ดร.ธัญญา โพธิ์วิจิตร หรือ เป็ด เชิญยิ้ม ผู้ก่อตั้ง คณะตลกชื่อดัง เชิญยิ้ม ได้ให้สัมภาษณ์กับ ข่าวสด หลังจากที่ จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม หรือ นายนรเศรษฐ์ ทรงกลด หลังไปออกรายการโหนกระแส ยืนยันไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย กรณี “แม่ปูนา” ขึ้นป้ายทวงหนี้ จนดราม่าถล่มสนั่น
โดย เป็ด เชิญยิ้ม เผยว่า “เห็นข่าวแล้ว ได้ยิน ได้ฟังแล้ว ไม่ต้องถามเลยว่าเป็นยังไงบ้าง มันตอบโจทย์เขาหมดแล้ว เขาก็ไลน์มาขอโทษนะ เราก็บอกว่ามาขอโทษเรามันไม่มีประโยชน์ อย่างอื่นคุณต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ แก้ไขแก้ปัญหา คุณต้องคิดก่อน คุณต้องเป็นคนดีก่อน เพราะคนดีชอบแก้ไข ไม่อยากให้เป็นคนจัญไร อันนั้นมันชอบแก้ตัว ไม่ชอบประโยคนี้ เห็นแล้วก็เวทนาว่าทำไมตัวเองไม่แก้ ต้องให้คนอื่นไปแก้แทนคุณหมดเลย ดูแล้วก็รับไม่ได้
ถามว่าโกรธไหม เราเป็นผู้ใหญ่ สังคมก็ลงโทษเขาหมดแล้วหล่ะ แต่เราจะทับอีกอะไรอีกไม่ได้ ก็นั่งดูเขานะว่าจะเบาบางลงยังไงได้บ้าง มันอยู่ที่การกระทำของเขา ถ้าเขารู้สึกตัวว่าเขาผิดเขาชั่ว เขาหาทางแก้ไขแก้ปัญหาของเขาเอง โดยที่ไม่ใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือของเขา ผมว่าน่าจะใช้เวลาเยียวยา และสังคมอาจจะลดโทษให้เขาบ้าง
แต่วันนี้เขายิ่งตะแบงยิ่งขึ้นไป ยังมีอีกเยอะแยะไม่ใช่แค่วงการตลก ไม่ว่าวงการไหนระบาดไปหมด มันเหมือนเป็นโควิดที่ร้ายแรงมากเลยตัวไอ้บุ๋มเนี่ย เราก็ไม่อยากจะซ้ำอะไรเขามาก แต่ถ้าถามว่าวันนี้บุ๋มคิดอะไร อยากให้คิดนิดนึง ถ้าไม่คิดถึงคนอื่น คิดถึงแต่ตัวเอง ก็ฝากคิดถึงนามสกุลนิดนึง เชิญยิ้ม ที่คุณเอาไปใช้ทั้งชีวิต ผมไม่อยากให้มาบอบช้ำ เชิญยิ้มบอบช้ำมาเหลือเกินแล้ว เพราะหลายคนเอาไปทำแล้วมันเกี่ยวกับเชิญยิ้ม เราเป็นผู้ใหญ่ก็ไม่ได้อยากออกมาว่าอะไร แต่อยากให้สำนึกเสียว่าตรงนี้คุณอย่าทำลายเลย
ถามว่าเอ็นดูไหม สงสารไหม บุ๋มเป็นคนที่เราสงสารมัน เราเอ็นดูมัน แต่ก่อนเป็นเด็กที่น่ารักมากนะ แต่สันดานมันมาเปลี่ยนตอนไหนเราไม่รู้ไง แล้วมานั่งดูเมื่อวานมันตอบโจทย์คือรับไม่ได้ มันทนไม่ไหวเลย มันไปอยู่บนฐานความรับผิดชอบของคนอื่นเนี่ยมันแย่ๆ มาก วันนี้เขาก็ไลน์มาขอโทษๆๆ เราก็บอกว่าต้องหาทางแก้ไขนะ อย่าหาทางแก้ตัว เพื่อสังคมเขาจะลดโทษลงบ้าง เพื่อเขาสงสารขึ้นมา
แฟนคลับหลายคนก็ไม่อยากให้ใช้นามสกุล เชิญยิ้ม ? “นั่นแหละครับ ก็คิดอย่างนั้น แต่เราจะไปขับเขาก็ไม่ ให้เขาขับตัวเขาเองดีกว่า เขาน่าจะรู้ว่าเขาควรจะรักษาคำว่าเชิญยิ้มไว้หรือเปล่า เราเป็นผู้ใหญ่เราก็ไม่อยาก ยกตัวอย่างลูกๆ เรา เขาใช้นามสกุลเรา ก็ให้เขาตัดสินใจว่าเขาควรจะออกหรือไม่ออกอยู่ที่ตัวเขา อยู่ที่สามัญสำนึกของเขา
แต่วันนี้คือสังคมลงโทษเขาเยอะแล้ว เราไม่อยากลงโทษเขา แต่เราพูดเพียงอย่างเดียวว่า เชิญยิ้ม บอบช้ำมากแล้วนะ พวกเราผู้ใหญ่ที่เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมา เราก่อตั้งขึ้นมาด้วยความยากลำบาก หมายถึงสร้างชื่อเสียงขึ้นมาอย่างยากลำบากมาก แล้วพวกคุณมาเสวยสุข พอเสวยสุขกันแล้วเราก็ยินดีที่เห็นคุณเสวยสุขในนามของ เชิญยิ้ม แต่วันนี้เราไม่อยากเห็นคุณทำลายๆ
คำว่าเชิญยิ้มเราก็เจ็บปวดมากแล้ว ในฐานะเราเป็นผู้ตั้ง เราเป็นผู้สร้าง เราเป็นผู้ก่อ ผมเชื่อว่าผมกับโน้ต (โน้ต เชิญยิ้ม) ความรู้สึกก็คงไม่ต่างกัน แต่ว่าเราไปซ้ำไม่ได้ แต่ถ้าผมเกเรผมออกจากบ้านไปเองดีกว่า ให้เขาคิดตรงนั้นของเขาเองดีกว่า แต่เราเป็นผู้ใหญ่ แล้วให้เราไปบอกว่าเห้ยมึงต้องออกอย่างนี้ อยู่ที่มึงนะ แต่ถ้าถามใจกูเป็นยังไงก็รู้อยู่แล้วว่า เชิญยิ้ม บอบช้ำ แล้วเราเป็นผู้สร้างขึ้นมา เขาไม่ควรมาทำลาย กลับตัวกลับใจเถอะ กลับมาแก้ปัญหา อย่าแก้ตัว แล้วอย่าเอาคนอื่นไปแก้กับคุณ คุณต้องแก้ของคุณเอง พิสูจน์ตัวเองให้ได้ แล้วกลับมายังไงค่อยว่ากัน
ก่อนหน้านี้ จั๊กกะบุ๋ม เคยมาขอความช่วยเหลือบ้างไหม ? เราก็รู้เรื่องมาแต่ต้น แต่ก็ไม่รู้จะแก้ยังไง มันไปเปรอะหมด ก็อย่างที่มันพูดคนใกล้ตัวคนในวงการมันหมดแล้วทุกคน คนที่ดีกับมันๆก็ทำร้ายเขาหมดทุกคน ไม่เข้าใจเหมือนกัน ไม่อยากจะเชื่อนะ จริงๆ ไม่อยากจะพูดอะไรมาก ไม่อยากจะเชื่อว่า ดอกเบี้ยวันละ 4 หมื่น ถามผมๆ ไม่เชื่อนะ เดือนนึง 1.2 ล้านนะ แล้วเงินต้นเท่าไหร่ เราไม่อยากซ้ำเติมลูกหลานนะ สังคมเขาวิเคราะห์ได้ แล้วพยายามแถเอาตัวรอด แล้วอยู่บนความทุกข์ของคนอื่นมันไม่ใช่ไง
ต่อจากนี้ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าจะทำอย่างไร ให้ทุกคนเห็นว่าได้ทำตรงนี้ๆ นะ วันนี้ตัวเขาเองต้องหาวิธีการตั้งสติ ค่อยๆ แก้ไปทีละเปาะทีละปม อย่าโยนให้คนอื่นแก้ ผูกเองทั้งหมด คนอื่นจะแก้ให้ยังไงในเมื่อเขาแก้ให้ก็ไปผูกปมใส่เขาอีก จนเขาหายใจไม่ออก จนเขาจะตาย นี่มันไม่ใช่นิสัยของมนุษย์ไง เราไม่อยากซ้ำ สังคมลงโทษเยอะแล้ว สามัญสำนึกคุณเองก็ต้องมี ขอให้บุ๋มพิจารณาตัวเอง ขอให้คิดเองว่าคุณควรจะทำอย่างไร เรื่องหนี้ เรื่องชื่อเสียงของคุณ เชิญยิ้ม 44 ปีที่เราสร้างขึ้นมาด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตา รอยยิ้มทั้งหมด 44 ปีนะ”