คัมแบ็กในรอบ 14 ปี กิ๊ก สุวัจนี ลั่นอยากลองเล่นบทยูริ ดูแล้วฟินจิกหมอน วอนผู้จัดติดต่อมาได้ พร้อมมากท้าทายฉีกภาพจำนางร้ายในตำนาน

นางร้ายในตำนาน กิ๊ก สุวัจนี พานิชชีวะ คัมแบ็กวงการอีกครั้งในรอบ 14 ปี พร้อมรันงานยาวแบบไม่มีเบรค หลังหายจากหน้าจอไปทำหน้าที่ศรีภรรยา เลี้ยงลูกนานหลายปี ล่าสุดกลับมารับละครในบทบาทคุณชื่น เรื่อง หนึ่งในร้อย ทางช่อง 3 พร้อมเผยถึงชีวิตในตอนนี้ สุวัจนีเวอร์ชั่นใหม่พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ตลอด เป็นน้ำไม่เต็มแก้ว และอยากลองเล่นบทยูริ ความรักไม่จำกัดเพศ เป็นความท้าทายทางการแสดงฉีกจากภาพจำความเป็นกิ๊ก สุวัจนี

กิ๊ก สุวัจนี ลั่นอยากเล่นยูริ

คัมแบ็กวงการแล้วรันยาวเลย? “ใช่ ตอนนี้คิดว่าน่าจะรันยาวได้แล้วนะคะ เพราะว่าเราใช้เรื่อง หนึ่งในร้อย เป็นตัวพิสูจน์ว่ามันไม่ได้มีปัญหา เรารับงานแล้วมันสามารถจะประคองไปได้ แล้วคุณพ่อเขาก็มาดูแลลูกให้แทน ซึ่งตรงนี้เป็นความดีใจของคุณแม่มาก เพราะว่าถ้าเรากลับมารับเล่นละครแล้ว เราจะได้ไม่ต้องพะวง เพราะฉะนั้นตอนนี้เรียกได้ว่า nonstop ค่ะ”

ปัดฝุ่นเรียบร้อยเป็นสุวัจนี เวอร์ชั่นอัพเดตล่าสุด?เป็นสุวัจนีเวอร์ชั่นใหม่ดีกว่าเพราะว่าได้มาร่วมงานกับน้องๆ หลายๆ คนที่เป็นเด็กรุ่นใหม่ แล้วเขาก็จุดเชื้อไฟให้กับเรา ทำให้เรารู้ว่าเดี๋ยวนี้เวลาเราเล่นละครมันอาจจะมีอะไรใหม่ๆ เขาเรียกว่าเป็นน้ำที่ไม่เต็มแก้ว เราอยากจะเป็นแบบนั้นมากกว่า ซึ่งเราจะได้รับรู้ว่า อ๋อ สมัยใหม่มันเป็นแบบนี้นะ การถ่ายทำเป็นแบบนี้นะ การเล่นอาจจะต้องปรับเปลี่ยนไป ซึ่งเราก็ดูจากรุ่นน้อง รุ่นพี่ แล้วก็ผู้กำกับฯ มาคอยสอนเรา”

เราไม่ใช่รุ่นใหญ่ที่เต็มแล้ว? “ไม่ พี่กิ๊กถือว่าเป็นรุ่นกลางดีกว่า (หัวเราะ) พี่กิ๊กไม่ถือว่ารุ่นใหญ่ดีกว่ามั้ย เพราะกิ๊กรู้สึกว่าการแสดงเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นที่เด็กกว่าเรา กิ๊กรับฟังนะ เพราะการที่เราอยู่ในทีมเดียวกันแล้ว ลงเรือลำเดียวกันแล้ว เราต้องฟังกัน ไม่ว่าใครจะมาทักท้วงอะไร ยินดีรับฟังหมด

ตลอดเวลา 14 ปีที่ห่างหายจากงานละคร วันแรกที่เปิดกล้องแอบหวั่นมั้ย? “เอาจริงๆ ไม่หวั่นนะ รู้สึกว่าอยากไปกอง วันแรกเลยไม่มีความรู้สึกหวั่นเลย แล้วมีความรู้สึกว่าอยากไปถึงกองเร็วๆ อยากรู้ว่าเป็นยังไง อยากเจอนักแสดง อยากเจอผู้กำกับฯ และทีมทุกคนว่าเขาจะรู้สึกยังไงกับเรา มีความรู้สึกว่าเราจะเล่นยังไง ทำยังไงให้ถูกใจผู้กำกับฯ มากที่สุดแบบนี้มากกว่า พี่กิ๊กจะไม่มีหวั่นว่าฉันจะเล่นได้มั้ย ไปถึงปุ๊บเหมือนเราเปิดรับเลยกับทุกสิ่งที่จะเข้ามาปะทะกิ๊ก ความอยากเรียนรู้มาเริ่มมา”

กิ๊ก สุวัจนี ลั่นอยากเล่นยูริ

เข้าซีนแรกจัดการได้อยู่หมัด? “เอาอยู่ค่ะ ซีนแรกยังไม่ได้เป็นซีนอารมณ์มากนัก แต่ว่าเป็นซีนที่เข้ากับหลายๆ คน พี่แอ้ว(ผู้กำกับฯ)คอยประกบตลอดเลยซึ่งดีมากๆ เป็นผู้กำกับฯ ที่น่ารักมากๆ และสอนอะไรกิ๊กเยอะมาก บางทีเราอาจจะไม่เข้าใจในบทประพันธ์ตรงนี้ เขาก็คอยบอกเราว่าเป็นแบบนี้นะกิ๊ก เล่นแบบนี้นะมันทำให้กิ๊กค่อยๆ เขยิบไปในจุดที่เป็นคุณชื่นได้”

การเล่นละครยุคนี้กับยุคเก่าอะไรที่มันไม่เหมือนกันเลย?มุมมองการตีโจทย์มากกว่า รุ่นเก่ามันจะเป็นแบบว่าใจต่อใจ รู้สึกอะไรก็พูดไปเลย ฉันรู้สึกแบบนี้ ฉันอยากตบเธอคือมันไปเลย แต่พอมาแบบอันใหม่ มันจะเป็นอีกมิติหนึ่ง ต้องคิดหน่อยนะก่อนที่จะปะทะ คนดูเขาไม่ได้โง่นะ คุณจะมาแสดงตรงไปตรงมาแบบสมัยก่อนเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าคุณรู้สึกแบบนี้คุณเก็บไว้ก่อนแล้วคุณเล่นอีกมิติหนึ่ง กิ๊กว่ามันดูน่าชมมากกว่า อย่างตัวชื่นเองตอนแรกๆ เหมือนกับว่าแรงๆ รุนแรงไปหมด อะไรก็หงุดหงิดไปหมดทุกอย่าง แต่พอวันหนึ่งมันเกิดเหตุการณ์ขึ้น มันเก็บข้อมูลแล้วนะ ก็เริ่มถ่ายทอดให้คนดูว่าแม่ชื่นเขามีมุมนี้นะ ซึ่งตอนนี้พี่แอ้วเขาเป็นคนดีไซน์ให้กิ๊กด้วย เรามาตีโจทย์กัน ไม่ใช่ว่ามาถึงแล้วร้องไห้เลยพอลูกป่วย ไม่ได้นะ ลูกต้องอดทน แต่สุดท้ายแล้วกอดสักหน่อยเถอะ พอเราเล่นรู้สึกอิน”

การกลับมาของเรา เขย่าวงการผู้จัด มีแต่คนอยากร่วมงานด้วย? “เหรอ กิ๊กก็อยากร่วมด้วย (ยิ้ม)”

ภาพจำนางร้ายในตำนาน บทไหนที่อยากจะฉีกออกจากความเป็นกิ๊ก สุวัจนี?อยากรู้จริงๆ ปะ อยากเล่นอะไรรู้ปะ อยากเล่นวาย(หัวเราะ) จริงๆ หญิงหญิง (ยูริเหรอ?) อยากเป็นยูริ อยากเล่นยูริมากเลยรู้ปะ แต่ไม่มีใครเชื่อเลยอ่ะ คือรู้สึกว่ายูริมันมีเสน่ห์ไง เราดูแล้วรู้สึกว่าจริงๆ แล้วความรักมันไม่เพศนะ ถ้าคุณแสดงได้ถึงเราจะเชื่อในสิ่งนั้น แม้กระทั่งผู้ชายผู้ชาย หญิงหญิง ถ้าเขาเล่นถึงเราสามารถอินกับเขาได้นะ (ไปดูมาจากไหน?) แม่ก็ดูบ้างสิ แม่ก็ดูนะ หนังเกาหลี หนังไทย แม่ดูหมด แม่ชอบ แล้วแม่จิกหมอนด้วยนะ (หัวเราะ) แม่ดูแล้วแม่ฟินมาก อยากเล่นมากเลย ไม่มีใครติดต่อเลย คืออาจจะไม่มีใครเชื่อว่าอยากเล่นไง แต่คิดว่าละครต่อไปกิ๊กว่ามันต้องมีแบบนี้แน่นอน เพราะว่ามันเป็นการเปิดทางให้กับเพศทางเลือก ถ้าเขาเล่นถึงมันใช่”

เห็นคู่ ธัญญ่า-หนิง มั้ย? “อันนี้ดูบ้าง เห็นมั้ยล่ะเขาก็ยังมีเลยถูกมั้ยล่ะ โลกมันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว (อยากลองเล่นกับใครดี?) หูย ยังไม่มีคู่เลย แต่เคยคิดพล็อตเรื่องไว้นะ ขนาดนั้นเลยเชื่อปะ เคยคิดแล้วแอบบอกคนอื่น เชื่อมั้ยยังไม่มีใครเชื่อเลยว่ากิ๊กอยากเล่นยูริ พล็อตที่คิดไว้เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ วันหนึ่งครอบครัวแตกแยก ผู้หญิงถูกผู้ชายทิ้ง ผู้หญิงก็ไปเจอผู้หญิงด้วยกันแล้วสปาร์กกัน แล้ววันหนึ่งก็โดนเฉดหัวทิ้งไป ไปเจอกับทอม คือทุกอย่างมันปูไปได้หมด เราอยากให้คนได้เห็นความรักหลายมุมมอง จริงๆ แล้วความรักมันไม่จำเป็นต้องเลือกเพศ”

กิ๊ก สุวัจนี ลั่นอยากเล่นยูริ

ถ้าจะต้องเล่นยูริ คุณสามีโอเคมั้ย?เขาก็ไม่น่าจะขัดอะไรนะ เพราะมันก็เป็นการแสดง กิ๊กว่าดีออก ดูน่ารักจะตาย ยูริอ่ะ รอผู้จัด ติดต่อยูริมาได้เลยนะ (หัวเราะ) สุวัจนีพร้อมค่ะ อยากเล่นจริงๆ ไม่ได้พูดเล่น เราอยากจะลอง เพราะว่าตอนที่เราดูเรายังจิกหมอนเลย แสดงว่าคนที่เขาเล่นเขาทำให้เราอินได้ เพราะฉะนั้นตัวเราก็อยากจะเล่นแบบนั้น เป็นบทที่ท้าทายเรา แล้วเป็นบทที่รู้สึกว่าคนนั้นคงจะเป็นคนที่เรารักจริงๆ แล้วเราอยากจะสื่อให้คนดูเห็นว่าจริงๆ แล้วความรักมันไม่มีเพศ (จะเลือกโพลไหนระหว่างผู้นำกับผู้ตาม?) เลือกไม่ได้เพราะว่าเราเป็นได้ทั้งผู้นำและผู้ตาม ขึ้นอยู่กับบทด้วยว่ามันเหมาะสมกับเรามั้ย หรือว่าคู่ของเราคือใคร มันต้องดูตรงนั้นด้วย เราต้องเปลี่ยนแปลงไปได้หมดเลย ไหลลื่น เราอาจจะเป็นผู้นำก็ได้ผู้ตามก็ได้ ต้องสวิตช์ได้หมด”

 

การกลับมาของ พี่กิ๊ก ดูจอยมาก? “เอ็นจอยมาก เอ็นจอยทีมงานด้วย โชคดีที่ว่าพอเรากลับเข้ามาเราเจอทีมงานที่น่ารักแล้วเราประทับใจ พอเราประทับใจทีมงาน นักแสดง ทำให้เราเปิดโลกกว้างนี่คือสิ่งที่เรารออยู่ เราไปทำหน้าที่ของเรามา 14 ปี แล้วพอเรากลับมาได้เจอภาพที่มันดีกว่าเดิม มันทำให้เรารู้สึกว่านี่แหละมันคือการใช้ชีวิตของเรานะ”

การเล่นละครของพี่กิ๊ก คนก็จะรอซีนมีม ในหนึ่งเรื่องต้องมีสัก 1 มีมที่คนพูดถึง? “จริงเหรอ(ยิ้ม) จริงๆ เราไม่ได้ตั้งความหวังนะว่าเราจะต้องเป็นมีมแบบนั้นแบบนี้ เรามองแค่ว่าบทตอนนั้นที่เราเล่นอารมณ์มันพาไป ท่าทางมันไปเอง แล้วชาวโซเชียลนั้นแหละเป็นคนจับมาให้พี่กิ๊กเอง จริงๆ แล้วต้องยกนิ้วให้กับชาวโซเชียลมากกว่าที่แบบไวมากๆ ว่าฉันต้องทำปากแบบนั้น หน้าตาแบบนี้ ซึ่งเราไม่สามารถระบุได้หรอกเวลาเราเล่นไปแล้วต้องทำท่าทางแบบไหน มันไปเองมากกว่า”

กิ๊ก สุวัจนี ลั่นอยากเล่นยูริ

ซีนทำหน้าปากคว่ำมันกลายเป็นตำนาน? “เออ กิ๊กมองยังรู้สึกเหมือนกันว่าเราไปทำตอนไหนเนี่ย (หัวเราะ) เราไม่รู้ตัว แต่เรารู้สึกว่าฉากนั้นเป็นฉากที่เราไม่พอใจ กระแหนะกระแหน เรารู้แค่นั้น เราไม่ได้เซ็ต”

ล่าสุดเป็นไวรัลอยู่นะ ในรายการออนไลน์ของพี่กิ๊ก จีบน้องฮง? “พี่ฮงเหรอ อย่าเรียกน้องสิ พี่ฮง การเต๊าะผู้ใช่มั้ย เขาออร์แกนิคจริงนะ เห็นแล้วขนลุกนะเอาจริงๆ(หัวเราะ) ตอนแรกเลยเราไม่รู้จักเขา ก็นั่งเสิร์ชกันใหญ่เลยนะ คือใครอะไรยังไง เขามาถึงออร่ามาเลยนะ ความเป็นธรรมชาติของเขาอาจจะไม่ได้คล่องภาษาไทย มันเลยดูน่ารัก พอได้คุยกันเรารู้สึกได้เลยว่าตัวเขามีออร่ามีความเป็นธรรมชาติ สำหรับแม่ความเต๊าะผู้ก็เริ่มมา สกิลแม่ต้องดับเบิ้ล แม่อยากให้เขารู้ว่าเราอายุเท่าไหร่ พี่แท่ง(ศักดิ์สิทธิ์)อายุเท่าไหร่ คือเขาไม่รู้รายละเอียดเราเลยเหมือนกัน ต่างคนต่างไม่รู้มาเจอกันมันทำให้ความเป็นธรรมชาติของกันและกันมันออกมา พี่กิ๊กก็เลยรู้สึกว่าพี่ฮงน่ารักนะเนี่ย เขาบอกว่าแม่อายุ 33 แม่ก็แบบพี่ฮงอย่าพูดอย่างนี้ ใจคอไม่ดี (หัวเราะ) อย่าพูดเล่น”

พอได้มาเริ่มสตาร์ตใหม่ เหมือนได้ปลดปล่อยเราในหลายเรื่อง? “พี่กิ๊กว่าทุกคนมีตัวตนของตัวเอง แต่แค่ว่าจะเอาออกมาหรือเปล่าแค่นั้นเอง กิ๊กอาจจะมีโอกาสได้ทำรายการออนไลน์ ขอข้าวกินหน่อย ได้เจอแขกรับเชิญที่สนุกด้วย และมีความเป็นธรรมชาติ มันก็เลยส่งพลังกันมากกว่าทำให้เรารู้สึกว่าการที่เราเล่นสนุกกับแขกรับเชิญ สนุกนะ คนดูชอบ เราก็ค่อยๆ เรียนรู้ไป กิ๊กบอกเลยว่านักแสดงมันเรียนรู้ไม่รู้จบหรอก มันต้องเรียนรู้ทุกวัน การเปลี่ยนแปลงของคนเรา ทีมงาน ทุกอย่างมันมาให้เราได้เรียนรู้หมด”

เติมเต็มชีวิตแม่ในวัยนี้? “แม่ชอบชีวิตตอนนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าแม่อาจจะครบแล้ว ครบตรงที่ว่าเรามีครอบครัวที่น่ารัก แล้วเรามีเพื่อน มีทีมงานที่คุ้นเคย มีผู้จัดที่เรารู้จักอยู่แล้ว มวลพลังของความเป็นบวกมันมา พอมันส่งให้เราพวกนี้มันรับได้ง่ายๆ นะ เราจะรู้เลยว่าสิ่งที่มารอบตัวเรามันเป็นบวกหรือลบ พอเรารู้ว่าเป็นบวกเราก็พุ่งใส่เลย เขาบวกมาเราก็บวกกลับ ลบมาฉันก็ลบกลับ (หัวเราะ) ถูกมั้ย ถ้าลบมาฉันจะบวกกลับทำไม มันไม่ใช่เรื่องไง คุณต้องรู้ว่าส่งลบให้ฉันอยู่ ฉันก็ต้องส่งลบให้คุณเหมือนกัน (หัวเราะ)”

รู้สึกว่าตอนนี้มันคือโลกของกิ๊กเลย? “มันคือโลกของกิ๊ก เพราะจริงๆ แล้วกิ๊กโตจากละคร วันแรกครั้งแรกที่กิ๊กถ่ายละคร ตอนอายุ 17 กิ๊กมาจากการถ่ายโฆษณา เรื่องแรกที่กิ๊กเล่นคือ 17 เลย แล้วตั้งแต่ 17 มาตลอดจนก่อนมีครอบครัว กิ๊กก็อยู่กับละครและโตในละคร เขาเรียกว่าโตในกอง ชีวิตกิ๊กอยู่แบบนี้มาตลอดจนวันหนึ่งเรามีครอบครัว ก็ไปดูแลครอบครัว แล้วพอกลับมามันเหมือนเราได้ใช้ชีวิตแบบเก่าๆ ของเรา แต่ในเวอร์ชั่นที่เราโตขึ้น เป็นในเวอร์ชั่นที่เราครบแล้ว ไม่ต้องกังวลอะไร เวลามาเล่นแล้วมีความสบายใจ มันก็ส่งพลังกันไปกันมาให้กับคนในกองด้วย

กิ๊ก สุวัจนี ลั่นอยากเล่นยูริ

ตอนที่ตัดสินใจมีครอบครัวในตอนนั้นเป็นช่วงพีกในชีวิตการแสดงหลายคนเสียดาย พอกลับมาอีกครั้งกับช่วง 14 ปีที่หายไม่ได้รู้สึกว่าเป็นการตัดสินใจผิด? “จริงๆ ถ้าเทียบ 14 ปีไม่ได้นะ กิ๊กหายไปจริงๆ 20 ปีนะ เรียกว่าประมาณ 20-22 ปี เพราะว่าลูกคนโตกิ๊ก 20 พอช่วงที่มีคนโตแล้ว กิ๊กก็ท้องแล้วก็เล่นไทรโศก แล้วตอนนั้นคือ 14 ปี เพราะฉะนั้นจำได้เลยว่ามันเป็นชีวิตที่เราต้องเลือก เรามั่นใจว่าถ้าเรามีลูก เราจะต้องดูแลลูกให้เป็นอย่างดีจนกว่าเขาจะสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แล้ววันหนึ่งถ้าเกิดว่ายังมีคนต้องการเรา เราจะกลับมา เราคิดเสมอ แต่ถ้าวันหนึ่งมันไม่มีแล้ว มันไม่ใช่วันของเราแล้ว เราก็อาจจะเป็นแม่บ้านตลอดไป เราคิดแค่นั้น กิ๊กเป็นคนไม่คิดไกลไปกว่านั้น

เราไม่ได้ยึดติดกับชื่อเสียง ความเป็นกิ๊ก สุวัจนี?ไม่ยึดติดเลย แล้วรู้สึกว่าชื่อเสียงมันไม่สามารถอยู่กับเราได้ตลอดไป แต่ว่าความเป็นตัวตนของเราที่เป็นเราจริงๆ มันจะอยู่กับเราตลอดไปมากกว่า ไม่เคยยึดติด

ขอบคุณที่ลูกๆ อนุญาตให้แม่ออกมาจากบ้าน เข้าวงการอีกครั้ง? “ใช่ จริงๆ เราดูความพร้อมของลูกมากกว่า ลูกเห็นว่าเขาอยู่กับตัวเรา ติดกับตัวเรามาประมาณ 20 ปี เพราะฉะนั้นเขาก็คิดว่ามันนานมากแล้วนะแม่ที่แม่ดูแลเขาเต็มที่ จนลูกบอกว่ามันถึงเวลาที่แม่จะออกไปใช้ชีวิตหรือเปล่า แม่ชอบไม่ใช่เหรอ แม่กลับไปทำในสิ่งที่ตัวเองชอบดีกว่า พอมันออกจากลูกแสดงว่าลูกเราโตแล้วนะ เขาคิดได้ไม่ได้ต้องการอะไรจากเรามาก แต่วันหนึ่งที่เขามีปัญหา เขาจะกลับมาหาเราเอง อย่างเวลาเขาไม่สบาย พ่ออาจจะเอาไม่อยู่เขาก็ต้องกลับมาหาเราซึ่งเราจะมีตัวแทนคือคุณพ่อที่คอยช่วยดูแลได้ เพราะช่วงเวลาลูกเล็กๆ กิ๊กจะเป็นคนดูแลลูกเองทั้งหมด 3 คน คุณพ่อทำงานได้เลยลุยเต็มที่ไม่ต้องกังวล แต่วันหนึ่งพอเรากลับเข้ามาวงการ คุณพ่อเริ่มทำงานเบาลงเพราะฉะนั้นคุณพ่อก็ช่วยเราได้ ลูกคนเล็กก็สบายใจเพราะเป็นลูกชาย เขาก็ควรจะอยู่กับพ่อเป็นผู้ชายเหมือนกัน”

ตอนนี้ก็เลยเบรกแตกเลย? “เบรคแตกเลย nonstop แล้วค่ะ (หัวเราะ)”

พี่กิ๊กเป็นแม่สไตล์ไหน? “พี่กิ๊กคิดว่าเราเป็นแม่สมัยใหม่นะ ถ้าเป็นตอนเด็กๆ เราจะเป็นคนเข้มงวดกับลูก เพราะกิ๊กอยากให้ลูกเป็นคนมีระเบียบวินัย แต่ไม่เหมือนกับคุณชื่นขนาดนั้น เพราะคุณนายชื่นเขาไม่ฟังใคร แต่ว่ากิ๊กฟังคนอื่นไง อยากฟังเสียงลูกว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร แล้วมีเสียงอะไรมาถึงเรา เราต้องการแก้ไขลูกยังไง เราอยากเลี้ยงให้เขาเป็นตัวตนของเขาจริงๆ เขามีอะไรก็กล้ามาพูดกับเรา อยากเลี้ยงเขาเหมือนเพื่อน ที่เวลาเขามีปัญหาอยากให้เขารู้สึกว่าเขามีพ่อแม่ มีครอบครัวรอเขาอยู่ ทุกปัญหาพ่อแม่จะช่วยเขาได้ทุกเรื่อง”

กิ๊ก สุวัจนี ลั่นอยากเล่นยูริ

ได้ดั่งใจมั้ยกับลูกสามคน? “เขาก็เป็นสไตล์ตัวเองนะ ถามว่าทั้ง 3 คนทำให้เราหนักใจมั้ย ไม่มีนะ ทั้ง 3 คนก็ไม่ค่อยทะเลาะกันด้วย น้อยมากที่จะทะเลาะกัน เป็นแบบพี่ที่ดูแลน้อง กิ๊กก็แฮปปี้”

คนไหนเดินตามรอยแม่อยากเข้าวงการ? “เบอร์สอง ธาช่า ลูกคนที่สองก็มีส่วนในเรื่องหนึ่งในร้อยด้วย คุณแอนก็ชวนมา (ให้เซ็นเลยมั้ย) ยังๆๆ อันนี้คือให้มาลองเชิงก่อน มาลองชิมว่าการทำงานมันเป็นแบบไหน กิ๊กอยากสอนให้เขารู้จักว่าการทำงานมันมีระบบกว่าที่จะขึ้นมาได้ระบบหนึ่งของเขาของเราหรือของใครก็ตาม แต่ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ วันหนึ่งคุณจะขึ้นมาได้เลย คุณต้องใช้เวลา ความพยายาม ต้องมีประสบการณ์ กิ๊กอยากให้เขาเรียนรู้เรื่องนี้มากกว่า เขาโอเคเลย กิ๊กไม่ได้ให้ความสำคัญกับตัวเขาแบบว่าให้เขารู้สึกดีเด่นกว่าคนอื่น ให้เขาเรียนรู้ไปเลย ไม่ได้มีอภิสิทธิ์ใดใดทั้งสิ้น อยากให้เขาเรียนรู้จริงๆ ว่างานแม่มันไม่ใช่งานที่สบายนะ มันต้องผ่านอะไรมาเยอะกว่าจะผ่านมาถึงจุดนี้ได้ ให้เขาเลือกเอง ถ้าเขาชอบก็คงหาทางดิ้นรนแล้วมาบอกเราเองว่าอยากจะทำแบบนั้นแบบนี้”.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน