เมื่อบ้านพร้อมสวนทุเรียน ที่ควรเป็น “วิมาน” ความรักของชายสองคน ถูกช่วงชิงไปด้วยกฎหมาย การขุด “หนาม” ในตัว เพื่อปกป้องและทำลายจึงเริ่มต้นขึ้น
“วิมานหนาม” ภาพยนตร์ดราม่าทริลเลอร์จากค่าย จีดีเอช และ ใจ สตูดิโอ ผลงานการกำกับฯ ของ ‘บอส’ นฤเบศ กูโน โดยมี ‘วัน’ วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ เป็นโปรดิวเซอร์ ได้ทีมนักแสดงคุณภาพ อย่าง เจฟ ซาเตอร์, อิงฟ้า วราหะ, ‘เต้ย’ พงศกร เมตตาริกานนท์, ‘เก่ง’ หฤษฎ์ บัวย้อย และ สีดา พัวพิมล ร่วมถ่ายทอดบทบาทตัวละครสุดเข้มข้น
หนังเล่าเรื่องราวของ ‘ทองคำ’ (เจฟ) และ ‘เสก’ (เต้ย) คู่รักหนุ่มชาวสวน ช่วยกันปลูกบ้านและทำสวนทุเรียนบนที่ดินของเสกที่ติดจำนอง ทองคำใช้เงินก้อนใหญ่ทั้งหมดในชีวิตไถ่ถอนที่ดินให้เสก จนได้มาซึ่งโฉนดที่ดินอันเปรียบเสมือนทะเบียนสมรสของทั้งคู่ พวกเขากำลังจะพบความสุข แต่แล้ว เสก เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต บ้านและสวนจึงตกเป็นของ ‘แม่แสง’ (สีดา) แม่ของเสก ผู้มีสิทธิ์ตามกฎหมาย แม่แสงพา ‘โหม๋’ (อิงฟ้า) ลูกสาวที่เก็บมาเลี้ยง รวมทั้ง ‘จิ่งนะ’ (เก่ง) น้องชายโหม๋ เข้ามาถือสิทธิ์ครอบครองวิมานแห่งนี้ ทองคำจึงต้องทำทุกสิ่งเพื่อทวงคืนทุกอย่างที่เขาควรมีสิทธิ์เป็นเจ้าของ แต่โหม๋ก็พร้อมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องแม่แสงและทุกกรรมสิทธิ์ที่ควรเป็นของครอบครัวเช่นกัน
ทั้งนี้ ‘บอส นฤเบศ’ ผู้กำกับฯ เผยถึงแรงบันดาลใจว่า “เริ่มจากตอนทำซีรีส์ แปลรักฉันด้วยใจเธอ เป็นเด็กผู้ชายสองคน เป็นความรักคัมมิ่ง ออฟ เอจ พอเราไปรีเสิร์ชก็ไปเจอประเด็นสมรสเท่าเทียม ก็เก็บเรื่องนี้ไว้ พอทำ แปลรักฯ เสร็จ มีโอกาสทำหนัง เลยเอาคำว่าสมรสเท่าเทียมมาคิดเรื่องดูว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคู่รักแต่งงานกันไม่ได้ แล้วถ้ามีคนนึงตายแล้วเราต้องสูญเสียทุกอย่างให้ครอบครัวฝั่งแฟนไป เลยเอาเรื่องไปเสนอ พี่วรรณฤดี (พงษ์สิทธิศักดิ์)”
ส่วนเหตุผลการเลือกนักแสดงแต่ละคน ผู้กำกับฯ ไล่เรียงว่า “เจฟ รับบท ‘ทองคำ’ เป็นการมาทำแคสต์ ลองเลือกดู ตอนนั้นได้หลายชอยส์ว่าทองคำจะออกมาหน้าตายังไง ซึ่งวันนั้นเจฟมาก็ลองเอาฉากที่เล่นกับแม่เลย ดูว่าเคมีเป็นยังไง แล้วให้ลองเล่นกับตัวละครผู้ชายด้วย ให้เห็นหลายๆ มิติ ปรากฏเขาเป็นคนที่เล่นหลายๆ มิติได้ เล่นในพาร์ตการทวงคืนเข้มข้น แววตาน่าค้นหา พอพูดถึงอยู่ในไร่ในสวน เขาก็ดูเป็นคนที่อยู่ที่นั่นจริงๆ และถ้าให้ลุกขึ้นสู้ก็สู้ได้ หลายๆ โมเมนต์เขาเล่นได้หลายพาร์ต รวมถึงวิชวลต่างๆ ดูน่ามอง แววตาลึกลับ เลยเลือกเจฟมา”
“ตัวอิงฟ้า เริ่มจากไปเห็นชีวิตแบ๊กกราวด์เขากว่าจะเป็นมิสแกรนด์ผ่านอะไรมาเยอะ ซึ่งมันลิงก์กับ ‘โหม๋’ ที่ตัวละครเป็นนักสู้ มากๆ รู้สึกสิ่งนี้น่าจะช่วยพัฒนาหรือทำให้บทโหม๋ที่ดูยากมากๆ เขาน่าจะเข้าใจ พอคุยกัน เขาก็เข้าใจมากๆ เลยเป็นอิงฟ้า พออิงฟ้ามาเจอเจฟ เป็นเคมีที่น่าสนใจ ดูฟาดฟันดี”
ผู้กำกับฯคนเดิมกล่าวต่อ “อย่างน้องเก่งกับพี่เต้ยเนี่ยคือความใสซื่อของเขาเลย เราต้องการหาผู้ชายที่มีความใสซื่อบริสุทธิ์ แต่มัน แค่ต่างวัยและต่างภาระหน้าที่กัน ‘จิ่งนะ’ บทของเก่ง จะมีมู้ดของการอยู่ในสวนในป่าในเขา ซึ่งจริงๆ เก่งก็โตมาในป่าในเขาจริงๆ เขาจะเข้าใจธรรมชาตินี้มาก หรือพี่เต้ย ที่รับบท ‘เสก’ เป็นคนรักครอบครัว สู้ชีวิต อดทน แววตาใสซื่อ พี่เต้ยก็เป็นคนแบบนั้นจริงๆ แล้วเคมีกับทุกๆ คนในเรื่องก็ดีด้วย”
“รวมถึงคนสุดท้ายแม่สีดา ตอนนั้นยังหาไม่ได้ แล้วในเฟซบุ๊กเห็นข่าวครบรอบการเสียชีวิตของพี่อ๊อฟ (อภิชาติ) ลูกชายแก เราอยากนั่งคุยกับแม่ดูว่าชีวิตที่ผ่านมาเจออะไรมาบ้าง ก็มีหลายๆ อย่างที่ลิงก์กับในหนัง แล้วเขาไม่ได้เล่นนาน ฝีมือการแสดงก็ดี พอลองมาเล่นก็เล่นดีมาก ด้วยเขามีประสบการณ์เลยทำให้การแสดงของเขาเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์”
สุดท้ายผู้กำกับฯ กล่าวว่า “ฝากติดตาม ‘วิมานหนาม’ หนัง รสชาติใหม่ๆ ที่มีส่วนผสมใหม่ๆ นักแสดงใหม่ๆ บทใหม่ๆ ไปอยู่บนจอใหญ่ๆ อยากให้ทุกคนลองไปดูพร้อมกันๆ และออกมาเม้าธ์และชวนทุกคนไปดูครับ”
เปิดศึกชิงวิมาน ฟาดฟันคมหนามบนความไม่เท่าเทียมไปกับ “วิมานหนาม” วันนี้ ในโรงภาพยนตร์
