จันจิ เคลียร์ดราม่า เปิดแฟลชอัดคลิปในคอนเสิร์ต บรูโน่ มาร์ส น้อมรับผิดคิดน้อยไป

จันจิ จันจิรา เคลียร์ดราม่า ปมเปิดแฟลชถ่ายคลิปในขณะดูคอนเสิร์ต บรูโน่ มาร์ส น้อมรับผิดถือเป็นบทเรียน จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก

เป็นประเด็นร้อนในโซเชียลเลยทีเดียว สำหรับประเด็นดราม่าในคอนเสิร์ตของนักร้องระดับโลก บรูโน่ มาร์ส BRUNO MARS LIVE IN BANGKOK เมื่อวันที่ 30-31 มีนาคม 2567 กับการเปิดแฟลชเพื่อถ่ายคอนเทรนต์ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มี จันจิ จันจิรา จันทร์พิทักษ์ชัย รวมอยู่ด้วย โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวก็ได้ทวีตข้อความขอโทษ พร้อมรับผิดในเรื่องดังกล่าว รวมถึงได้ไลฟ์ขอโทษทั้งน้ำตาแล้ว

ล่าสุดวันที่ 3 เม.ย.67 ที่งานแถลงข่าว โครงการรณรงค์ป้องกันไข้เลือดออก โดยซอฟเฟล ที่ Patta Cup Cafe เจ้าตัวก็ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้อีกครั้งว่า

ดราม่าที่เกิดขึ้นเป็นยังไงบ้าง? “ก็ค่อนข้างเป็นอะไรที่จันจิต้องยอมรับค่ะ เรียกว่าอาจจะไม่มีมารยาทในตอนนั้น แต่ว่ามีคนมาตักเตือน จริงๆเหตุเกิดจากคลิปต้นคลิปเหมือนมีคนเปิดแฟลชแล้วมีคนสะกิด อันนั้นไม่ใช่จันจินะคะ ถ้าสมมติรอบข้างมีคนมาสะกิด จันจิจะหยุดทันที จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้อย่างแน่นอน

แต่ว่าการกระทำของจันจิมันก็ไม่ถูกต้องจริงๆ ถือว่าเป็นบทเรียนให้แก่ทุกคนที่อาจเป็นแบบจันจิ เวลาไปคอนเสิร์ตเปิดแฟลช ก็ระวังในเรื่องนี้ด้วยค่ะ”

ไม่เคยรู้มาก่อนใช่ไหมว่าห้ามเปิดแฟลช? “จริงๆไปในคอนเสิร์ตก็จะมีการเปิดแฟลช แต่ว่าเราไม่คิดว่าจะไปกวนเขาด้วยแสตนดิ้งที่จันจินั่ง เหมือนหัวจันจิอยู่ที่หัวเข่าคนด้านบน จันจิเลยคิดว่าไม่โดนหรอกมั้ง จันจิไม่คิดว่ามันส่องกระจายไปขนาดนั้น”

บรรยากาศที่เราถ่ายไป คนรอบข้างมีสะกิดเตือนเราไหม? “จริงๆไม่มีใครเตือนเลยค่ะ หันไปพี่ๆก็ยิ้มแย้มให้ เลยไม่คิดว่าจะรบกวน”

จันจิก็ออกมาพูด ทั้งๆที่ในต้นคลิปดราม่ามันไม่ใช่เรา? “จริงๆถ้าพูดตรงๆ ถ้าไม่มีใครเตือน จันจิก็คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องขนาดนั้น พอมีคนคอมเมนต์จันจิก็รีบลบเลย ติดหน้าคนอื่นด้วยนะ แล้วก็ส่องคนอื่นด้วย มันเรื่องใหญ่มากๆมีคนเอาคลิปจันจิไปแชร์ เลยคิกว่าต้องทำอะไรสักอย่างเลยออกมาขอโทษทุกคนนะคะ”

รู้สึกยังไงบ้าง หลายคอมเมนต์เอาเราไปโยงทั้งๆที่ต้นคลิปไม่ใช่เรา?
“จริงๆต่อให้ไม่ใช่จันจิ ก็รู้สึกว่าสิ่งที่จันจิทำไม่ถูกต้อง ก็ถือว่าไม่เป็นไรค่ะ สุดท้ายจันจิก็เปิดแฟลชรบกวนเขาเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าจันจิไม่เปิดเลย แต่ว่าเพิ่งมีคนมาเตือน

จันจิมั่นใจว่าจันจิผิดแน่นอน สุดท้ายแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นจันจิก็รบกวนคนด้านหลัง ก็ต้องขอโทษจริงๆค่ะ ใครอยู่ด้านหลัง แล้วจันจิเปิดแฟลชไปรบกวนก็สามารถทักไปได้ สามารภพูดคุยกันได้ จันจิยินดีรับผิดชอบในส่วนคนที่อยู่ด้านหลังจันจิค่ะ”

หลังจากที่เป็นดราม่าไป มีคนคอมเมนต์มาว่ายังไงบ้าง?
“จันจิว่าเขาตักเตือน ส่วนใหญ่ตักเตือน แล้วเรามีการขอโทษบางคนเข้าใจ จินจิว่าทุกคนให้อภัยจันจิเยอะมาก

ต้องขอบคุณทุกคนที่เข้าใจ ต้องพูดว่าจันจิไม่ฉลาด ไม่ไตรตรองว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ ก็มีคนเข้าใจเยอะมาก ส่วนคนที่ไม่เข้าใจจันจิก็ไม่เป็นไรเลยมันเป็นความผิดส่วนบุคคล ให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็น จะได้ชูขึ้นมาว่าเรื่องการเปิดแฟลชในคอนเสิร์ตมันรบกวนคนอื่นเขา”

เจอคอมเมนต์ด่าเราแรงๆไหม? “จันจิว่าไม่ค่อยรู้สึกว่ามันต้องใจเจ็บขนาดนั้น แต่บางคนก็เรียกจันจิว่าอีนั่น อีนี่ แต่จันจิรู้สึกว่ามันเกินเรื่องเหมือนกัน การที่คนมาว่าไม่มีมารยาทก็ยอมรับในส่วนนั้น”

แสดงว่าเราก็ยอมรับได้ว่าเขาตักเตือน? “ใช่ จันจิก็รู้สึกว่ามีคนตักเตือน มีคนให้กำลังใจในคลิปจันจิร้องไห้ รู้สึกว่าอยู่ดีๆมีคนให้กำลังใจจันจิเยอะมาก ทั้งๆที่จันจิทำผิดขนาดนี้ เลยรู้สึกแย่กับตัวเองมากๆว่าทำไมเราต้องได้รับโอกาสให้อภัยเยอะขนาดนี้ ก็ถือว่าขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้ แล้วก็ขอโทษอีกครั้งนะคะ จันจิก็เป็นบุคคลตัวอย่าง เป็นอินฟลูเอนเซอร์คนนึงแล้วกัน ที่ปฏิบัติตัวไม่ถูกต้องในการไปดูคอนเสิร์ตค่ะ”

หลังจากนี้ล่ะ คอนเสิร์ตต่อไป? “คอนเสิร์ตต่อไปไม่เปิดแล้วค่ะ ถ่ายแบบหน้าม่วงหน้าเขียวจะลงเลยค่ะ จริงๆมีเยอะเหมือนกันค่ะ เราเลือกจนมันเป็นเรื่องใหญ่ ครั้งหน้าก็ดำๆไปค่ะ”

เมื่อวานทำไมไลฟ์มีน้ำตา? “อย่างที่บอกว่ามีคนให้กำลังใจเยอะมาก มีคนดูประมาณ 7 พันแล้วแบบ ไม่เป็นไรๆๆๆๆ แล้วมันไม่ใช่เรื่องไม่เป็นไรสำหรับเรา มันเลยรู้สึกว่าเสียใจกว่าเดิมว่ามีคนเข้าใจ เสียใจว่ามีคนผิดหวังในตัวเราหรือเปล่า

เราก็ไม่อยากให้ทุกคนผิดหวังในตัวเรา เพราะเราก็เจออะไรมาเยอะ พอเราทำอะไรผิดก็รู้สึกผิด รู้สึกขอบคุณ รู้สึกเยอะมากตอนนั้น มันเลยร้องไห้ออกมา ไม่ได้ตั้งใจจะบีบน้ำตาเหมือนที่ทุกคนว่า มันไม่จำเป็นเลยมันน่าเกียจด้วย”

แสดงว่าดีใจที่ทุกคนให้กำลังใจแล้วก็ซัพพอร์ตเรา? “จันจิไม่ได้ดีใจ รู้สึกผิดยิ่งกว่าเดิมมากกว่า ยิ่งมีคนให้กำลังใจยิ่งรู้สึก เห้ย! เราทำผิดทำไมถึงได้รับการอภัย ณ ตอนนั้นนะ เราจะไม่ทำเหตุการณ์แบบนี้อีก จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก”

แสดงว่าย้อนกลับไปการที่เราออกมารับผิดชอบตรงนี้ คือโอเค?
“โอเค ยอมรับถือว่าเป็นบทเรียนให้ตัวเองแล้วก็ผู้อื่นด้วย ใครที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์หรือดารา จะได้ป้องกันไว้ก่อน จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก เพราะว่าเราก็เป็นบุคคลตัวอย่างให้แก่สังคม เอาจันจิเป็นตัวอย่างแล้วกันนะคะ ส่วนใครที่อยู่ต้นคลิปจันจิช่างเขาเถอะ ไม่เป็นไร ก็น้อมรับไว้ค่ะ”

ต่อไปก็สร้างบรรทัดฐานไว้ว่าการดูคอนเสิร์ตควรปฏิบัติและมีมารยาทอย่างไร?
“มีมารยาทในเรื่องของการถ่ายคลิปเนอะ ไม่ใช่ถ่ายคลิปหน้าเราดังแต่ติดคนอื่นก็ต้องเบลอให้เขา ต้องระวังนิดนึง ถือว่าเป็นบทเรียนให้กับสังคมค่ะ”

หลังจากที่ออกมาพูดสบายใจขึ้นไหม?
“สบายใจค่ะ ที่รีบออกมาแก้ไข บางคนก็บอกว่าถ้าไม่มีคนเตือนก็ไม่รู้ตัวหรอก พูดตรงๆนะคะ นั่งกับคนข้างๆไม่มีใครรู้หรอกค่ะว่ามันจะรบกวนคนขนาดนี้ คือถ้าจันจิรู้จันจิคงไม่ทำ บางทีเราก็ไม่ได้ฉลาดทุกเรื่องเนอะ ก็ต้องเรียนรู้กันไปค่ะ ขอบคุณคนที่เข้าใจ”