วันที่ 26 มี.ค. ที่ อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส อโศก นักแสดงสาว ‘ยิปซี’-คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์ ให้สัมภาษณ์หลังมาร่วมงาน บวงสรวงละคร 2 เรื่อง “เงา” และ “ทีมล่าทรชน” ถึงเรื่องที่โพสต์รูปบิกินี่สุดเซ็กซี่รัวๆในไอจี หลังไปเที่ยวทะเลบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ทำเอาหน้าร้อนปีนี้ระอุไปเลยทีเดียว โดยเจ้าตัวยอมรับว่าไปอัพไซส์เสริมอึ๋มมาเมื่อปีที่แล้ว คนเลยมองว่าดูมั่นอกมั่นใจมากขึ้นงานนี้ไม่รู้ว่าหนุ่มคนสนิท ‘ฌอห์ณ จินดาโชติ’ หวงมั้ย พร้อมอัพเดตความสัมพันธ์กับหนุ่มฌอห์ณ
หน้าร้อนปีนี้แซ่บมาก
“เป็นวาระโอกาสนะคะ ไปเที่ยวทะเลเหมือนเดิม ส่วนที่คนมองว่าแซ่บขึ้นกว่าเดิม อันนี้ไม่รู้จะตอบยังไงดี ก็ทำมาปีนึงแล้วนะ โตขึ้น มั่นใจขึ้น เมื่อก่อนอาจจะคิดเยอะกว่านี้ ด้วยอายุโตขึ้นทำอะไรก็แค่ใช้ชีวิตปกติเป็นตัวเองถ้าไม่เดือดร้อนใครก็ทำไปเหอะ ไปเที่ยวทะเลมีแต่คนต่างชาติ ทุกคนก็แต่งตัวแบบนั้น เราก็ทำแบบเขา”
ช่วงหลังไปออกกำลังกายก็เน้นความเซ็กซี่ขึ้นด้วย
“เมื่อก่อนเราก็ใส่แบบนี้ เพียงแต่รูปร่างเรามันเปลี่ยน เมื่อก่อนเราก็ไม่ได้หน้าอกขนาดนี้ พอทำมันเลยอาจจะดูเซ็กซี่ขึ้น เป็นธรรมชาติของผู้หญิงทุกคนนะถ้าไปทำมา ใส่ชุดเดิมมันก็อาจจะดูไม่เหมือนเดิม”
พอคนมองส่วนเว้าส่วนโค้งเรามากขึ้นความมั่นใจเรามากขึ้นหรือรู้สึกแปลกๆ
“เราอยู่กับตัวเองมากกว่า ไม่ได้ไปโฟกัสว่าคนอื่นจะคอมเมนต์อะไร เราทำหรือลงรูปที่เราชอบ แต่ต้องคิดเยอะขึ้น เมื่อก่อนเราไม่ต้องหามุมหลบหรืออะไรเท่านี้ คนถามว่าทำหน้าอกมาเลยมั่นใจรึเปล่า ไม่เกี่ยว มันต้องระวังมากขึ้นด้วยซ้ำว่าอันนี้มันโป๊ไป งั้นหันข้างนิดนึงมั้ย”
Advertisement
มีพวกเกรียนๆเข้ามาคอมเมนต์บ้างมั้ย
“มีค่ะ มีแบบอะไรที่เราเคยผ่านตากัน แต่เราก็ลบ ถ้าเราเห็นแล้วรู้สึกไม่อยากอ่าน มีไดเร็กต์เข้ามานะ แต่เราก็ไม่ได้สนใจ ไม่ได้ตอบ ก็ไม่ได้มีส่งรูปอวัยวะอะไรมานะคะ หรือเราอาจจะไม่เปิดเข้าไปดู แต่ไม่นอยด์ รับมือได้ค่ะ”
คนใกล้ตัวอย่าง ฌอห์ณ มีเบรกเราบ้างมั้ย
“ไม่มีคอมเมนต์อะไรนะ ก็กดไลค์ปกติ เขาไม่หวง ไม่ได้ช่วยสกรีนเลย ไม่มีเบรกด้วย ไม่มีมากกว่าเพื่อนคนอื่น ปกติค่ะ ไม่มีส่งมาบอกว่ารูปนี้โป๊ไป คือถ้ามันดูแย่จริงๆ เราเชื่อว่าเขาเตือนนะ ตั้งแต่ตอนเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว ถ้ามีอะไรก็ต้องเตือนกัน”
บอกว่าตั้งแต่ตอนเป็นเพื่อน แปลว่าตอนนี้เป็นแฟนแล้ว
“ยังไม่ได้เป็นแฟนค่ะ ก็คุยกันอยู่ คุยคนเดียว ไม่คุยหลายคน เขาดูแลเราเหมือนเพื่อนนะ เราดูแลกันเหมือนเพื่อนจริงๆ มันอาจจะเริ่มมาแบบเพื่อนมาก เลยไม่ค่อยได้เปลี่ยนเยอะ ถ้าอยู่ๆจะมาสวีตมุ้งมิ้งมันก็จะขัดๆเขินๆนิดนึง ที่เป็นอยู่มันก็เป็นธรรมชาติดี มันก็ดีแล้ว”
เป็นเพื่อนที่คุยกัน ถามไถ่ทุกวันมั้ย
“คุยกันค่ะ”
ยังติดอยู่ที่อะไรทำไมถึงยังไม่พัฒนา
“มันไม่ได้ติดที่อะไร เราไม่ได้วางเป้าไว้ว่าเราจะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ เราแค่ทำตอนนี้ให้มันโอเคอยู่เรื่อยๆ ไม่ได้ไปคิดอะไรว่าสักประมาณไหนต้องเป็นแฟนนะ ต้องปฏิบัติตัวแบบนี้แล้วถึงจะเป็นแฟนนะ ให้เป็นไปตามธรรมชาติ”
หรือรอให้เขาขอเป็นแฟน
“ไม่หรอก อันนั้นมันคือตอนเราเด็กๆ คนที่จะคบกันต้องมีการขอเป็นแฟนกันก่อนนะ ฉันถึงจะเป็นแฟนเธอ ตอนนี้ก็โตแล้วมันคงไม่มีขั้นตอนแบบนั้น มันก็เป็นการศึกษากัน เวลาเราคุยกับใคร ทั้งฌอห์ณ และยิปเราก็คุยทีละคนอยู่แล้ว ถือเป็นการให้เกียรติอีกคนนึง ถ้ามันไม่เวิร์คก็จบไปแล้วค่อยคุยกับคนอื่น”
เรียกว่าชัดเจนในแบบของเรา
“นี่ชัดที่สุดแล้วค่ะ”
