กลับมารับงานละครเต็มตัวในรอบ 9 ปี หลังไปทุ่มเทกับงานสิ่งแวดล้อม สำหรับนางเอกสาว ‘เชอรี่’ เข็มอัปสร สิริสุขะ ที่พลิกบทบาทสุดท้าทายกับบท ‘หมอพระพายพัด’ คุณแม่ลูกหนึ่ง ในละคร “ลมเล่นไฟ” ทางช่อง 3 ของผู้จัด ‘นก’ จริยา แอนโฟเน

โดยสาวเชอรี่เปิดใจถึงการหวนคืนในอาชีพที่รัก พร้อมเผยถึงงานด้านสิ่งแวดล้อมและงานแสดงที่ต่างส่งเสริมซึ่งกันและกัน

อาทิตย์ใส - ‘เชอรี่’ไม่เสียดายเวลาที่หายไป ไฟลุกโชน-พร้อมเปิดรับสิงใหม่

เริ่มกลับมารันวงการแล้วใช่ไหม?

เชอรี่ – “รันวงการหรือเปล่าไม่รู้ แต่เรารู้สึกว่าเรามีความสุขในสิ่งที่เราได้ทำมากกว่า เหมือนมันมีช่วงหนึ่งที่เราไปตื่นเต้นกับงานอย่างอื่น แล้วเราไม่มีแรงใจที่จะแสดงละคร แต่พอวันนึงเริ่มคิดถึงการแสดงและได้แสดงเรื่องนี้ พอตัดสินใจว่าจะเล่น มันมีความสุขตั้งแต่วันนั้นเลย รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เล่นละคร แล้วรู้สึกว่าทุกอย่างมันคือชีวิตที่เราต้องการ พอมันมีความสุขแล้วมันมีไฟ”

แสดงว่าก่อนหน้านั้นคือหมดไฟ?

เชอรี่ – “ตอนนั้นไม่ได้เรียกว่า หมดไฟนะ คือไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ พอจบจาก ‘เลือดมังกร’ มันมีปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม เราสนใจอยากทำ พออยากทำก็ไปลงพื้นที่เรียนดูด้วยตัวเอง แล้วพอเป็นเรื่องใหม่วงการใหม่ ทุกอย่างต้องเรียนรู้ไปหมด ทุกอย่างสนุก ความสนใจมันอยู่ตรงนั้น แล้วตอนนั้นมีบทผ่านเข้ามาตลอดนะแต่เหมือนไม่ดึงดูดความอยากจะเล่น คือใจมันไปที่อื่นแล้ว ก็เลยทำให้ตรงนี้แผ่วๆ ทำให้รู้สึกว่า เอ๊ะ…รึเราจะหมดแพชชั่นในงานนี้ เพราะทำมาตั้งแต่เด็ก เหมือนไม่มีอะไรแปลกใหม่ให้เล่น และด้วยความที่ ตัวเองมีลิมิตในการรับงาน บทที่เข้ามาเลยอาจจะไม่มีความหลากหลาย ทำให้ไม่ตื่นเต้นกับละคร ไม่รู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นแค่รู้ว่าความสนใจมันไปอยู่ที่อื่น และคงจะหมดการทำงานในทางนี้แล้ว”

อาทิตย์ใส - ‘เชอรี่’ไม่เสียดายเวลาที่หายไป ไฟลุกโชน-พร้อมเปิดรับสิงใหม่








Advertisement

ช่วงที่ไปสนใจสิ่งแวดล้อม คนก็มองว่าเราหันหลังไม่รับละครแล้ว?

เชอรี่ – “ไม่ได้คิดเลยว่าตอนไม่รับงานจะกินเวลามากี่ปี คือช่วงที่ไม่ได้ทำแล้ว คนอาจมองว่าเราจะหันหลังให้วงการบันเทิง ไม่คิดเลยจริงๆ แต่ใช้ใจนำทาง ว่า ณ วันนั้นใจมันอยู่ตรงไหนเราก็อยากอยู่ตรงนั้น และถ้าวันหนึ่งเราได้กลับมาแสดงเราก็คงได้แสดง แต่ถ้าไม่ได้ ก็ให้รู้ว่ามันก็คงจะแค่นี้”

คิดไหมว่าเราจะเริ่มเปิดใจให้ละครอีกตอนไหน?

เชอรี่ – “ไม่มีเลยนะ จริงๆ (หัวเราะ) ตอนแรกช่วงก่อนจะรับเลือดมังกร เราหายไปสองปีถึงจะรับเรื่องเลือดมังกร ตอนนั้นก็เลยคิดว่าก็อาจจะต้องใช้เวลาในการรับเล่นแต่ละเรื่อง ปี สองปี สามปี แต่ปีที่สี่ยังไงไม่มีซักทีที่เรารู้สึก พอปีที่ห้าที่หก เราก็เลยอ๋อ เขาคงไม่มาแล้ว เลือดมังกรคงจะเป็นเรื่องสุดท้าย แล้วก็ไม่คิดเลยว่าจะกลับมาเล่นจนพี่นก (จริยา) ส่งเรื่อง ลมเล่นไฟ มาให้อ่าน ตอนนั้นที่คุยกับพี่นกยังรู้สึกเหมือนเดิมที่อาจจะคงไม่รู้สึก แต่พออ่านปุ๊บ อุ๊ยทำไมอยากรู้ต่อ พออยากรู้ต่อก็โทร.กลับไปหาพี่นกว่าขออ่านบทเพิ่ม อยากรู้เหตุผลของตัวละคร การเดินทางไปถึงจุดตรงนั้นมันมายังไง แล้วจะต้องไปยังไง ขอคุยกับคนเขียนบท แล้วพอรู้ เราก็บอกพี่นกว่า คิดว่าชอบ อยากจะเล่น”

อาทิตย์ใส - ‘เชอรี่’ไม่เสียดายเวลาที่หายไป ไฟลุกโชน-พร้อมเปิดรับสิงใหม่

เรื่องนี้อะไรที่ต้องออกจากเซฟโซนเรา?

เชอรี่ – “จะเป็นเรื่องของเลิฟซีนมากที่สุด แต่อาจจะไม่ได้มากถ้าเทียบกับมาตรฐานคนในปัจจุบัน แต่เรายังมีมาตรฐานของเราอยู่ว่าเราไม่สามารถจริงๆ ในการจะก้าวข้ามมาตรฐานของตัวเอง แต่เราก็ทำเยอะที่สุดในการที่เราทำงานมา”

หลังจากเรื่องนี้ จะกลับมาทำงานในวงการนี้ตลอดเลยไหม?

เชอรี่ – “คือเรื่องนี้มันทำให้เรารู้สึกชัดเจนกับตัวเองอีกครั้งว่าเรายังมีความสุขกับการเป็นนักแสดง และนี่คืออาชีพที่เรารัก รู้สึกว่ามันยังมีอะไรที่น่าสนุกและได้พัฒนาในทางอาชีพนี้อีกหลายอย่าง ซึ่งรอดูในอนาคตว่าเราจะก้าวข้ามมาตรฐานตัวเราไปได้ในระดับไหน แต่เชื่อว่าถ้าวันหนึ่งที่มีบทที่เข้ามาแล้วเราสนใจเหมือนที่เราสนใจในเรื่องนี้ ก็จะรับเล่นค่ะ”

อาทิตย์ใส - ‘เชอรี่’ไม่เสียดายเวลาที่หายไป ไฟลุกโชน-พร้อมเปิดรับสิงใหม่

พอได้กลับมารู้ตัวเราอีกครั้ง คิดไหมว่าหลายปีที่ผ่านมาเราหายไปไหน?

เชอรี่ – “คิดว่ามันเกี่ยวกับไทมิ่ง เชอรี่ว่าถ้ามันใช่ก็คือใช่ ไม่เคยเสียดายเวลาที่หายไป 9 ปีกับการไม่ได้เล่นละคร เพราะเราได้ไปทำในสิ่งที่เราไม่เคยรู้ว่าตัวเราสนใจด้านสิ่งแวดล้อม และพอได้ไปทำไปเรียนรู้มันสนุก ได้ทำอะไรที่มีคุณค่ามีประโยชน์กับตัวเราที่ความรู้เป็นศูนย์เรื่องสิ่งแวดล้อม แล้ว ณ วันนี้เราเหมือนได้รับการยอมรับในแง่ของวงการสิ่งแวดล้อมเหมือนกัน รู้สึกภูมิใจ”

“ไม่ว่าอะไรก็ตาม ถ้าเราสนใจและจริงจังกับมัน เราสามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหนก็ตาม เมื่อก่อนเราเป็นคนค่อนข้างมีเซฟโซนตัวเอง ว่าอะไรที่มันใหม่มันแปลกก็ไม่อยากจะไป จะอยู่ในโซนคุ้นเคย แล้วพอได้ออกไปเรียนรู้ ก็รู้สึกว่าอะไรใหม่ ไปอยู่ได้หมดเลย อยากจะลอง ถ้าจะมีประโยชน์ด้านใดด้านหนึ่งให้กับใครได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความบันเทิง หรือความคุ้มค่า ความหมายใดๆ เราก็รู้สึกว่าเราพร้อมที่จะเปิดตัวเองค่ะ”

9 ปีที่ผ่านมาเจอคำถามว่าทำไมไม่รับละคร เบื่อไหมกับคำถามนี้?

เชอรี่ – “ไม่เบื่อ เราเข้าใจ คนก็คงตั้งคำถามว่าเขาเป็นนักแสดงมานาน อยู่ๆ หายไป คนก็คิดว่าเขาไปแต่งงานหรือไปมีครอบครัวหรือเขาหายไปไหน แล้วอยู่ๆ กลับมา ซึ่งเราก็ไม่มีคำถามให้ตัวเองหรอก เพราะตอนแรกเราก็ไม่มีคำตอบให้ใครเหมือนกัน (หัวเราะ) ซึ่งวันนี้เราก็ได้รู้ไปพร้อมๆ กัน เราว่าจริงๆ แล้วเป็นเรื่องของเวลา”

“จุดหนึ่งที่ชอบคือเวลาที่ได้ไปเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม แล้วได้กลับมาทำการแสดง เราก็ได้เอาประสบการณ์ตรงนั้นมาใช้กับการแสดงด้วย และขณะที่ไปทำงานด้านสิ่งแวดล้อม เราก็ได้ใช้ประสบการณ์จากการที่เราต้องพูดหรือทำความเข้าใจกับคน ไปใช้ในการทำงานด้านสิ่งแวดล้อมเหมือนกัน มันเสริมซึ่งกันและกัน”

อาทิตย์ใส - ‘เชอรี่’ไม่เสียดายเวลาที่หายไป ไฟลุกโชน-พร้อมเปิดรับสิงใหม่

กลัวการกลับมาไหม?

เชอรี่ – “ไม่กลัวนะ เพราะก่อนจะตัดสินใจรับเรื่องนี้ คุยกับตัวเองหนักมาก ว่าถ้าเล่นเรื่องนี้จะเป็นยังไง ต้องรับกับเหตุการณ์ยังไงบ้าง โอเคกับมันไหม แล้ววันที่ตัดสินใจรับเรื่องนี้ ก็คือเราตัดสินใจที่จะมีความสุขกับการทำงานเรื่องนี้ นอกเหนือจากนี้ให้เป็นเรื่องของรางวัลหรือประสบการณ์ หรืออะไรที่จะเข้ามาทำให้ตัวเราเข้าใจกับชีวิต เข้าใจกับตัวเอง และมีความเข้มแข็งอะไรต่างๆ มันเป็นไปตามธรรมชาติของมันที่เกิดขึ้น ได้ทำสิ่งที่เราได้ทำมีความสุขและสนุกกับมันไป”

อาทิตย์ใส - ‘เชอรี่’ไม่เสียดายเวลาที่หายไป ไฟลุกโชน-พร้อมเปิดรับสิงใหม่

บางคนก็ยังมีความคาดหวัง?

เชอรี่ – “เอาจริงๆ นะ มันมีข้อดีว่าเราได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น คนยังอยากดูรอดูเราก็ชื่นใจเนอะ แต่มันก็มาพร้อมกับความคาดหวัง ซึ่งเราต้องบอกตัวเอง จุดตัดสินใจและความคาดหวังของเราเราต้องดูแลตัวเองยังไงให้ไม่ทุกข์ การใช้ชีวิตต่อจากนี้ เราอยากอยู่บนความสุขได้ด้วยตัวเองสิ่งภายนอกที่จะทำให้เราทุกข์หรือสุข เราไม่ได้ยึดติดว่าเราคือ เชอรี่ เข็มอัปสร เราไม่ใช้สิ่งนั้นเป็นตัวกดดันเรา เชอรี่ชอบเรียนรู้ อะไรที่ผิดพลาดเราก็เรียนรู้จากความผิดพลาด อะไรที่เราไม่รู้ก็ยอมรับ อะไรที่ทำไม่ได้ไม่เป็น เราก็พร้อมเรียนรู้ในขอบเขตที่เราสบายใจ เป็นคนค่อนข้างชัดเจนกับความสบายใจหรือไม่สบายใจของตัวเอง”

“เราเลือกที่จะไม่กดดันตัวเอง เลือกจะชัดเจนในจุดตรงนี้ว่าอันนี้ไม่ได้ก็คือไม่ได้ เราต้องถามคนที่เราทำงานด้วยว่าเขารับจุดนี้เราได้หรือเปล่า เชอรี่เป็นคนเต็มที่ในการทำงาน อยากให้งานดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก็ต้องคุยกับคนที่ร่วมงานด้วยว่าเขาโอเคกับสิ่งนี้ไหม ถ้าเขาโอเคเราก็สบายใจ จริงๆ มันจบตรงที่ทำงานแล้ว คือการทำงานมีความสุขแล้วมันได้มิตรภาพ ได้ประสบการณ์ ได้ความสดใหม่ในหัวใจเรา การที่เราได้ทำอันนี้เราแฮปปี้กับมันแล้ว”

อาทิตย์ใส - ‘เชอรี่’ไม่เสียดายเวลาที่หายไป ไฟลุกโชน-พร้อมเปิดรับสิงใหม่

จริงๆ กดดันไหม?

เชอรี่ – “ตอนแรกไม่กดดันเลย เหมือนจบหน้าที่เราแล้ว แต่สิ่งที่อยู่รายล้อม คนที่เข้ามา ความเห็นต่างๆ มันสร้างความกดดันให้เราพอสมควร ก็เหมือนจัดการกับความรู้สึกตัวเองว่าเราจะใช้ชีวิตแบบไหนที่ไม่ต้องกดดันไปกับสภาพแวดล้อมภายนอกที่มา ณ ปัจจุบัน มันไม่เหมือนตอนเด็กๆ ที่เราเล่นละคร เข้าใจว่าสมัยนี้คอมเมนต์มีความรวดเร็ว มีอิทธิพล ความคิดเห็นนึงอาจจะชักนำความคิดเห็นอื่นๆ ให้คล้อยตามได้เยอะ ซึ่งเชอรี่ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะชมเราอย่างเดียว อาจจะมีอะไรที่เราไม่อยากได้ยินได้ฟัง แต่เราก็ต้องรู้ว่าเราจะจัดการภายในจิตใจเรายังไง”

อาทิตย์ใส - ‘เชอรี่’ไม่เสียดายเวลาที่หายไป ไฟลุกโชน-พร้อมเปิดรับสิงใหม่

พอกลับมาทำงานในวงการ งานสิ่งแวดล้อมที่ทำอยู่จะทำยังไง?

เชอรี่ – “งานทั้งหมดทั้งมวล เรารู้สึกว่ามันส่งเสริมซึ่งกันและกัน แล้วมันก็ยังทำให้เราสนุกและตื่นเต้นในการทำงานค่ะ”

อชริญา บุญชู

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน