หน่อย บุษกร ผู้จัดละครชื่อดัง เล่าประสบการณ์ตื่นเต้น น้ำมันหมดระหว่างเดินทางกลับที่พักในต่างแดน เส้นทางข้างหน้าเป็นป่า โชคดีใช้บริการรถเติมน้ำมันเคลื่อนที่ งานนี้ลูกๆ ขุดวิชาคำนวณมาคิดประมาณน้ำมัน-ระยะทาง
หลงรักประเทศญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ ว่างจากงานเมื่อไหร่เป็นต้องยกครัวเดินทางไปท่องเที่ยวตลอด สำหรับครอบครัวของผู้จัดฯ อย่าง หน่อย บุษกร วงศ์พัวพันธ์ ที่เล่าอย่างออกรสว่าเที่ยวญี่ปุ่นทริปเมื่อปลายปีที่ผ่านมานี้มีเรื่องระทึกระหว่างทางด้วย
วันที่ 16 ม.ค. 67 หน่อย บุษกร ผู้จัดละครชื่อดัง ได้เดินทางมาร่วมเดินแฟชั่นโชว์การกุศล SIRISINLAPIN Art for Life 2024 LOVING KINDNESS ในงาน “HEART of GIVING LOVING KINDNESS” ณ ชั้น 1 รพ.จุฬาภรณ์ ขนาด 400 เตียง ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานครฯ จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงเรื่องที่เดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นที่ผ่านมา
ทริปญี่ปุ่นครั้งนี้เป็นไงบ้าง? “สนุกสนานผจญภัยสุดๆ เพราะไปกับพ่อเเละพ่อก็จะยิ่งชอบเข้าป่าไปเรื่อย (ทริปนี้ใครเป็นคนเลือก) พ่อค่ะ มีวันเดียวที่ให้พี่เข้า ตอนนั้นเป็นเมืองซัปโปโล พอเข้าไปในเมืองก็จะมีเวลาให้พี่ประมาณ 4 ชม. ซึ่ง 4 ชม. นั้นก็ต้องแบบ ฉันยังทำอะไรไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าจะพลิกตัวยังไง เสร็จเเล้วก็กลับบ้าน
พอกลับระหว่างทางน้ำมันหมด อันนี้เป็นการผจญภัยสุดๆ เพราะว่าเราก็ไม่รู้ว่า คือนางขึ้นทางด่วน เเล้วเเล้วนางก็แบบ อุ้ย เออ น้ำมันหมด เดี๋ยวเราไปลงตรงเมืองข้างหน้าเเล้วก็ไปเติมน้ำมันตรงนั้น เเล้วค่อยขับรถเข้าป่าไปอีก พอเข้าเมืองจะแวะเติมน้ำมันปั้มเเรก ปั้มปิด ซึ่งตอนนั้นประมาณ 5 โมงเย็น พอปั้มปิดเเล้วเราก็ใช้กูเกิ้ลแปลภาษา เขาบอกว่าปิดตั้งเเต่วันที่ 1-4 เปิดตั้งเเต่ดวลา 10 โมง ถึง 4 โมงเย็น
เราก็คิดหมายความว่าเป็นเฉพาะปั้มนี้รึเปล่า เราก็ไปหาอีกก็เจอปั้มๆ ก็ปิดอีก จนเรารู้สึกใจเเป้ว บอกตรงๆ เลย เพราะเราไม่รู้ว่าทางที่เราจะไปมันต้องเดินทางผ่านป่าเเละในป่านั้นมันมืด เเละเรารู้อยู่เเล้วว่าไม่มีอะไรเเน่นอน ก็เลยให้เขาดูโรงเเรม จะไปนอนโรงเเรมตรงนี้ดีไหม เราก็คิดอีกจะนอนโรงเเรมเพื่ออะไร ในเมื่อบ้านเราก็มี เราก็นอนบ้านสิ
Advertisement
เราก็แบบเอาอะไรยังไงดี ก็หาทางคุยกับคนไทย เขาก็เลยเรียกแอพฯ ซึ่งเป็นแอพฯที่เอาไว้เติมน้ำมัน เเละคือเติมน้ำก็คือ 10 ลิตร เเต่ว่ารถใหญ่มาก เราก็เติมได้ 10 ลิตร ก็คิดว่าเราจะเข้าป่าได้หรือเปล่า ลูกก็มาช่วยกันคิด รถรุ่นนี้ ยี่ห้อนี้ ใช้น้ำมัน 1 ลิตร วิ่งได้กี่กิโล ก็ใช้วิชาคำนวณกันทุกคน
ก็คือมาช่วยกันคิด น้ำมันอันนี้กับรถรุ่นนี้เราเติมดีเซล เเล้วเขาบอกว่า 1 ลิตร วิ่งได้ 15 กิโล เขาเติมให้ 10 ลิตร ก็ 150 กิโล ป่าตรงนั้นประมาณ 40 กิโลเมตร ก็โอเคผ่าน แต่ตอนเเรกก็มีคิดว่าแบบ 10 ลิตร คือมาเพื่อ มันจะไปถึงไหน เราก็รู้สึกแบบว่า 10 ลิตร มันน้อยไปหรือเปล่า คือเขาก็บอกว่าเป็นกฎของญี่ปุ่น คือถ้าช่วยก็ช่วยได้เเค่นี้ 10 ลิตร ไม่มาเต็มถัง”
งานกลุ่ม วิชาคำนวณเอาตัวรอด? ใช่ค่ะ ก็เลยมีการคำนวณกันอย่างนั้นเเหละค่ะ ก็คืองานกลุ่มก็ช่วยกันหาข้อมูล (ระหว่างทางก็มีอะไรให้สนุกสนาน?) “ก็มีอะไรให้สนุกสนานค่ะ (เเล้วพอเราเข้าป่าเเล้วเป็นยังไงมั้ง?) ลูกสนุก พ่อสนุก ทุกคนสนุกมากๆ ค่ะ ก็คือแบบอีกนิดนึงก็เข้าป่า อย่างที่บอกกลางคืนก็จะเห็นกวาง บางทีกวางวิ่งตัดหน้าเราก็จะต้องระวัง เพระว่ากวางนางมานางก็จะวิ่งเลย ส่วนเราเป็นรถเราก็ต้องระวังเเค่นั้นเลย”
มีอะไรให้เห็นตื่นตาตื่นใจ? “เห็นเยอะมากเลย เดี๋ยวก็กวาง เดี๋ยวก็นก เดี๋ยวก็สุนัขจิ้งจอก เป็นทริปที่สนุก เด็กสนุกมาก มีบางวันที่ต้องจองทัวร์เพื่อให้เขาพาเราไป ออกจากบ้านตี 5 เพื่อไปชมนกกระเรียนที่มันจะต้องบินจากที่อยู่ ก็ต้องรอพระอาทิตย์ขึ้น พอพระอาทิตย์ขึ้น ลูกก็ดีใจมากๆ ว่า เเม่ๆ ดูๆ นกจะบินเเล้ว ส่วนฉันก็หนาวมือมากคือจังหวะนั้นฉันก็เย็นมือมากคือประมาณ -17 -18 องศา เเล้วเราก็ต้องรอนกบิน พอจังหวะนกบินทุกคนก็จะดีใจ เเล้วก็จะหยิบกล้องมาถ่าย แบบมือใหม่หัดถ่ายภาพ ก็ได้ถ่ายรูปในโหมดนั้น”
ในไอจีมีแต่รูปธรรมชาติ ในเมืองก็จะน้อยมาก? “ถูกค่ะ ไอจีในช่วงนี้ก็จะเป็นสัตว์ ซะส่วนใหญ่ค่ะ (พาเข้าเมืองเพื่อเอาใจเรานิดเดียวใช่ไหม?) นิดมากๆ ค่ะ นิดมาก เพราะว่าเรากำลังเดินๆ อยู่ ก็จะโทรมา เเม่ทำอะไรอยู่เมื่อไหร่จะกลับมา เดี๋ยวก่อนนะฉันรออันนี้อยู่ (เเล้วได้ซื้อของอะไรของเราไหม?) ก็น้อยมากๆ เเต่ได้ในสิ่งที่ตัวเองอยากได้จริงๆคือเครื่องสำอางค์เล็กๆ น้อยๆ ของเรา”
ก็แปลว่าคุณพ่อกับคุณลูกก็จะมีความสุขมากกว่า? “มากกว่ามากๆ มากกว่าฉันมากๆ เพราะเขาจองทริปคือพายเรือเเคนู ตอนเเรกพี่ก็บอกว่าไม่ไป ไปกันเลยฉันไม่ไป คือฉันก็บอกว่าฉันกลัวน้ำ พายเรือเเคนูก็นึกประมาณนั่งเรือล่องเเก่ง พอเราเห็นน้ำเราก็เเบบไม่เอาๆ พ่อก็บอกว่าไปเหอะมันสวย มันสวยจริงๆ เราก็เลยอ่ะไปก็ได้ เออมันก็สวยจริงๆ นะ เเต่ว่ามันก็จะต้องแบบว่าแต่งตัวให้มันเซฟตัวเอง”
หลังจากกลับมา มีได้บอกไหมว่าติดใจอยากไปอีก? “เเน่นอนค่ะ (หัวเราะ) เเต่นางนึกถึงฤดูต่อไปเลยค่ะ (ก็คือในปีนี้ก็จะมีเที่ยวเเบบนี้อีก?) ก็คงยังงั้นเเหละค่ะ (ฤดูร้อนของเขาเป็นยังไงนะ?) ฤดูร้อนไปมาเเล้วปีที่เเล้ว พอนางไปปีที่เเล้ว นางมาเห็นตรงนี้มีพายเรือเเคนูฤดูหนาวด้วย นางก็มาร์กเอาไว้ พอฤดูหนาวนางก็ไป พอไปเสร็จ นางก็แบบเดี๋ยวฤดูใบไม้ผลิก็จะไปอีก ฉันก็มาคิดเราจะไปครบทุกฤดูไม่ได้นะ”
มีทริปที่ตัวเองอยากไปบ้างไหม? “มีค่ะ (ถูกปัดตกไหมหรือว่ายังไง?) ไปคนเดียวค่ะ (หัวเราะ) (ทำไมเขาปล่อยให้ไปคนเดียว?) ใช่ค่ะ นางก็ปล่อยพี่ไปคนเดียวเลย ตอนนี้คือพี่แบบว่าถ้าใครชวนไปไหนไปเลย ก็เนี่ยเดี๋ยวจะไปกับนุ่น(วรนุช) นุ่นบอกว่าเดี๋ยวนุ่นจะไปเกาหลี นุ่นบอกเดี๋ยวนุ่นจะพาไปเที่ยวนู้นนี้ เราก็บอกว่าไปๆ”
แปลว่าเราหวังพึ่งกับครอบครัวไม่ได้เเล้ว? “ไม่ได้ (หัวเราะ) ครอบครัวเราก็จะไปเป็นอีกอันหนึ่ง เเต่ว่าเราก็จะต้องทำใจที่เราจะต้องเจอกับบรรดาสัตว์น้อยใหญ่ เราก็ต้องทำเป็นแบบดีใจ น่ารักจังเลย”
จะมีเห็นภาพครอบครัว กับก็สถานที่ที่ทางเราชอบไหม? “คิดว่ายากค่ะ (หัวเราะ) เขาไม่ชอบค่ะ เขาไม่ชอบเลย เเล้วเเต่เลย เพราะว่าลูกตอนนี้ก็แบบไม่ชอบ ถามน้องคุนน้องคุนอยากไปไหน นางก็บอกว่าอยากไปเดินป่า อยากขึ้นเขา อยากไปนอนบนเขา (แปลว่าทำใจเเล้ว?) ทำใจเเล้วค่ะ (ก็ไปได้เเต่กับเพื่อน?) ใช่ค่ะ เราก็มีเพื่อนเป็นที่พึ่ง”
