Karman Line เสนอภาพยนตร์แอ๊กชั่นดราม่าคอมเมดี้ “ศึกค้างคาวกินกล้วย” ที่จะพาทุกคนย้อนไปในยุคมืดที่ดนตรีไทยถูกสั่งห้ามเล่น ก่อให้เกิดการรวมตัวของแก๊ง “ศึกค้างคาวกินกล้วย” เพื่อทวงคืนดนตรีไทย
คว้าพระเอก ‘พีช’ พชร จิราธิวัฒน์ สวมบท ‘เชิด’ ผู้สืบทอดสำนักดนตรีไทยจากเซียนขาว ปะทะ ‘เก้า’ จิรายุ ละอองมณี ที่พลิกมารับบทร้าย ‘ผู้พันเผ่า’ ออกกวาดล้างสำนักดนตรีไทย รวมถึงสำนักของเซียนขาวผู้เคยสร้างปมแค้นในใจวัยเด็ก ประชันนักร้องสาว ‘โจริญ คัมภีรพันธุ์’ รับบท ‘แก้วตา’ สาวสวยมือซอแห่งสำนักเซียนดำ
ร่วมด้วยก๊วนฮา ‘เจแปน’ ภาณุพรรณ จันทนะวงษ์ (กลั่น), ‘นิกกี้’ ณฉัตร จันทพันธ์ (พวง) และ ‘หมูเติ้ล’ ทวีศักดิ์ เพ็ชรปราณีนุกุล (สิงห์) ผลงานการกำกับฯของ ‘ชอ’ กฤษณะ จิตรเนาวรัตน์ และ ‘เจแปน’ ภาณุพรรณ จันทนะวงษ์
ทั้งนี้ เจแปนเผยถึงจุดเริ่มต้นว่า “ผมถูกทาบทามจากโปรดิวเซอร์ค่ายรฤกว่ามีหนังที่อยากทำไหม ผมตอบแบบไม่รีรอว่ามี หลังจากนั้นก็ได้เริ่มต้นโปรเจ็กต์นี้ทันที ส่วนตัวชอบภาพยนตร์เรื่อง โหมโรง เพราะเป็นหนังดนตรีไทยที่เล่าความสวยงามของยุคสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี รวมถึงเล่าเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของหลวงประดิษฐ์ไพเราะได้วิจิตรและงดงาม ทำให้เกิดกระแสและส่งผลให้เด็กยุคนั้นอยากเล่นระนาดเอก
ผมอยากทำหนังให้เด็กยุคใหม่ได้เห็นถึงความสำคัญของมรดกทางดนตรีไทย แต่ถ้าจะเล่าเป็นดนตรีไทยแบบออริจินัลเด็กเจนฯ นี้คงไม่ดู ผมเลยเล่าเรื่องดนตรีไทยให้มีความห้ำหั่นความสนุกแบบนักเลงยุคคลาสสิค เลยนำกลิ่นความเป็นแก๊งสเตอร์อย่าง 2499 อันธพาลครองเมือง มารวมกับโหมโรง จนกลายเป็นนักเลงดนตรีที่จะมาทวงความเป็นไทยกลับมาให้คนไทยภูมิใจอีกครั้ง”
ด้านชอกล่าวว่า “หนังมีความเป็นดนตรีไทยผสมแอ๊กชั่นคอมเมดี้ เราอยากให้หนังดูสนุก มีเส้นเรื่องที่แข็งแรง ตัวละครมีหลายมิติ มีปมชีวิตที่ต้องแก้ หนังเลยได้แนวดราม่ามาอีกนิด ตัวหนังพูดถึงแก๊งห่วยๆ ที่มากอบกู้ดนตรีไทย ความสนุกน่าจะอยู่ที่แก๊งห่วยๆ อย่างแก๊งค้างคาวที่ต้องหาวิธีมาต่อกรกับผู้พันเผ่าผู้มีอำนาจควบคุมดนตรีไทยไว้ในกำมือ”
ทำไมลงตัวที่ ‘พีช พชร’ และ ‘เก้า จิรายุ’ เจแปนเล่าว่า “ด้วยคาแร็กเตอร์ของเชิดต้องเล่นระนาดได้ และมีทักษะการเล่นดนตรีสากลด้วย เราเลือก พีช พชร เพราะเขาเคยเล่นภาพยนตร์เกี่ยวกับดนตรี และยังเป็นศิลปิน นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ ความสามารถทั้งหมดเหมาะกับบทเชิดมากที่สุด
เมื่อวางพีชเป็นเชิด เราเลยวาง เก้า จิรายุ เป็น ผู้พันเผ่า ทั้งสองคนเคยเล่นภาพยนตร์เกี่ยวกับดนตรีมา เรื่องนี้ผมอยากได้กลิ่นอายความเป็นคู่ปรับคู่แข่งเพื่อนซี้ หลายคนอาจจะติดภาพเก้าเป็นนักแสดงบ้าง นักร้องบ้าง แต่เรื่องนี้เก้าจะพลิกบทบาทตัวเองมากพอสมควร ผสมกับความสามารถทางดนตรีที่เก้ามีอยู่แล้วทำให้การถ่ายทอดอารมณ์การแสดงเป็นไปตามความต้องการครับ”
ชอกล่าวเสริม “บทเชิด คาแร็กเตอร์ หล่อ กวน สาวกรี๊ด ไม่สนโลก แต่พอเรื่องร้อนมาถึงตัวก็เป็นคนลุกขึ้นต่อสู้ร่วมกับแก๊งค้างคาวคือ นิกกี้ เจแปน หมูเติ้ล เราอยากได้คนที่มีเคมีเข้ากันเพราะทั้งสี่คนคือเพื่อนสนิทพร้อมเลอะพร้อมลุย ซึ่งพีชก็ดูสนุกร่วมไปกับก๊วนได้ดี และถือเป็นการกลับมาพบกันอีกครั้งในหนังระหว่างเก้ากับพีชอีกด้วย
ส่วนเก้าเป็นนักแสดงที่เก่งมาก เราอยากเห็นเก้าแสดงในบทบาทใหม่ๆ เก้าจึงถูกวางตัวเป็นผู้พันเผ่า เป็นตัวร้ายลึกที่ต้องการล้างแค้นปมในอดีตที่ตนไม่ได้รับโอกาสทางดนตรีทั้งที่มีความสามารถ และคอยออกไล่ล่าแก๊งค้างคาว จะได้เห็นฝีมือการแสดงในมุมร้ายและดราม่าที่ไม่ธรรมดา เรียกว่าจะหล่อจะร้าย เก้าได้หมด”
สำหรับนางเอก ‘แก้วตา’ สวมบทโดย ‘โจริญ’ เจแปนแง้มว่า “โจริญเป็นรุ่นน้องที่เรียนภาพยนตร์มาด้วยกัน จนน้องได้มาเป็นศิลปิน 4EVE ด้วยความสามารถทั้งร้อง ทั้งเต้น ทั้งการแสดง ทำให้อยากร่วมงานกับน้องในฐานะนางเอกหนังเรื่องนี้ เราเคยเห็นโจริญในหลากหลายความสามารถมาแล้ว แต่ยังไม่เคยเห็นความสามารถทางด้านการแสดงภาพยนตร์อย่างจริงจัง ส่วนตัวเคยร่วมงานกับน้อง เชื่อว่าน้องสามารถทำให้คนดูรักตัวละครที่ชื่อ แก้วตา และภาพยนตร์เรื่องนี้ได้แน่นอนครับ”
“ศึกค้างคาวกินกล้วย” ระเบิดความฮาแล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์
