นักแสดงหนุ่มจากภาพยนตร์เรื่อง “หลานม่า” บิวกิ้น พุฒิพงศ์ ไม่คาดหวังเรื่องตัวเลข แต่คาดหวังคนที่มาดูได้เห็นแง่มุมอะไรเกี่ยวกับครอบครัว แล้วกลับไปดูคนใกล้ตัวดีขึ้น

ล่าสุดวันที่ 1 เม.ย. ‘บิวกิ้น’ พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล ได้มาร่วมงานกาล่าภาพยนตร์ “หลานม่า” ณ ลาน Infinicity Hall พารากอนซีนีเพล็กซ์ ชั้น 5 สยามพารากอน พร้อมเผยหลังถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้จบ ได้กลับไปทบทวนกับตัวเองหลายอย่าง ในเรื่องของครอบครัว

อย่างหนังจะลองชาเลนจ์ตัวเองไหม เผื่อได้สัก 500 ล้าน?จริงๆ เรื่องตัวเลขอ่ะ ผมไม่ได้คิดเลยนะ เพราะมันไม่เกี่ยวกับผมเลย แต่ผมว่ามันเป็นตัวแทนของความรู้สึกว่าคนรักหนังเรื่องนี้ แล้วก็ให้คุณค่ากับหนังเรื่องนี้มากกว่า หมายถึงว่า พอเราทํางานเรื่องนี้จบแล้วจริงๆ สิ่งที่เรารู้สึก แล้วเราสัมผัสได้จริงๆ คือเป็นภาพยนตร์ที่ให้คุณค่ากับตัวเรา หมายถึงว่าตัวเราเองได้ลงไปทํางาน ตัวเราเองได้ดูมันแล้วด้วย ได้อยู่กับประเด็นนี้ อยู่กับหนังเรื่องนี้”

“เราภูมิใจที่เราได้เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ “หลานม่า” มันเลยทําให้เรารู้สึกว่าอยากให้คนได้มาดูหนังเรื่องนี้ เพราะว่าเขาอาจจะได้กลับไปทบทวน หรือกลับไปคิด ได้เห็นแง่มุมอะไรที่เราอาจจะเคยละเลยไป หรือว่าอาจจะเห็นอยู่แล้ว แต่อาจจะไม่ได้ใส่ใจมันมากพอ แล้วเราอาจจะมาเสียดายทีหลัง เสียดายโอกาสอะไรบางอย่างที่มันผ่านไป แล้วเราไม่สามารถกลับมาแก้ไขอะไรได้”

“เพราะว่าจริงๆ ผมรู้สึกว่าหลังจากที่ผมจบงานเรื่องนี้ ผมก็กลับไปทบทวนกับตัวเองหลายอย่าง ในเรื่องของครอบครัว ในเรื่องของการให้ความสําคัญ ในเรื่องของมุมมองของคนในครอบครัว มันทําให้เราเข้าใจ แต่ละบทบาทของสมาชิกครอบครัวมากขึ้น แล้วก็ทําให้เราเห็นอกเห็นใจกันมากขึ้น ผมว่ามันคงจะสวยงาม หมายถึงว่าทุกๆ คนที่มาดู แล้วก็เหมือนกับว่าได้อะไรกลับไปแบบนี้ แล้วก็ทําให้เหมือนกับว่าเรากลับไปดูแลคนใกล้ตัวเราอย่างดีขึ้น

อย่างการที่ลดน้ำหนักในภาพยนตร์เรื่องนี้ หลายๆ คนก็ห่วงเรื่องสุขภาพ? “จริงๆ ก็ดีนะ เป็นช่วงที่ผมได้ลดน้ำหนักเลยนะ จริงๆ ช่วงก่อนถ่ายผมก็ค่อนข้างได้ที่อยู่เหมือนกัน ผมว่าถ้าเรารู้ตัวเร็ว หมายถึงว่าเรามีเวลาเตรียมตัว มีเวลาจัดการวางแผน ผมว่ามันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอก เพราะว่าเรามีนักโภชนาการคอยปรึกษา มีพี่ๆ รอบๆ ด้วย พี่ๆ ที่บริษัทพี่ๆ ของกองภาพยนตร์ เขาก็คอยดูเรื่องความปลอดภัยของเรา สบายใจ ตอนนี้แข็งแรงครับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน