เป็นหนุ่มคลั่งรัก พระเอกตี๋ ‘เจมส์ มาร์’ โสดมา 12 ปี แต่พอคบแฟนสาว ‘พาย’ รินรดา แก้วบัวสาย ปุ๊บก็ดูหวานหยด จนสาวๆ ร้องขอ อยากมี เจมส์ มาร์ เพิ่ม
โดยเจ้าตัวมาเปิดใจพูดคุยหลังร่วมบวงสรวงหนัง “นาคบรรพ์”
ตั้งแต่เปิดตัวมีแฟน สาวๆ บอกอยากมีแบบเจมส์ มาร์ อีกซัก 10 คน?
เจมส์ – “ขอบคุณทุกคนที่รู้สึกอย่างนั้น จริงๆ เราก็เป็นตัวเรา เป็นสิ่งที่ทำโดยธรรมชาติ คนชอบบอกว่าผมเทกแคร์ดีอย่างนั้นอย่างนี้ นิสัยผมโดยพื้นฐานเป็นคนเทกแคร์ทุกคนดีอยู่แล้ว ยิ่งพอเป็นน้องพาย ด้วยหน้าที่และความรู้สึกต้องดูแลเทกแคร์มากกว่าอยู่แล้วโดยธรรมชาติ ก็เลยเป็นเหตุทำให้คนดูแล้วรู้สึกผมเป็นคนที่เทกแคร์จังเลย”
โสดมานานกี่ปีแล้ว?
เจมส์ – “มีความรักครั้งล่าสุดก่อนจะเข้าวงการ จากตอนนั้นถึงตอนนี้ก็ 12 ปี พอทำงานและมีกิจกรรมที่ชัดเจน ชอบตีกอล์ฟ เล่นเกม ให้เวลากับที่บ้าน เลยไม่มีเวลามานั่งคิดเรื่องนี้”
พอประกาศว่ามีแฟน แฟนคลับเหมือนจุดพลุ?
เจมส์ – “แฟนคลับทุกคนยินดีและก็บอกว่าถึงเวลาสักที ถ้าเป็นไทม์ไลน์ของคนปกติอาจจะเร็วกว่านี้หน่อย แต่สำหรับผมมาเริ่มตอนอายุ 29-30 ยอมรับว่าช้ากว่าคนอื่นไปเยอะ ไม่เป็นไรครับ ทุกคนมีเวลาของตัวเอง บางคนอาจจะเร็ว บางคนอาจจะช้าแต่ผมโอเคกับเวลาที่เดินทางมาถึงจุดนี้ ถ้าจะให้ดันทุรังหรือข้ามสเต็ปต่างๆ ที่ใจเรายังไม่ไป มันก็ไม่ได้”
เราจะเดินเครื่องเร็วเลยไหม จากแฟน เพิ่มไปเป็นคนในครอบครัว?
เจมส์ – “ผมไม่ซีเรียส ส่วนตัวไม่ได้มานั่งแพลนเรื่องนี้ เพราะมาถึงจุดนี้ได้ด้วยการที่เราไม่ได้แพลน เราไม่รีบ จะไปถึงจุดหมายต่อไป ถ้าไปได้ ถ้าอนาคตให้เป็นแบบนั้นเราก็ยินดี เพราะทุกวันที่ใช้เวลาด้วยกันหรือทำอะไรก็ตาม เรามีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้ แล้วถ้าวันหนึ่งต้องเปลี่ยนเป็นอีกสถานะ เราก็ยินดีให้มันมาตามธรรมชาติ”
จริงๆ คู่เรารู้จักกันมานาน มีผู้จัดการคนเดียวกัน ทำไมเพิ่งมาปิ๊งกันตอนนี้?
เจมส์ – “รู้จักกันมาตั้งแต่เล่นเรื่องแรก ชาติเสือพันธุ์มังกร แล้วมาอยู่ทีมผู้จัดการเดียวกัน ทำให้รู้จักในฐานะเพื่อนร่วมงานมาเป็นรุ่นน้อง พอมาถึงสถานะนี้เราก็ได้เรียนรู้เขามานานหลายปี และการที่ได้มาเล่นละคร ‘เพราะรัก’ ด้วยกัน ได้เจอกันบ่อยขึ้น ทำให้เรียนรู้ได้เจอกันอีกแบบหนึ่ง ฟีลดูแลเขา เจอกันในกองถ่ายคุยเล่น ทำให้รู้สึกอยากให้เป็นแบบนี้ไปนานๆ พอช่วงก่อนโปรโมตละครเป็นช่วงที่อยากจะเปลี่ยนสถานะ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมตัดสินใจเดินหน้า อยากทำให้เป็นจริงเป็นจัง”
จีบยากไหม?
เจมส์ – “ถ้ามองว่าการจีบคือการต้องไปรับไปส่ง ซื้อดอกไม้ให้ มันต้องมีคำว่าต้อง แต่สำหรับเราไม่มีคำว่า ต้อง เราทำโดยธรรมชาติเลยทำให้ไม่ต้องพยายามจีบ สิ่งที่ต้องพยายามคือพยายามชัดเจนกับตัวเอง พยายามถามตัวเองว่าใช่ไหม สุดท้ายได้คำตอบว่าใช่ แล้วไม่รู้ว่าจะขอหรือบอกเขายังไง เลยพูดตรงๆ ว่าอยากดูแล และก็บอกกับพ่อแม่เขาด้วย”
หลายคนชอบที่เราชัดเจนกับผู้หญิงและครอบครัวของผู้หญิง?
เจมส์ – “ควรจะเป็นอย่างนั้นครับ แล้วเราก็ต้องบอกพ่อแม่เราด้วย นาทีที่บอกแม่ว่าผมมีแฟน จำได้ว่าแม่ผมมีความฉลองนิดนึง เขาดีใจ ส่วนพ่อก็ยิ้มๆ แบบแน่ใจนะ ถ้าเรารู้สึกว่าเราเลือกแล้วเขาก็โอเค พ่อแม่ค่อนข้าง เปิดรับและไม่ได้บังคับ”
คู่เราไม่หวือหวา?
เจมส์ – “ไม่ครับ พอดีๆ ผมชอบบอกตัวเองว่าเราไม่ต้องหวานที่สุดก็ได้ แต่ขอให้มีความหวานทุกวันไปเรื่อยๆ ก็แฮปปี้แล้ว ระหว่างผมกับเขาไม่ต้องพยายามเติมความหวาน แค่ใช้ชีวิตด้วยกันแค่นี้ก็พอ แต่คนอื่นที่มองเข้ามาจะสัมผัสได้เองว่ามันหวาน แม้จะเป็นความสัมพันธ์ที่เรื่อยๆ แต่มีความชัดเจนครับ”
“ส่วนการปรับจูนไม่ได้ปรับกันเยอะ เพราะมันปรับเยอะจริงๆ ตอนถ่ายละครเรื่อง เพราะรัก ด้วยกัน หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไร ใช้ชีวิตเหมือนเดิม แค่อีกสถานะหนึ่งและมีเวลาให้กันและกันมากขึ้นครับ”
อนงค์ จันทร
