนของ”

หมายถึงว่าสแกนแล้วเห็น? แม่แอ๊ว : “เขาเห็นมีฟันซี่นึงเลย อย่างอื่นยังไม่เห็น เห็นฟันกรามซี่นึงเลย เราก็ตกใจ อย่าเพิ่งเชื่อผมมาก 100% ไปหาหมอที่อื่นแล้วเอ็กซเรย์ดู เราไป 3 ที่ก็เห็นเหมือนกันหมด ตัดสินใจผ่าเลย หมอก็ผ่าออกมาเห็นเล็บ เห็นหนังกระจุกนึงมีผม แล้วก็มีฟัน”

แม่เห็นเองกับตา? แม่แอ๊ว : “เห็นกับตาเลย คุณหมอเก็บไว้เลย”

ตอนนั้นสภาพจิตใจเป็นยังไง? แม่แอ๊ว : “ตกใจมาก โดนของแน่ๆ เลย ปรึกษากับแม่นก จันทนา เขาบอกคุณโดนของนะ แล้วตอนอยู่โรงพยาบาลมีคนมาแอบดูตลอดเวลาเลย กลับบ้านแล้วยังแอบมองตรงระเบียงบ้านชั้นบนมองตลอดเลย ตอนอยู่โรงพยาบาลเขาเข้ามาทางระเบียง มาถึงก็ดึงออกไปเลย ใส่ผ้าแดง อีกข้างนึงใส่น้ำเกลืออยู่ เราก็ดึงกลับมา เขาก็จะดึงไป

เรานึกขึ้นได้ที่เรียกพยาบาลเหน็บไว้ใต้หมอน เราก็กดๆ พยาบาลวิ่งเข้ามา เขาก็หายไป พยาบาลเข้ามาคุยกับเรา คุณหมอที่นี่มีคนตายใช่ไหม ไม่มีค่ะ โรงพยาบาลใหม่ไม่มีค่ะ ไม่เชื่อ คุณหมอต้องมานั่งในนี้เลย มาอยู่ด้วยกัน เขาก็มานั่งทำงาน คอยมองเรา เราก็คอยมองเขา ต่างคนต่างจ้องกัน สักพักเราก็หลับ พอ 11 โมงเช้า ตื่นมาอีกแล้วก็จะมาดึงอีก พี่สาวเคาะห้องพอดีเลย เพราะเราโทรไปก่อนที่เราจะหลับรอบนี้บอกว่าให้เอาพระมาด้วยนะ เพราะว่าแฟนเราเอากลับไป พอมาถึงก็เอามาใส่คอเลย ก็รู้แต่ว่าโดนของตั้งแต่วันนั้น

กลับไปถึงบ้านก็ยังมีแบบนี้อยู่ จนกระทั่งคุณพ่อเสียอีก 2 อาทิตย์ อีก 2 อาทิตย์สามีเลิก มันเป็นปีที่เรียกว่าสูญเสียทุกอย่างเลย แล้วคุณสามีก็ไม่ได้มางานศพคุณพ่อ ไม่ได้มาเผาคุณพ่อ ที่เราร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรเพราะเรารักพ่อ พ่อขับรถให้เราตั้งแต่เล่นหนังจนกระทั่งปัจจุบัน พอเราขับรถได้เองเราก็ไปเอง อยู่กับพ่อสนิทมากทั้งพ่อทั้งแม่

แต่ทำไมเขาเป็นคนที่เราให้ทุกอย่าง ตื่นขึ้นมาเราไปประเคนให้แล้ว จนกระทั่งไปทำงานอยู่ในบ้านเขาทั้งหมดปลุกปั้นแต่เราไม่ได้อะไรเลย เราต้องกลับมาทั้งน้ำตา โดนผัวทิ้ง พูดปีที่9 บอกว่าเราเข้ากันไม่ได้ มันใช่มั้ย เราบอกเข้าไม่ได้ก็ไม่เข้าไม่เป็นไร เราต่างคนต่างอยู่สัก 6 เดือนดีกว่า เราก็ยังใจดี พอวันที่ 5 ธันวาคมทำบุญบ้าน แอ๊วต้องไปไหม ไม่ต้องๆ พอบอกไม่ต้องก็ไม่ไป เขายิงกันกระหน่ำเลย วันนั้นคือวันที่เขาผูกข้อมือกับภรรยาใหม่ มันน่าเสียใจไหมล่ะ เรารู้วันนั้นปุ๊บแต่ทำอะไรไม่ได้ พอตกกลางคืนเหมือนมีเวรมีกรรม ยิงกระหน่ำเลย คนตาย อบต.นอนพาดบันไดบ้านแม่ สาธุฉันไม่กลับไปอีกแล้ว”

เขายิงกันทำไม? แม่แอ๊ว : “คงจะมีเรื่องอะไรกันสักอย่าง แล้วยิงกันลูกปืนเป็นร้อยนัดเลย แล้วเขาเลี้ยง สจ.สัญจรเป็นร้อยโต๊ะ ดีที่เราไม่ได้ไป เพราะเขาบอกว่าไม่มีอะไร เหมือนเดิมแค่มาทำบุญบ้านธรรมดาๆ เหมือนทุกปี พอหลังจากวันนั้นเราบอกว่า ฉันจะบอกทุกคนเลยว่าฉันเป็นอิสระแล้ว เพราะเรารู้เห็นเป็นโสดแล้ว คุณเขาแต่งงานใหม่ไปแล้ว ตอนนี้โชว์ตัวอะไรคนเดียวได้หมดเลย

ตั้งแต่นั้นมาไม่พูดถึงเขานะ เราไม่มีงาน เราแย่ เราตัดคนนี้ออกตัดออกไปจากหัวเลย คุณพระช่วย งานก็มา อะไรก็มา มาหมดเลย ปีเดียวได้ทุกอย่าง ชีวิตดีขึ้นมากเลย ได้บ้าน ได้รถ ได้ทุกอย่างหมดเลย ขึ้นมาเป็น อำภา ภูษิต อีกครั้ง 6 เดือนเต็มๆ ที่โง่อยู่แบบนั้น”

โลกที่เป็นผู้ชายหมดไป เปิดรับโลกใบใหม่ที่เป็นผู้หญิง? แม่แอ๊ว : “หลังจากที่เลิกกับอดีตสามีประมาณ 2 ปีได้ มีอยู่วันนึงไปทำเล็บ ต่อเล็บ ทำผม ฉันต้องสวย ก็ไปเจอคนนึงเดินเข้ามากับผู้หญิงแต่งตัวสวย อีกคนตัดผมเหมือนผู้ชาย นี่เหรอเขาเรียกทอม น่ารักเนอะ เขาฝากเบอร์ไว้ให้ตรงเคาท์เตอร์ พี่ก็ฝากกลับไป แล้วถามว่านั้นใคร แฟนเขาเหรอ ไม่ใช่ พี่สาว”

แล้วใครโทรหาใครก่อน? แม่แอ๊ว : “เขาสิ เขาโทรมาเราใจเต้นตุ้บๆ แต่เขาเป็นผู้หญิงเหมือนกับเรานะ แล้วทำยังไงวะ คิดในใจเหมือนกันนะ ก็คุยกัน เขาก็เหมือนผู้ชายคนนึงมีความรู้สึกโอบอ้อมอารี มีความรู้สึกเอาอกเอาใจยิ่งกว่าผู้ชาย ดูแลเรา เข้าอกเข้าใจเรามากกว่าคนเก่า”

ชนะใจด้วยความรู้สึก? แม่แอ๊ว : “ความรู้สึกแล้วก็อะไรหลายๆ อย่าง เขาดูแลเรา ซึ่งคนๆ นั้นไม่เคยดูแลเราเลย เรามีความรู้สึกเราดูแลเขา เขาดูแลเรา เรายังโอเคบ้าง แต่อันนี้เขาดูแลเราดีๆ เอาละสิ ทีนี้ก็แบ่งวัน ตอนแรกยังไม่รู้ว่านั้นคือเมีย มารู้ตอนหลัง พอเขาใช้งานเราให้ไปหาประกัน เราก็เอ๊ะ…ทำไมต้องหาประกันด้วย คนที่เป็นทอมเนี่ยพาเราไปรู้จักประกัน พี่ซื้อประกันหนูนะ ฝากเงิน 100,00 บาท 10 คนครบแล้ว เขาเปิดเผยเลยว่าเขาเป็นเมีย”

แล้วทำไง? แม่แอ๊ว : “โอ๊ย..หลอกแอ๊ว ก็บอกกับเขาว่าหลอกกันนี่นา แต่ไม่เป็นไรหรอกมาถึงขนาดนี้แล้ว หลอกมันก็ต้องหลอกแล้ว มันก็เป็นไปแล้ว ก็แบ่งวันกัน เขาเคยมาหาเราทุกวันก็เหลือ 2 วัน”

ตอนนั้นยอม? แม่แอ๊ว : “ยอมประมาณ 1 ปี เขาไปเช่าอพาร์ทเมนต์ให้อยู่ใกล้กับบ้านผู้หญิงคนนั้น เขาก็วิ่งทุกเช้า แต่จริงๆ ไม่หรอกวิ่งมาเคาะห้องอยู่กับเรา พอผ่านไป 1-2 ชั่วโมงเขาก็วิ่งกลับบ้านเขา เสร็จแล้วตอนหลังเราก็คุยกันเลยว่าเป็นอย่างนี้ไม่ได้แล้วนะ พี่เอาไปตั้ง 5 วัน แล้วพี่ทำงานอยู่ด้วยกันตลอดเวลา หนูได้ 2 วัน มีอยู่วันนึงก็แอบหนีไปคุยกัน ผู้หญิงคนนั้นไล่ล่าเอาปืนมาด้วย เขาก็บอกว่าอย่าๆ เขาเป็นคนผิดคนเดียว อย่าทำอย่านี้นะ แอ๊วกลับไปก่อนๆ ถ้าเจอแบบนี้ต้องเลิกกันแล้วมั้ง ก็เลยเลิก แต่เขาเป็นคนที่เอาอกเอาใจนะ แต่มันจำเป็นต้องเลิก”

แม่เคยน้อยใจเรื่องความรักไหม? แม่แอ๊ว : “มีคนเขาดูหมอให้แม่มาบอกว่า เราเกิดมาให้ความสุขชาวบ้านนะ เขาไม่ได้ให้เรามาหาความสุขใส่ตัว ก็เลยคิดได้ว่าไม่ควรมี เขาให้เรามาให้ความสุขชาวบ้านจริงๆ ทุกวันนี้เลยไม่มีใคร”

มีหนุ่มตามจีบอยู่จริงไหม? แม่แอ๊ว : “มันก็มีนิดๆ เขาเป็นคนมีอายุแล้ว เราไม่มองเด็กแล้ว ตอนนี้เรามีความรู้สึกว่า ถ้าใครจะเข้ามาฉันต้องไม่ลำบาก ฉันต้องสบาย”

แสดงว่าเขามีอายุมากกว่าเรา? แม่แอ๊ว : “ก็มีอายุค่ะ พอๆ กันแหละมั้ง มีความรู้สึกว่าถ้าเขาซัพพอร์ตเราได้ทุกอย่าง ฉันก็พร้อมดูแลคุณได้ทุกอย่างเหมือนกัน”

คนนี้จีบมานานเท่าไหร่แล้ว? แม่แอ๊ว : “5-6 เดือน”

ซัพพอร์ตทุกอย่างคืออะไรบ้าง? แม่แอ๊ว : “ในเมื่อเขาอยู่ตัวคนเดียวเขาก็ต้องให้เราหมด เราไม่มีทางทิ้งคุณ เพราะเราเป็นคนมีชื่อเสียง ถ้าเราทิ้งเขาข่าวดังใหญ่เลย อำภาทิ้งผัว แน่นอนแม่ต้องเป็นข่าว เพราะฉะนั้นแม่จะไม่ทำ แม่จะดูแลเหมือนไข่ในหินเลย ทุกวันนี้หาเงินมาก็เก็บๆ ไว้ให้ลูกใช้ แต่ตอนนี้ถ้ามีคุณ คุณดูแลฉัน เราก็ไปตามคนแก่สิ ลูกอยู่กันได้แล้ว”

ได้คุยกับเขาตรงๆ แบบนี้ไหม? แม่แอ๊ว : “มันก็คุยนิดๆ ไม้ได้มีอะไรมากมาย แค่ไปเจอกันนิดๆ ทานข้าวแล้วกลับบ้าน”

เขาน่ารักยังไงบ้าง? แม่แอ๊ว : “เขาเป็นคนเงียบ เรียบร้อย”

นอกเหนือจากคนนี้มีใครมาขายขนมจีบเราอีก? แม่แอ๊ว : “เขาก็ส่งมาตามไลน์ แม่ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง แม่ก็สวัสดีค่ะ บล็อคเลย ไม่ต้องการคุยแล้ว เด็กอ่ะมันไม่ใช่ เราอายุขนาดนี้แล้ว เดี๋ยววันนึงเขาต้องเห็นความแตกต่าง เข้ามาทางไลน์มันไม่ใช่ บล็อคๆ หมดเลย ก็มีหลายคน แต่มันไม่ใช่”

น้อยสุดที่ติดต่อมาเท่าไหร่? แม่แอ๊ว : “เดาๆ ว่าประมาณ 30 กว่า เขาคงเห็นว่าเราเป็นผู้หญิงเปล่าเปลี่ยวเหรอ มันไม่ใช่”

แสดงว่าลึกๆ ตอนนี้แม่ยังกลัวความรัก? แม่แอ๊ว : “แน่นอนค่ะ เรากลัวทุกอย่างเลย เราอยู่ตรงนี้เราดูแลตัวเองได้ ดูแลลูกได้ เราดูแลสิ่งที่อยู่ในบ้านเราได้ทั้งหมด เพราะฉะนั้นเราไม่จำเป็นต้องมีใคร แต่ถ้ามีใครสักคนเราต้องไม่เหนื่อย เราต้องไม่มีภาระ เราต้องไม่มีอะไรทั้งสิ้น”

ถ้าคนที่เข้าวินดูอยู่ตอนนี้อยากบอกอะไรเขา? แม่แอ๊ว : “ดูไปนานๆ นะคะ ถ้าเชื่อใจแล้วก็โอเค”

คลิปสัมภาษณ์ย้อนหลัง