วันที่ 16 มี.ค ที่อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้นล่าง ถนนสีลม กรุงเทพมหานคร นักแสดงอารมณ์ดีวัย 50 ปี ผัดไท-ดีใจ ดีดีดี ให้สัมภาษณ์ในงาน “World Kideny Day 2018 : โรคไตกับผู้หญิง” ถึงเรื่องที่เป็นโรคภาวะไตเสื่อม
โดย ผัดไท บอกว่า “ที่เป็นโรคไตเสื่อมได้ เพราะตอนนั้นอายุ 30 กว่า ไม่ชอบดูแลตัวเอง แล้วตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็น ก็กิน เที่ยว และดื่มปกติ ซึ่งมันผิดรูปแบบการกินไปหมดเลย”

หลังจากที่ทราบว่าเป็นโรคนี้แล้วได้มีการดูแลและรักษาตัวเองอย่างไรบ้าง?
“จริงๆ เราก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเป็นโรคไตของตัวเอง เพราะยังไม่รู้จักมัน แต่มันมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ธาตุไตขึ้นมาประมาณ 2.6 ซึ่งมันขึ้นมาสูงมากสำหรับคนที่ค่อยๆ ไต่ขึ้นมา คุณหมอเลยบอกว่าถ้าเราไม่เอาลง ต้องเข้าสู่ระบบการฟอกไต เรารู้สึกว่าเหมือนมันใกล้ตัวขึ้น เลยไปเรียนรู้ว่าการฟอกไตเป็นอย่างไร และดูท่าทางแล้วมันไม่เข้ากับวิธีการทำงานของเรา ก็เลยไปเรียนรู้เรื่องวิธีการดูแลตัวเองเพื่อไม่ให้ไปถึงสเต็ปนั้น เพราะหมอบอกว่าถ้าทานแบบนี้ เราจะชลอได้ประมาณอีก 15 ปี ถ้าเทียบแล้วอีก 15 ปีก็อายุ 65 พอดี ซึ่งถ้าไปฟอกตอนอายุ 65 ปี มันก็นิ่งกว่านี้แล้ว”

“แต่ก็ไม่อยากฟอก ถ้าควบคุมได้ก็จะควบคุม แต่ทีนี้มันจะมีปัญหาตอนควบคุม เราคิดว่าเราควบคุมอาหารทั้งหมดแล้ว แต่บางทีเวลาที่มันขึ้นมาอีกเราก็อ่อนใจเหมือนกัน เพราะเราทานอาหารเป๊ะมาก ตามสเต็ปมาก แต่ปรากฏค่าไตดีดขึ้นมา นั่นคือมันเป็นผลมาจากที่ออกกำลังกายและเราไม่ทราบ เราเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายและออกเยอะ ไม่ค่อยได้พัก ซึ่งเล่นทั้งกีฬาทางน้ำและฟิตเนส เวลากลับบ้านถ้าไม่ได้ทำอะไรก็จะว่ายน้ำก่อนหรือฟิตเนสซักชั่วโมงนึง หรือถ้ายังไม่ง่วงอีกก็จะลุกขึ้นมาวิ่งและนั่นแหละเป็นสาหตุที่ทำให้ค่าไตขึ้นมาอีก เพราะว่าค่าซีเคมันขึ้น ซีเคคือกล้ามเนื้อสลาย ก็คือเวลาที่เราออกกำลังกายมันก็ขับถ่ายเป็นของเสียออกมาและพอกล้ามเนื้อเราสลายมันก็เลยออกมาเป็นค่าไตอีก เราเลยตกใจ รู้สึกว่าตกลงออกกำลังกายมากไปก็ไม่ดี เลยกลายเป็นว่าของกินต้องถูกจำกัดแล้ว ออกกำลังกายยังถูกจำกัดอีก”


“กลายเป็นว่าออกกำลังกายเต็มที่ไม่เกิน 20 นาที จากที่ว่างเมื่อไหร่ออกกำลังกายตลอดเวลาก็ต้องอด และมันทำให้ค่อยๆ ขยับมาดีขึ้น จากค่าไต 2 อัพ มันก็ลงมา 1.7 มันคุ้มค่า และพอเราเห็นตัวเลขว่าลงเราก็รู้สึกว่าวิธีนี้มันดี และมันก็มีบางช่วงที่เรางดโปรตีนไปเลย ตลอดเดือนนี้จะไม่แตะต้องเนื้อสัตว์หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เป็นหมวดหมู่โปรตีน ปรากฏก็ไม่ดีอีกเพราะคลอเรสเตอรอลมันขึ้นอีก เราเลยต้องเข้าไปเรียนรู้เขาเรื่อยๆ”

ด้วยความที่เรามีงานเยอะ ไม่มีเวลาไปหาหมอด้วยใช่ไหม?
“ไม่ใช่ เอาจริงๆ งานเยอะเป็นแค่ข้ออ้าง งานเยอะก็ไปหาได้ เพราะมันมีเวลา แต่ทำไมพองานเยอะมันทำให้เราไม่มีวินัยในการไปหาหมอ เพราะเราขี้เกียจ มันก็เป็นเหตุผลท้ายๆ แล้ว เหตุผลหลักจริงๆ เกิดจากความไม่รู้ว่าสำคัญและต้องทำตามสเต็ป ตอนที่หมอประกาศว่าผัดไทเป็นโรคไตร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว หมอเรียกนักโภชนากรมาคุยกับเราเลย ต้องจำกัดอาหารแล้ว โภชนากรก็แจงอาหารทั้งหมดที่เราต้องกิน ช่วงแรกๆ เราไม่ได้สติ๊กอาหารเลย เพราะด้วยความไม่รู้ จนเรื่องมันใกล้ตัว และเราเห็นค่าของมันว่าถ้าเราทำแบบนี้ผลมันก็จะดี คือเรียกได้ว่าเรียนรู้ไปทีละสเต็ป”

และวันนี้ได้มาให้ความรู้ จากที่เราประสบปัญหามาเป็นอย่างไรบ้าง?
“มางานเต็มใจอยากมาอยู่แล้ว เพราะคนที่ฟอกแล้วมันก็ไปสเต็ปนึงแล้ว แต่คนที่เพิ่งเป็นหรือเป็นระยะที่น้อยกว่าเรา และถ้าเขาได้ฟัง พี่คิดว่าเขาน่าจะเป็นเหมือนพี่ รู้แล้วแต่ยังไม่ลุกขึ้นมาดูแลตัวเอง เราก็เลยอยากบอกเขาว่ามันต้องสนใจจริงๆ และมันส่งผลกับเราจริงๆ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน