เข้าวงการชีวิตเกินคาด มาไกลเกินฝัน สำหรับพระเอก ‘ตี๋’ ธนพล จารุจิตรานนท์ ที่ล่าสุดได้เป็นพระเอกเต็มตัวเรื่องแรกในละคร “เรือนทาส” ทางช่อง 3 รับบท ‘เกื้อกูล’ ซึ่งการทำงานในวงการเปลี่ยนความคิดทำให้เขาเป็นผู้ใหญ่ขึ้น จากคนที่ไม่ชอบการแสดง แต่ทุกวันนี้พูดได้เต็มปากว่ารักอาชีพนักแสดงมาก
ก้าวขึ้นเป็นพระเอกเต็มตัวเรื่องแรกในละคร “เรือนทาส”?
ตี๋ – “ดีใจมากๆ แต่ความดีใจมาพร้อมความตื่นเต้นและกดดัน เพราะอยากทำให้ดีที่สุด บวกกับได้รับบทที่โตและท้าทายตัวเองขึ้นด้วย เลยตั้งใจทำออกมาให้เต็มที่ พยายามดูละครพีเรียดว่า เขาเล่นจังหวะยังไง การพูด การมอง รวมถึงวิธีการต่างๆ ที่สื่อสารออกมา แต่ที่ยากคือภาษาของสมัยนั้นทำให้เราต้องทำการบ้านในส่วนนี้เยอะ”
คาแร็กเตอร์ของเกื้อกูลเป็นยังไง?
ตี๋ – “เกื้อกูลเป็นคนขี้สงสัย เขาเป็นนักการทูต ถูกส่งไปเรียนเมืองนอก ความคิดความอ่านอิสระ พอกลับมาเมืองไทยก็ไม่เข้าใจว่ายังมีเรื่องผีอยู่เหรอ เลยพยายามพิสูจน์ ต้องบอกว่าคาแร็กเตอร์ตัวละครนี้ตรงข้ามกับตัวจริงเลย (หัวเราะ) ผมเป็นคนชอบอยู่กับตัวเอง อินโทรเวิร์ต แต่เกื้อกูลคือเอ็กซ์โทรเวิร์ต ไม่อยู่บ้านตัวเองเลยสักวัน”
การทำงานกับพี่ๆ นักแสดงรุ่นใหญ่?
ตี๋ – “พี่ๆ สุดยอดมากๆ แต่ในส่วนของผมจะไม่ค่อยได้เข้ากับรุ่นใหญ่เยอะ จะเจออ๊ะอาย อันดา และนินจา ซึ่งเป็นรุ่นเล็กมากกว่า เลยลดความเกร็งไปได้เยอะ”
ประกบคู่ อ๊ะอาย ที่ประเดิมนางเอกเรื่องแรกเหมือนกัน?
ตี๋ – “ตื่นเต้นมาก อย่างแรก ผมไปแอบสืบมาว่าน้องอ๊ะอายเป็นใคร จนรู้ว่าเป็นนักร้องมีวงเป็นของตัวเองชื่อ 4EVE แต่กลายเป็นว่าพอมาอยู่กอง ทุกคนบอกว่าน้องเป็นเด็กเก่งนะ ทำงานมาเป็นสิบๆ เรื่องแล้ว ประกวดร้องเพลงมาอีก ร้องได้เต้นได้แสดงได้ ผมก็แบบจริงป่ะเนี่ย คนที่มาเล่นกับเราเจ๋งขนาดนี้เลยเหรอ พอมาเข้าซีนด้วยกัน…เจ๋งจริง ดีดนิ้ว 321 น้ำตาร่วง สรุปว่าที่ไปแอบสืบมาแค่หน้าปก ยังไม่ได้เปิดอ่านหน้าใน พอเปิดอ่านถึงได้รู้ว่า Portfolio หนาขนาดนี้ (หัวเราะ) ผมยิ่งทำการบ้านหนักกว่าเดิม รุ่นใหญ่ว่าเก่งแล้ว มาเจอนางเอกที่เก่งอีก”
เข้าวงการมาร่วม 10 ปี จนวันนี้ได้เป็นพระเอกแล้ว รู้สึกยังไงบ้าง?
ตี๋ – “สำหรับผมมันเกินคาดมาตั้งนานแล้ว ผมเป็นคนที่มาจากติดลบ บุคลิกภาพไม่ดี สื่อสารไม่ได้ ขี้อาย ขี้กลัว ไม่ชอบเข้าสังคม ชอบอยู่ในเซฟโซนตัวเอง แต่การทำงานในวงการต้องเข้าสังคม สื่อสารกับทุกคนให้ได้ มาถึงวันนี้ได้มันไกลเกินฝันมากๆ แล้วสำหรับคนที่ขี้อายคนนั้นจนมาเป็นตี๋ วันนี้ ต้องขอบคุณทั้งครอบครัว เพื่อนๆ พี่ๆ และทุกคนที่ทำให้ตี๋มาถึงจุดนี้ได้”
“ผมยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพราะอาม่าเคยบอกว่าเราจะไปกลัวในการทำดีทำไม กลัวทำสิ่งที่ไม่ดีดีกว่า เลยจุดประกายตัวเองว่าการทำแบบนี้มันสร้างอาชีพให้เราได้ เราก็ควรพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นได้ ทุกวันนี้ก็หลงรักกับสิ่งที่เราทุ่มเท จริงๆ ตัวเองเป็นคนชอบการค้าขายทำธุรกิจ แต่การทำงานในวงการบันเทิงเปลี่ยนความคิดให้ตี๋เป็นผู้ใหญ่ขึ้น และเป็นอาชีพที่ทำให้ตี๋ดูแลตัวเองได้ รวมถึงดูแลคนที่เรารักได้ด้วย จากไม่ชอบการแสดงเลย ไม่โอเคแบบสุดๆ กลายเป็นสิ่งนี้เลี้ยงเราจนถึงทุกวันนี้”
อาชีพนักแสดงเป็นสิ่งที่เราปฏิเสธมาตลอด?
ตี๋ – “หัวใจปฏิเสธ แต่เราทำได้ ใจเรารู้ว่าเราไม่ได้ชอบแนวนี้ แต่เราทำเพราะอีกด้านหนึ่งมันดี เราถึงยอมอดทนเพื่อวันหนึ่งถ้ามันสำเร็จ ก็เป็นความภาคภูมิใจ ทุกวันนี้พูดได้เต็มปากว่าผมรักอาชีพนักแสดงมาก ทั้งรักทั้งขอบคุณ ขอบคุณที่ให้ชีวิตใหม่กับตี๋ และรักที่ทำให้ตี๋แข็งแรงจนถึงทุกวันนี้ได้”
เป้าหมายต่อไปที่วางไว้?
ตี๋ – “อยากทำให้ตัวเองมั่นคงยิ่งขึ้น ทุกวันนี้ที่ยืนอยู่คือกำไรชีวิตแล้ว อนาคตต่อไปที่อยากทำอาจจะเป็นธุรกิจส่วนตัว แต่ก็ไม่ทิ้งการแสดง วันนึงตี๋เป็นพระเอกได้ วันนึงตี๋ก็เป็นรุ่นพ่อได้ ไม่ยึดติดความเป็นพระเอก เราตั้งใจอยากทำอาชีพของเราให้ดี เชื่อว่าเราก็น่าจะอยู่ในวงการนี้ไปได้อีกนานครับ”
จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล