วันที่ 17 มี.ค. ที่ ศูนย์เลเซอร์ตา อาคารผู้ป่วยในพิเศษ 14 ชั้น โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาติไทย จัดงานประชุมวิชาการโรคกระจกตาโก่ง ซึ่งมี “แต้ว-ณัฐพร เตมีรักษ์” นางเอกชื่อดัง มาร่วมเสวนาพร้อมให้สัมภาษณ์หลังจบงาน เผยรูปผมสั้นแค่ใส่วิก ปลื้มคนชมเยอะ เข้าใจคนเปรียบเทียบละคร “บุพเพสันนิวาส” ดังกว่าละคร “นาคี” รับกดดันละคร “หนึ่งด้าวฟ้าเดียว” ลงจอต่อบุพเพฯ

โดย แต้ว เผยว่า “ที่ผมสั้นถือว่าเป็นฟีดแบคที่ดี แสดงว่าเนียน ไม่โป๊ะ เพื่อนหลายคนก็ไลน์มาถามว่าตัดผมหรือเปล่า ซึ่งจริงๆ ก็ใฝ่ฝันอยากตัดเหมือนกัน”

คนชมผมสั้นน่ารัก สนใจจะตัดสั้นเร็วๆนี้ไหม
“อยากนะ แต่ด้วยงานที่ถ่ายละครอยู่ เลยทำให้ตัดไม่ได้ ส่วนที่คนเห็นผมสั้นคือแต้วใส่วิก และอยากให้วันนั้นคนไปเน้นดูเสื้อผ้ามากกว่า ผมมีความแตกต่างนิดหน่อย เลยคิดว่าเป็นผมสั้นเรียบๆละกัน แต่คนชมเยอะก็ชอบนะ”

ตอนนี้โดนคนจับเปรียบเทียบเรื่องกระแสกับเบลล่าราณี ดูเขาบูมกว่าเรา
“มันก็เป็นเรื่องของจังหวะหลายอย่าง ซึ่งแต้วเข้าใจว่าก็เป็นประเด็นที่อดไม่ได้ที่ต้องถาม แต่ในส่วนตัวแต้วคิดว่ามันก็เป็นช่วงจังหวะที่เราควรแสดงความยินดีกับการประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นค่ายหรือนักแสดงทุกคน เพราะมันก็ทำให้เรา ผู้ผลิตหรือนักแสดงเอง เป็นตัวอย่างให้คิดว่าอะไรทำให้คนดูได้ขนาดนี้ เป็นตัวอย่างที่ดีที่เราควรมาศึกษากัน ว่าควรทำยังไงให้ประสบความสำเร็จยิ่งๆ ขึ้นไปในทุกๆ เรื่อง”

แบบนี้กดดันมั้ย เพราะบุพเพสันนิวาสจบ ก็เป็นเรื่องหนึ่งด้าวฟ้าเดียว ที่เราแสดงต่อเลย
“มันก็มีนิดนึง แต่มันนอกเหนือจากการควบคุมของเราไปแล้ว ทุกอย่างถ่ายเสร็จไปแล้ว เต็มความสามารถของเราขณะตอนนั้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนเขียนบท ผู้กำกับ นักแสดง อยากให้คนดูตัดสินเองว่าชอบหรือไม่ชอบยังไง เพราะไม่มีผิดถูก มีแค่ชอบมากหรือชอบน้อย”

 

แสดงว่ากดดันที่ละครต่อจากเขา
“ก็ไม่เชิง คือเรารู้อยู่แล้วมันไม่มีทางเท่ากันเป๊ะๆ น้อยไปก็เป็นอีกกระแส มากกว่าก็เป็นอีกกระแส ปล่อยให้อนาคตตัดสินเอง และเราก็เอาตรงนี้มาเป็นกำลังใจหรือบทเรียนอื่นๆ ต่อไป”

เป็นพีเรียดเหมือนกัน แต่กังวลว่าเรื่องเราจะซีเรียสเกินไปมั้ย
“ด้วยความตั้งใจของบทและการเล่าเรื่อง เราเล่าในประวัติศาสตร์ตอนปลายของอยุธยา มันก็มีตลกหลายอย่างเข้ามาเพื่อเบรกความตึงเครียดในการที่ใกล้จะเสียกรุง มันเป็นการเล่าคนละพีเรียด คนละรูปแบบ อาจจะหนีการเปรียบเทียบไม่ได้ แต่อยากให้เปิดใจดู เพราะถึงจะเป็นสมัยอยุธยาเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน”

แสดงว่าเราเตรียมใจรับการเปรียบเทียบต่างๆ นานา
“ทำงานตรงนี้ต้องเตรียมใจรับกระแสต่างๆ อยู่แล้วค่ะ”

ทำให้งานบอลที่ผ่านมา คนไปโฟกัสเบลล่ามากกว่า ต่างจากปีที่แล้วที่คนให้ความสนใจเรา
“แน่นอนอยู่แล้วค่ะ เพราะกระแสละครแรงมากจริงๆ เราดีใจไปกับทั้งเบลล่าและพี่โป๊บ ทั้งทีมงานทุกคน เพราะพอเบลล่าออกไปเสียงเชียร์ดังมาก เราในฐานะที่เป็นนักแสดงในช่อง เรารู้สึกดีใจที่คนดูเขากลับมาดูละครทีวี กลับมาให้ความสนใจและได้เรตติ้งถล่มถลายขนาดนี้ คือเจ๋ง”

 

จริงๆ เราเป็นแฟนคลับเขาไหม
“แฟนคลับ เราดูเรายังรู้สึกน่ารัก ไม่ว่าจะเปิดฟีดในอินสตาแกรม ถึงไม่ดูละครก็ต้องได้เห็นสักฉาก และกระแสคำว่าออเจ้าก็ทุกคนพูดถึง ดีใจด้วยมากจริงๆ ที่ทุกคนประสบความสำเร็จ”

แบบนี้เราต้องปรับกลยุทธ์ในการแสดงไหม
“ไม่นะ เราเป็นนักแสดงที่มีบทแบบไหนมา เขาไว้วางใจให้เราเป็นแบบไหน เราก็ต้องปรับไปเป็นแบบนั้นให้ได้ คงไม่บทมาแบบนี้แล้วเราเล่นแบบนี้เพื่อให้ได้รับการยอมรับแบบเขา มันมีทางในแต่ละจังหวะ ก็ค่อยๆ ดูไปในอนาคตว่าเราจะทำได้หรือไม่ได้”

หรือจะลองรับบทให้แตกต่างจากที่เคยเล่นมา
“มันเป็นที่โอกาส เราไม่สามารถเลือกได้ขนาดนั้น ถามว่าเราอยากฉีกแนวมั้ย คือก็อยากเล่นให้ได้ทุกแนว อยากได้ความแตกต่างเพราะมันก็เป็นความสุขในการทำงานด้วย ไม่ใช่เล่นอะไรแล้วเหมือนๆ เดิมตลอด ก็จะทำให้การทำงานในแต่ละวันตื่นไปมันไม่สนุก ไม่ท้าทาย”

อยากเปลี่ยนมาให้ร้ายสะพรึงเลยไหม
“ก็ได้นะ มันก็แล้วแต่บทด้วยว่าจะเล่ายังไง เราอยากดูที่เหมาะสมกับเรา และคิดว่าเราจะทำให้คนดูเชื่อได้ก็อยากนะ”

คิดว่าตัวเองร้ายขึ้นไหม
“แต้วคิดว่าก็ยาก ซึ่งในความยากก็ทำให้กดดันด้วย ท้าทายด้วย แต่มันขึ้นกับโอกาสหลายๆ อย่างว่าเราจะได้รับตรงนั้นไหม”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน