ค่ายแกรมมี่โกลด์ ปล่อยอัลบั้ม “ผู้หญิงหัวใจอีสาน” ออกมาเป็นโบนัสให้แฟนเพลงของสาวดอกหญ้า ‘ต่าย อรทัย’ หลังรอฟังเพลงใหม่มา 5 ปี ประเดิมเพลงแรก “ผู้หญิงหัวใจอีสาน” ซึ่งมีครูเพลงคู่บุญ ‘ครูสลา คุณวุฒิ’ ดูแลทุกขั้นตอนการผลิต
สเปเชี่ยลเข้าไปอีกในมิวสิควิดีโอ ได้ ‘ดู๋’ สัญญา คุณากร คนหัวใจอีสานเมืองอุดรธานี มาแสดงมิวสิควิดีโอลูกทุ่งเป็นครั้งแรก และดับเบิ้ลเซอร์ไพรส์นำวงออร์เคสตร้า มาร่วมบรรเลงกับเครื่องดนตรีอีสานในเพลงนี้ ทำให้ไพเราะและยิ่งใหญ่
ผลงานอัลบั้มในรอบ 5 ปี ผู้หญิงหัวใจอีสาน?
ต่าย – “ดีใจค่ะ ได้กลับมามีซิงเกิลมีอัลบั้มอีกครั้ง ซึ่งก็ถือว่าห่างหายไปนาน ยากมากในการที่จะทำอัลบั้มนี้ออกมา เพลงมุมนี้มุมนั้นก็เคยเล่ามาแล้ว คือเล่ามาเกือบจะทุกมุมแล้ว ซึ่งในที่ประชุมเหมือนจะพูดกันทีเล่นทีจริงว่าก็ไม่รู้จะเขียนมุมไหนแล้ว ในมุมของผู้บริหารคุยกัน ต้องขอบคุณคุณฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม ด้วยนะคะ ที่เป็นคนแต่งชื่อเพลงนี้ให้ น่าจะเป็นครั้งแรกที่ผู้บริหารแต่งชื่อเพลงให้ด้วย เป็นความพิเศษมากๆ”
ถ่ายทอดมาเกือบทุกมุมแล้ว ผู้หญิงหัวใจอีสาน ตอกย้ำเอกลักษณ์ตัวตน?
ต่าย – “ทุกครั้งที่ต่ายให้สัมภาษณ์ในรายการต่างๆ จะถามว่าชีวิตตั้งแต่อยู่ต่างจังหวัดก่อนมาเป็นนักร้องเป็นยังไง สู้มาแบบไหน มีความฝันอะไร เพลงนี้มันก็เหมือนมาเล่าให้ทุกคนฟังเหมือนเดิม แต่มาเล่าเป็นเพลง วันนี้เราเดินทางมาไกลแค่ไหน เราก็ยังเป็นเรา เป็นลูกอีสานเต็มร้อย เราไม่ลืมเสียงพิณเสียงแคน เรายังคงเป็นลูกโขงชีมูลเหมือนเดิม ผู้หญิงหัวใจอีสานโดยแท้เลย”
“เพลงนี้เป็นลูกทุ่งอีสานแท้ๆ เราไม่ได้ร้องเพลงทำนองนี้นานแล้ว คำเรียบง่าย แต่เห็นภาพครบทุกอย่าง มีความพิเศษกลิ่นอายเสียงแคน เสียงพิณ เสียงโหวด และความพิเศษในนี้มีวงออร์เคสตร้ามาบรรเลงให้ทุกคนได้ฟังมีกลิ่นอายใหม่ๆ เกิดขึ้นด้วย จะเป็นลูกทุ่งร่วมสมัยนิดๆ แต่ว่าคงความเป็นอีสานขนานแท้แน่นอน”
นิยามผู้หญิงหัวใจอีสาน ของต่ายเป็นอย่างไร?
ต่าย – “เป็นผู้หญิงที่ไม่ลืมตัวตนว่าเราเป็นใคร เราเป็นคนอีสาน เราเป็นลูกชาวไร่ชาวนา เรากินข้าวเหนียวตำบักหุ่งเวลาไปไหนก็ตาม แล้วก็ตราบใดที่ได้ยินเสียงเพลงเสียงลำมันสนุกในใจทันที คนอีสานเป็นคนมักม่วน ต่อให้มีเรื่องทุกข์ใจแค่ไหนก็ตาม แต่เราจะปลอบประโลมหัวใจพวกเราด้วยท่วงทำนองที่มันสนุก แล้วก็เป็นผู้หญิงที่อดทน เข้มแข็ง แข็งแกร่งในทุกสถานการณ์ พร้อมที่จะเติบโตเรียนรู้ ไม่ลืมตัวตนบ้านเกิด ไม่ลืมวัฒนธรรม ไม่ลืมสิ่งที่หล่อหลอมเรามา ไม่ว่าจะไปอยู่ไหนเราก็ยังเป็นคนอีสาน”
นักร้องรุ่นหลังรุ่นน้องหลายคน มองเราเป็นต้นแบบ?
ต่าย – “ถึงวันนี้ก็ภูมิใจที่มีน้องๆ หรือใครก็ตามยกเราเป็นต้นแบบ มองว่าเราเป็นพลัง เป็นแรงบันดาลใจจากการใช้ชีวิต เรามีความรู้สึกว่าวันนี้เราไม่ได้เป็นแค่ศิลปิน ไม่ได้แค่ถ่ายทอดเพลงเพื่อสร้างความสุขให้ผู้คนแค่อย่างเดียว เราก็รู้สึกว่าทั้งการใช้ชีวิตของเราเอง ความหมายดีๆ ของเพลง มันก็คือแรงบันดาลใจให้อีกหลายคนเขาได้นำความรู้สึกนี้ไปเป็นแรงผลักให้ชีวิตตัวเองไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ อยากให้ชีวิตของตัวเองดีขึ้น”
คาดหวังยังไงบ้างกับเพลงนี้?
ต่าย – “สิ่งที่ต่ายคาดหวังเลย หวังว่ามันจะยังคงเป็นเพลงที่คอยให้กำลังใจพี่น้องที่สู้ชีวิต ลูกผู้หญิงหัวใจอีสานทุกคนหรือว่าลูกผู้ชายหัวใจอีสานทุกคน ใครที่กำลังแบกรับอะไรอยู่กับเรื่องต่างๆ ชีวิตเดินทางมาจากไหน อยากให้เป็นเพลงที่ทุกคนได้ฟังแล้วคอยบอกย้ำ ถ้าเราเป็นคนที่ภูมิใจในความเป็นลูกอีสานอยู่แล้วมันจะได้ภูมิใจมากยิ่งขึ้นในสิ่งที่ทำแล้วถูกต้อง ช่วยกันดูแลรักษาประเพณีวัฒนธรรม กินข้าวเหนียว ไปไหนพูดภาษาอีสาน ไม่ต้องอายเคอะเขินเพราะมันคือตัวตนของเรา จงภูมิใจ ไม่ต้องอาย เห็นคนบ้านเดียวกันก็ทักทายกัน มันเป็นอะไรที่น่ารักมาก ควรจะรักษามิติตรงนี้ไว้ แล้วยังคงบอกย้ำว่าเราเป็นใคร ไม่หลงไม่ลืม ถ้าเพลงนี้มันได้รับกำลังใจจนท่วมท้นมียอดวิวเยอะ ก็ถือว่าเป็นโบนัสไปแค่นั้นค่ะกับสิ่งที่คาดหวัง”
ความรัก ชีวิตลงตัว อยากมีใครสักคนมาดูแลหัวใจมั้ย?
ต่าย – “พูดแล้วขำเลย ก็รู้สึกครึ่งๆ กลางๆ นะคะ เมื่อตอนอายุ 30 มันอาจจะเป็นภาพที่ชัดมาก คิดว่าผู้หญิงผู้ชายแทบทุกคนเลยที่รู้สึกว่าวัย 30 ไม่เร็วหรือไม่ช้าจนเกินไปถ้าจะมีแฟน มีครอบครัว มีลูก แต่ในมุมของเราในช่วงนั้นเราก็เคยคิดฝัน แต่มันล่วงเลยเวลามาแล้ว(หัวเราะ) อาจจะเจอทั้งความสมหวังและไม่สมหวัง เราก็ได้เรียนรู้กับมันมาประมาณนึงพอที่จะเข้าใจว่าการที่เราจะรักทั้งคนอื่นหรือรักตัวเองแล้วก็จะมีความสุขกับมันได้ยังไง พอมันผ่านช่วงเวลานั้นมันก็ตกผลึกหลายอย่าง ทำให้เราได้เห็นว่าอยู่คนเดียวอย่างมีความสุข อยู่อย่างสงบสุขมันมีอะไรบ้างที่มันจะค่อยๆ ทำให้เราไม่ต้องไปดิ้นรนวิ่งหา ณ ตอนนี้มันก็มีความสุขดี ต่ายก็เต็มในความสุขในแบบฉบับของเราเอง สุขแบบโสดๆ”
แล้วมีคนอยากเข้ามาแชร์ความสุขกับเราบ้างมั้ย?
ต่าย – “เรียกว่าจะมีคนมาแชร์ ไม่ให้แชร์ดีกว่า กลัวกลับไปทุกข์อีก ในมุมของต่ายมองว่าเราเต็มอยู่แล้ว เรามีความสุขอยู่แล้ว แต่ใครจะทำให้เรามีความสุขมากยิ่งขึ้น เราอยากเจอคนที่เต็มเหมือนกันดีกว่า เอาจริงๆ ไม่เคยตั้งสเป๊กเลย เรามีความรู้สึกว่าผู้ชายแต่ละคนจะมีเสน่ห์ในสไตล์ของใครของมันอยู่ที่ว่าใครจะมากระทบกับใจเรามากกว่า คนนั้นจะเป็นคนที่เราเห็นแล้วเรารู้สึกได้ อุ๊ย แต่ยังไม่เจอ(หัวเราะ)”
เชื่อในเรื่องโชคชะตาพรหมลิขิตหรือเปล่า?
ต่าย – “เชื่อนะ เพราะว่าเราเป็นเด็กต่างจังหวัด เป็นลูกชาวไร่ชาวนา แล้วเราก็ไม่คิดว่าจะได้เป็นนักร้องมาไกลขนาดนี้ อาชีพการร้องเพลงมันก็มั่นคงได้เหมือนกัน ก็คิดว่าบางอย่างมันเป็นความฝัน ความมุ่งมั่นและพยายามของเราก็จริง แต่มันก็ต้องมีจังหวะและอะไรบางอย่างที่มันเหมือนกับลิขิตมาแล้ว หรือถ้าวันนี้ต่ายไม่ได้เป็นนักร้อง วันหนึ่งอาจจะแต่งงานมีลูกหรือเป็นครู มันอาจจะลิขิตเป็นเส้นนั้นก็ได้ แต่วันนี้มันไม่เชิงจะพูดว่าจับพลัดจับผลูอยู่ดีๆ มาเป็นนักร้อง แต่เชื่อในเรื่องของพรหมลิขิต สิ่งที่ถูกลิขิตแล้วบวกกับความมุ่งมั่นพยายามความฝันของเรา”
วีรนุช จันทำ