เอม วิทวัส ลั่น! / ถือเป็นกลุ่มเพื่อนคนดังที่สนิทสนมกันมาก สำหรับ เอม-วิทวัส รัตนบุญบารมี , จ๊ะ-นงผณี มหาดไทย และ PIMRYPIE หรือ พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ แถมก่อนหน้านี้มีดราม่ากันฉ่ำ แบบรับไม้ต่อ รวมถึง เมื่อก่อน จ๊ะเอม มักจะมีคอนเสิร์ตร่วม แต่พอหลายคนไม่เห็นรับงานคู่ เลยถูกโยงว่าทะเลาะแตกคอ
ล่าสุด เอม มาร่วมงานเปิดตัว ภาพยนต์พี่นาค4 เลยเปิดใจเรื่องนี้ ว่ายังคบกันอยู่หรือไม่ รวมถึงดราม่าที่ถาโถมจนทำให้คิดออกจากวงการ
ก่อนหน้านี้ก็เหมือนเราเหนื่อยหลายๆเรื่อง? “คือจะบอกว่ายังไงดี คือตอนที่เราเข้าวงการมาก็ไม่ได้มีคนคัดประวัติเราไง แต่พอเราเข้ามาปุ๊บ สิ่งที่เราเจอจริงๆมันก็ช็อกอยู่ งงว่าขนาดนั้นเลยหรอ เพราะว่าเราก็ใช้ชีวิตของเราปกติเหมือนทุกคน แต่แค่บางอย่างมันมีประเด็นเข้ามาทำให้เรารู้สึก อ๋อ หรอ”
ได้คุยกับเพื่อนไหม เพราะว่ากลุ่มเราสามคน (พิมรี่พาย,จ๊ะ พงผนี,) ก็โดนทุกคน? “เขาเรียกว่ารับไม้ต่อ พิม จ๊ะ เอม ก็ไล่กันมา ก็มีปรึกษากัน แต่ด้วยความที่เราก็บอกว่า เฮ้ยมึงเดี๋ยวมันจะผ่านไป เราจะแก้ยังไงมันไม่ได้เกิดที่เรา เราก็คิดแค่ว่าเดี๋ยวมันก็น่าจะผ่านไปในแต่ละอย่าง”
เห็นบอกจะออกจากวงการเลย? “เริ่มจากอีนี่ก่อนเลย(ชี้ตัวเอง) เออบางทีมันหนักเกิน บางทีเราไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ แล้วก็ในเรื่องบางเรื่องมันงงจริงๆ เราต้องทำยังไง ก็เลยคิดว่าถ้ามันเกิดจากเรา เราออกก็ได้ เราคิดแบบนั้น ณ ตอนนั้นมันไม่มีทางออกแล้ว ก็โทรหาจ๊ะ จ๊ะก็บอก เออ มึงสู้สู้ มันก็ให้กำลังใจ พออีจ๊ะมีดราม่า เออมึงกูก็ออก(หัวเราะ) จับมือกันออก”
แล้วตอนนั้นดิ่งไหม? “ก็ดิ่ง เอมว่าชีวิตอ่ะมันจะมีช่วงดิ่ง ช่วงขึ้นช่วงลง ตอนนั้นมันก็อาจจะงงหน่อย แต่ก็ผ่านมาได้ ก็รู้สึกว่าเราอาจจะไม่เหมาะกับตรงนี้หรือเปล่า คือถามว่าจัดการยังไง คือมันมีตัวเราที่เราต้องฮีล แล้วก็ครอบครัว เราต้องทำต่อ เราก็รู้สึกว่ามันจะต้องแก้ไปทีละเปาะ จะไปเร่งที่ปลายเลยไม่ได้ออกเลยเราไม่รู้วิธีแก้ไง แล้วหลังจากนั้นเราก็รู้สึกว่า ถ้าค่อยๆแก้มันก็น่าจะดีขึ้น”
Advertisement
หลายคนจนนึกภาพไม่ออกเวลาคนที่ภายนอกดูสดใสอารมณ์ดีแบบเราเศร้าจะเป็นยังไง? “เต้น(หัวเราะ) ไม่ใช่ คือมันเป็นข้างในมากกว่า เราก็คิดนะ หรือเราเป็นอินโทเวิร์ต ไม่อยากเจอคน แต่ก็อยากเจอนะ สรุปเป็นอินเทอร์เน็ต แค่รู้สึก เราเจอคนแล้วก็กลัวมากกว่า กลัวว่าทำอะไรก็จะเป็นดราม่า กลัวนุ่นกลัวนี่ก็เป็นอยู่พักหนึ่งซึมๆหน่อย”
คอมเมนต์ไหนที่มันแรงมากไป? “ไปถึงย่า ไปถึงยันที่บ้านเลย ‘บ้านมึงไม่สั่งสอนหรออีกระเทย’ ‘เข้ามาอยู่ในวงการทำเสื่อมเสีย’ นู่นนี่นั่น ไม่เข้าก็จะให้กูเข้า พอบอกเข้า เข้ามาตอนไหน คือที่เอมซีเรียสอ่ะ มันโยงไปมั่วเลย”
“คือให้เรียกว่ารับจ้างดีกว่า ใช้คำว่ารับจ้าง ให้เล่นหนังก็มาเป็นนักแสดง ไปเป็นพิธีกรก็เรียกพิธีกร ไปเล่นคอนเสิร์ตบนเวทีก็เรียกนักร้องไป ก็แล้วแต่คนจะเรียก ส่วนตอนนี้เอมก็ทำไปเรื่อยเลย หนังก็ต้องทำ รายการก็ยังมีลูกน้องที่ต้องเลี้ยง เพลงก็ยังต้องร้องอยู่ แล้วก็ขายสินค้าด้วย ทำทุกอย่าง”
แล้วคอนเสิร์ตจ๊ะเอมไม่มีแล้วหรอ? “คือมันไม่ได้เชิงเลิก เหมือนว่าไปทำมาปีนึงมันเต็มแล้ว คือเอมมีวงเดี่ยวอยู่แล้ว ตอนนี้ก็คุยกันว่าต่างคนต่างรับเนาะ (ดังแล้วแยกวงหรอ?) โอ้โหหนักกว่าเดิม คือเอมมีวงเดี่ยวก่อนอยู่แล้วก่อนที่จะมาขึ้นกับจ๊ะ แล้วตอนนั้นน่ะไปเซอร์ไพรซ์เขสก็เลยจ้างคู่ แต่กลายเป็นว่าตอนนี้จ๊ะก็มีวงของนางเหมือนกัน”
กลัวไหมว่าคนไปโยงว่าเราทะเลาะกัน? “ไม่กลัว คนที่โยงว่าเอมจ๊ะทะเลาะกันคือคนปัญญาอ่อน ไม่ได้ทะเลาะกันยังคุยกันตลอดอยู่เลย แต่เราคุยกันตั้งแต่แรกเลยว่าช่วงนี้เรารับด้วยกันเนาะเป็นเงินเป็นทอง ปีหนึ่งรับทั้งหมดเลย แล้วตอนเนี่ยมึงก็ไปรับวงมึง กูก็รับวงกู เพราะว่าถ้าตอนเนี่ยเรายังรับคอนเสิร์ตกับจ๊ะ วงเราก็จะไม่มีงานเลย วงเดี่ยวของเราชื่อปีนงิ้ว ก็มี 10 กว่าคน”
เห็นเมื่อก่อนบอกแกล้งร้องไม่เพราะ? “ตอนนี้ก็ไม่ได้แกล้งค่ะ(หัวเราะ)”
จ๊ะบอกว่าเวลารับงานคู่ค่าตัวเยอะมาก? “เดี๋ยวโทรหาจ๊ะ (ยกโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาจ๊ะ) ถามเลยทะเลาะไหม (ถ้าไม่รับแปลว่าทะเลาะ) (จ๊ะรับสาย) มึงๆกูสัมภาษณ์อยู่ มึงกับกูทะเลาะกันไหม (จ๊ะ: อยู่แล้วค่ะ) ทะเลาะค่ะ เออ แค่นี้นะ(หัวเราะ) เราทะเลาะกันค่ะ บางทีคนไม่เห็นอยู่ด้วยกัน ก็คิดว่าเราแตกกันทะเลาะกันนู่นนี่นั่นปกติ”
เห็นเคยให้สัมภาษณ์ว่าเวลาไปเล่นคอนเสิร์ตตามผับร้านอาหาร เจอลูกค้าด่า เรียกจิกหัวโดนหนักขนาดไหน? “คือมันเลือกไม่ได้ เพราะว่าเราอ่ะเลือกที่จะเข้าไปทำงานอยู่ในนั้น คือในร้านเหล้าทุกคนเมาหมด คือแรกๆเราอาจจะงงว่ามาด่าเราทำไม แต่หลังๆเราต้องปรับความเข้าใจเพราะว่าเราก็ต้องหากินกับทางร้านเหล้า”
