ปีที่ผ่านมาเรียกว่าเป็นปีที่เจอมรสุมหนักสุดในชีวิต แต่พระเอกหนุ่ม ‘ตงตง’ กฤษกร กนกธร ก็สามารถก้าวข้ามผ่านมาได้ โดยพยายามเรียนรู้ อยู่กับมัน และปล่อยวาง ไม่เอาปัญหาโยนไว้ให้ใคร ทุกอย่างที่ผ่านมาทำให้โตขึ้น ระมัดระวังในการใช้ชีวิต คิดก่อนทำ

ส่วนเรื่องความรักยังใช้หัวใจในการตัดสินใจ ไม่ปิดกั้น เชื่อใจหัวใจตัวเอง

✦ จะมีบ้านหลังแรกในชีวิตแล้ว อัพเดตให้ฟังหน่อย?

ตงตง – “ปีนี้ได้เข้าอยู่แน่นอน ตอนนี้อยู่ในช่วงตกแต่ง รอเอาของเข้า บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ซื้อในหมู่บ้านและทุบบางส่วน (หัวเราะ) ถามว่าเปลืองเงินไปเยอะมั้ย ทุกวันนี้ก็โดนแม่ด่าอยู่ แต่สุดท้ายแล้วคือเราอยู่ทั้งทีก็คงอยากอยู่ไปยาวๆ เลยทำในสิ่งที่ชอบ ผมคุยกับแม่แล้ว ไม่ได้เกินงบ จ่ายแล้วเงินต้องเหลือ ไม่เดือดร้อน ซึ่งการมีบ้านเป็นของตัวเองมันคือความฝันของทุกคน ตั้งแต่เด็กผมมีแว้บเข้ามาในหัวว่าอยากสร้างบ้านให้แม่ ตอนนี้พอใกล้จะเสร็จ แม่ได้ใกล้มาอยู่แล้ว ก็รู้สึกภูมิใจและมีความสุข”

อาทิตย์ใส

✦ แม่สัญญาว่าจะมาอยู่ด้วยใช่ไหม?

ตงตง – “คงมาอยู่แหละ แต่อาจจะไม่ได้มาอยู่บ่อย เพราะแม่ผมเป็นคนอีสาน อยู่ที่บ้านจ.มหาสารคามจนชิน เขามีเพื่อนบ้านของเขา ได้ไปจ่ายตลาด อยู่กรุงเทพฯ ไม่มีแบบนั้น เพราะฉะนั้นเขาน่าจะชอบในแบบที่เขาเป็นอย่างนั้น แต่ผมรู้สึกอย่างน้อยเราต้องมีบ้านเอาไว้ที่กรุงเทพฯ เพื่อเราได้เจอแม่ ได้ใช้คำว่ากำลังกลับบ้านนะ ได้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านกับแม่ เห็นแม่ทำกับข้าว กินข้าวกับแม่ อย่างน้อยเราก็ได้ความรู้สึกตรงนี้”

อาทิตย์ใส

✦ ปีที่ผ่านมาเจอสารพัดเรื่องราว ถือว่าหนักที่สุดในชีวิตเลยไหม?

ตงตง – “หนักที่สุดแหละครับ แต่สุดท้ายก็ทำให้เราก้าวผ่านมาได้ เราไม่สามารถทำให้ใครมาเข้าใจเราได้ 100% หรือรักเราได้ทั้งหมด เราแคร์คนทั้งโลกไม่ได้ ฉะนั้นขอแค่คนที่รักเรา คนที่เรารัก สนิทกับเรา รู้ว่าเราเป็นยังไงเท่านั้นพอแล้ว แต่เราก็ต้องเรียนรู้และเข้าใจวัฏจักรต่างๆ ด้วย ที่สำคัญที่สุดคือต้องเข้าใจตัวเอง ที่ผ่านมาผมทำความเข้าใจกับตัวเองค่อนข้างมาก ผมว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือตัวเอง เพราะตัวเองนี่แหละที่จะทำให้เราคิดไปอย่างนั้นอย่างนี้ ที่สุดแล้วไม่มีใครพาเราก้าวผ่านได้ นอกจากพาตัวเองนี่แหละก้าวมันไป”

อาทิตย์ใส

✦ ตอนนั้นเครียดขนาดไหน?

ตงตง – “มีช่วงที่เครียดมากๆ แต่เราก็พยายามหาทุกวิถีทาง แค่ไม่ได้ไปปรึกษาใคร ไม่อยากเอาความทุกข์ของตัวเองไปให้กับคนอื่น เพราะทุกคนมีความทุกข์ของตัวเองอยู่แล้ว มันก็จะเหมือนเราเอาสารที่ไม่ดีไปให้เขาหนักใจมากขึ้น ตอนนั้นเลยทำให้เราอยู่กับตัวเอง และพาตัวเองก้าวผ่านมันไปให้ได้”

อาทิตย์ใส

✦ แบกไว้กับตัวเองคนเดียวเลยเหรอ?

ตงตง – “เราไม่ได้แบกมันไว้หรอก เราพยายามเรียนรู้และอยู่กับมัน ช่วงนั้นเลยทำให้ได้คิดเยอะมาก สิ่งที่ได้เรียนรู้มาคือเราควรปล่อยวาง ไม่ต้องสนใจคำพูดพวกนั้น เพราะสิ่งที่จะพิสูจน์ได้คือ ณ วันที่เราจะทำในอนาคต ทุกอย่างจะบอกเองว่าตัวตนเราเป็นยังไง แล้วสิ่งที่เราทำในอนาคตก็จะบอกเองว่าแล้วเราเป็นอย่างนั้นมั้ย เราดีไม่ดียังไง”

อาทิตย์ใส

✦ ข่าวที่เกิดขึ้นตอนนั้นกระทบกับงานเยอะไหม?

ตงตง – “มีบ้างครับ แต่สุดท้ายแล้วมันทำให้เรายอมแพ้ไม่ได้ และทำให้มองย้อนกลับไปเมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว กว่าจะผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย กว่าจะเรียนแอ๊กติ้ง กว่าจะได้เจอคนนี้คนนั้น ไหนจะโดนพี่บอย (ถกลเกียรติ) ด่า ไหนต้องตื่นเช้าไปเรียนสารพัดสิ่ง เป็นอะไรที่มีค่ามาก แล้วถ้าเรายอมแพ้เท่ากับเราทิ้งสิ่งที่ 7-8 ปีที่เราทำมาหมดเลย แล้วเราจะทำมาเพื่ออะไร เลยรู้สึกว่าสิ่งหนึ่งที่ต้องทำ เราจะเอา 7-8 ปีที่ตั้งใจทำมา มาทิ้งกับเรื่องๆ เดียวไม่ได้ นี่คือสิ่งที่เราต้องสู้และก้าวต่อไป ต้องไม่ยอมแพ้ ผมถึงได้บอกว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่คนอื่นหรือคอมเมนต์ใดๆ แต่คือตัวเองนี่แหละ”

อาทิตย์ใส

✦ ช่วงนั้นเลยเป็นจังหวะที่ทำให้หายไปจากโซเชี่ยลด้วยหรือเปล่า?

ตงตง – “ใช่ครับ ทำให้หายไปช่วงหนึ่ง เป็นช่วงที่เราได้อยู่กับตัวเองจริงๆ รอให้อารมณ์ที่เกิดขึ้นหรืออะไรต่างๆ ดาวน์ลง จนในหัวหรือในใจเรามันโปร่งที่สุดก่อน ในวันที่เรารู้สึกว่าพร้อม ไม่ได้คิดอะไรแล้ว แล้วเราค่อยออกมาใช้ชีวิต ตอนนี้สภาพจิตใจทุกอย่างคือโอเคแล้ว”

✦ เรื่องที่เกิดขึ้น คนที่เข้าใจก็มี คนที่ไม่เข้าใจและผิดหวังในตัวเราก็มาก อยากบอกอะไรไหม?

ตงตง – “จริงๆ มีหลายมุมมาก ผมทำความเข้าใจว่าผมจะดีในทุกๆ สายตาก็ไม่ได้ เช่นเดียวกันผมจะไม่ดีในทุกๆ สายตาก็ไม่ได้ ทุกคนมีสิทธิ์จะเข้าใจในแบบของเขา สิ่งที่ทำได้คือถ้าเราดีในสายตาใครเราก็ขอบคุณ หรือถ้าใครมองเราไม่ดีเราก็ไม่สามารถไปขอร้องอ้อนวอนให้สายตาเขาจากไม่ดีเป็นดีได้ เราต้องเข้าใจเขาด้วย สุดท้ายถ้าผมทำให้ใครไม่สบายใจ ผมยอมรับผิดเอง และผมก็ต้องขอโทษแล้วกัน”

อาทิตย์ใส

✦ ผ่านมรสุมมาแล้ว นับจากนี้เปิดให้กับเรื่องหัวใจหรือยัง?

ตงตง – “เปิดตลอด ไม่ปิดเลย สำหรับผมความรักไม่ต้องไปไขว่คว้าหรือตามหา คนที่ใช่จะมาในเวลาที่ใช่จริงๆ เขาจะมาโดยที่เราอยู่เฉยๆ นี่แหละ ผมขอแค่คนที่เข้าใจและซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน มีความเป็นผู้ใหญ่ คุยอะไรแล้วเข้าใจกันง่ายๆ ผมจะคิดแบบนี้เสมอว่าผมมีความฝันของผม คนที่จะเข้ามา เชื่อว่าเขาก็มีความฝันของเขา ผมอยากให้ความฝันทั้งสองอันนี้มาบรรจบกันและทำมันด้วยกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ ในระหว่างทางอาจมีอุปสรรคบ้าง อยากให้คนคนนั้นจับมือไปกับผม ผมมีความมั่นใจว่าถ้าผมเจอผมอยากพาเขาไปถึงปลายทางให้ได้ ขอแค่เชื่อมั่น อดทน และสู้ไปด้วยกัน”

✦ พูดเหมือนไม่โสดแล้วเลย?

ตงตง – “ยังโสดอยู่ครับ (ยิ้ม) ที่พูดไปก็คือรอคนคนนั้นอยู่”

อาทิตย์ใส

Processed with VSCO with al3 preset

✦ รักครั้งใหม่จะทำให้ตัดสินใจยากขึ้นไหม ด้วยเราอาจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จกับความรักที่ผ่านมา?

ตงตง – “ผมว่าไม่นะครับ ไม่ได้ตัดสินใจยากเลย สุดท้ายความรักก็คือความรัก ความรักก็คือใช้หัวใจในการตัดสินใจ บางครั้งอาจจะต้องมีที่ใช้สมอง ใช้ความคิดบ้าง แต่ในเมื่อผมเจอคนที่ใช่ ผมก็ไม่ปิดกั้นใดๆ ผมเชื่อใจหัวใจตัวเองและจะลุยอย่างเต็มที่”

✦ แอบกลัวสาวๆ ที่จะเข้ามาลังเลไหม เพราะอาจติดภาพเรากับข่าวต่างๆ?

ตงตง – “ไม่ว่าใครจะไปสัมผัสหรือไปฟังข่าวมายังไง สุดท้ายผมอยากให้เข้ามาสัมผัสเอง ซึ่งจะกล้าหรือไม่กล้านั่นคือสิ่งที่เขาต้องตัดสินใจ ผมเชื่อว่าผู้หญิงและผู้ชายทุกคนมีสิทธิ์เลือก เขาต้องหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ขนาดเรายังอยากได้สิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองเลย เพราะฉะนั้นผมว่าใครจะเข้าใจยังไงนั่นคือสิทธิ์ของเขา ถ้าเขากล้าจะมาสัมผัสเรา เราก็เต็มที่เหมือนกัน”

อาทิตย์ใส

✦ มีความคิดในหัวเรื่องแต่งงานบ้างไหม?

ตงตง – “มีคำนวณมีวางไว้ สุดท้ายผมก็อยากมีชีวิตที่ดี มีครอบครัวที่ดี มีลูกมีทุกอย่างอยู่พร้อมหน้า แต่ยังไม่ได้กำหนดอายุเท่าไหร่ แค่มีคิดไว้คร่าวๆ ณ วันหนึ่งถ้าเราพร้อมทุกอย่างและสามารถดูแลเขาได้โดยไม่ต้องคำนวณอะไรแล้ว ซึ่งวางแผนไว้แล้วว่าจะต้องไม่เดือดร้อน และคนที่มาอยู่กับเราก็ไม่เดือดร้อน ผมอยากพาเขาไปใช้ชีวิตในแบบที่อยากได้ ลูกอยากเรียนอันนี้ต้องได้เรียน ทั้งหมดนี้วางและมองเอาไว้แล้ว”

✦ มุมมองความรักในวันนี้เปลี่ยนไปจากเดิมไหม?

ตงตง – “มีเปลี่ยนบ้าง เราอยากเจอคนที่คุยแล้วเข้าใจซึ่งกันและกัน เข้าใจในงานของผม อยากให้ทำทุกอย่างด้วยหัวใจ ให้โดยที่เราไม่ได้หวังอะไรตอบแทน ความรักมันควรจะเป็นเช่นนั้น”

อาทิตย์ใส

✦ ถ้าให้มองตัวเอง ตงตงในเวอร์ชั่นวันนี้ ต่างจากตงตงในวันที่แล้วมายังไงบ้าง?

ตงตง – “จริงๆ ก็ไม่ต่าง ยังไงตงตงก็คือตงตง แต่ทุกอย่างที่ผ่านมาไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีมันทำให้เราได้เรียนรู้และเก็บเอาไว้เป็นประสบการณ์ มันทำให้เราโตขึ้น แล้วทำให้เราได้ศึกษาว่ามีแบบนี้อย่างนี้ด้วยนะ ซึ่งเราก็จะระมัดระวังในการใช้ชีวิตต่อๆ ไป รวมถึงได้คิดก่อนที่จะทำอะไรสักอย่างหนึ่ง”

จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน