จิ๊ก เนาวรัตน์ ควงคู่ลูกชาย เจเจ นวัติ และลูกสะใภ้พร้อมหลานชาย น้องโนอาห์ เปิดใจเคยเป็นเหมือนแม่ผัวเหมือนในละคร ที่หวังให้ลูกสะใภ้คอยเอาใจ
จิ๊ก เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ ควงคู่ลูกชายคนเล็ก เจเจ นวัติ และลูกสะใภ้พร้อมหลานชาย น้องโนอาห์ วัย 1 ขวบ 11 เดือน ออกรายการทีวีครั้งแรก พร้อมเผยเปิดใจในรายการ มุมมองเคยเป็นเหมือนแม่ผัวในละครที่หวังให้ลูกสะใภ้คอยเอาใจก่อนคิดว่าอาจทำครอบครัวลูกชายพัง รวมถึงการเปลี่ยนตัวเองครั้งใหม่ไม่มีแล้วการทำตัวคิขุอาโนเนะ ทั้งหมดนี้ใน รายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31 ที่มี ดีเจพุฒ พุฒิชัย และ เอส กันตพงศ์ เป็นพิธีกร
เป็นยังไงบ้างกับการเป็นคุณย่าของหลานชายคนแรก?
จิ๊ก : “มีคนถามพี่ตลอดหลานคนแรกเป็นยังไง ได้เลี้ยงไหม ได้อุ้มไหม คือตอนนี้โนอาห์อายุ 1 ขวบ 1 เดือนคือตั้งแต่เล็กๆ แรกเกิดคุณแม่ของลูกสะใภ้ก็มาเลี้ยงให้พี่เองก็ไม่ได้ค่อยเข้าไปยุ่งเท่าไหร่”
แต่ได้ข่าวว่าคุณย่าหลงหลานมาก?
จิ๊ก : “รักสิคะคือก็อย่างนี้ไม่หลงได้ยังไงเขาน่ารัก”
เจเจ : “หลงหลานมาก อย่างตอนที่โนอาห์ไม่สบาย พอจะออกจากโรงพยาบาลย่าก็ซื้อรถเข็นเด็กให้ใหญ่ๆ แล้วกลับมาที่บ้านก็มีอีก 2 คัน”
เห็นว่าตอนรับขวัญหลานไม่ได้ให้ของอะไรเพราะอะไร?
จิ๊ก : “ไม่ได้ให้เลยค่ะ ตอนที่เขาคลอดออกมาเราไม่ได้ให้อะไรเลย เพราะเห็นว่าไม่ได้จำเป็นต้องให้ แต่เห็นว่าเขาคลอดมาแล้ว แต่ก่อนคลอดเราก็พาไปซื้อของซื้อนั่นซื้อนี่แล้วก็ต้องอยู่กับเราตลอดไป เพราะฉะนั้นเรามีอะไรเราก็ซื้อให้เขาได้”
มูลค่าที่ซื้อของให้ก่อนที่หลานจะคลอดออกมาเท่าไหร่?
จิ๊ก : “ก็ไม่เยอะนะก็เป็นแสนคือเดี๋ยวนี้ของเด็กอะไรก็แพง”
น้องโนอาห์เขาเหมือนใคร
เชอร์รี่ (ลูกสะใภ้จิ๊ก) : “เขาเหมือนพ่อคือนิสัยหลายๆ อย่างเขาก็เหมือนพ่ออย่างนิสัยที่เหมือนคุณพ่อเขา ก็คือเรื่องขี้เซามีอะไรไม่พอใจก็จะเบะหน้า
พัฒนาการของน้องโนอาห์เป็นยังไงบ้าง?
จิ๊ก : “พัฒนาการของโนอาค่อนข้างเร็ว คือเราเองก็ไม่รู้หรอกว่าเด็กคนอื่นเร็วไหม เพราะเราก็ไม่ได้สัมผัส แต่คือจากที่เราสัมผัสเด็ก 1 ขวบเรารู้สึกว่าเขาเร็วมาก อย่างถ้าเราส่งแปรงสีฟันให้เขา เขาก็เอาเข้าไปแปรงฟันเอง ส่งหวีให้เขาก็จะหวีเอง คืออย่างเขาจะรู้ว่าที่บ้านมีไฟกี่หลอด เขาก็จะเปิดหลอดนี้ แล้วเขาก็จะเดินไป เพื่อเปิดอีกหลอดนึงคือเราจะสอนเขาแค่ครั้งเดียวว่า โนอาห์ทำแบบนี้นะ และตั้งแต่นั้นเขาจะทำของเขาเองหมด 1 ขวบ 1 เดือนเขาทานข้าวเองได้แล้วด้วย”
เชอร์รี่ : “ฝึกทานเองตั้งแต่ 6-7 เดือนคือให้เขาหยิบเอง”
อีกหนึ่งความเก่งคือล่าสุดน้องโนอาห์ไปลงแข่งเข็นของเล่น?
เจเจ : “คือเป็นการแข่งเข็นรถของเล่นได้อันดับที่ 3 ซึ่งเป็นการแข่งครั้งแรกของเขา”
เชอร์รี่ : “คือเราไม่ได้พาเขาไปฝึกอะไรเลย เขาเห็นจากที่เพื่อนๆ ไถเขาก็ไถตาม”
จิ๊ก : “จริงๆ ต้องได้ที่ 2 นะ แต่พอดีตอนนั้นมันติดพรมในสนาม แล้วเขาเองก็ไถไม่เป็น เพราะไม่เป็นมันก็เลยติด เขาก็เลยทิ้งแล้วเดินออกไปเลย”
น้องโนอาห์ความจำดีด้วย?
จิ๊ก : “แม่นมากเขาจะเป็นเวลาตกเย็นเขาจะรู้เลยว่าเขาจะต้องออกนอกบ้านพอไม่ได้ออกเขาจะหงุดหงิด”
เชอร์รี่ : “เขามีเพื่อนๆ ในหมู่บ้านอย่างเวลาที่ขับรถผ่านบ้านเพื่อนเขาก็จะชี้คือเขาจะจำได้”
เห็นว่าส่งเรียนดำน้ำตั้งแต่อายุ 4 เดือน?
จิ๊ก : “ใช่พ่อแม่เขาพากันไปเรียนเราเองไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรหรอก เพราะเด็กเดี๋ยวนี้นะอย่างตอนเราเกิดไม่มีแบบนี้”
ได้ข่าวว่าวิธีการเลี้ยงหลานของลูกชายในช่วงแรกก็ทะเลาะกับ “ย่าจิ๊ก” หนักมาก?
จิ๊ก : “อย่างเรื่องการส่งหลานไปเรียนว่ายน้ำตั้งแต่ 4 เดือน เราเองก็ไม่เห็นด้วย คือความคิดเราก็กลัวว่าลงไปแล้วเด็กจะหายใจไม่ออก เขาจะหายใจเองไม่เป็น เราก็บ่นว่าประหลาดนะลูกอายุแค่ 4 เดือนเองเอารูปไปลงน้ำ แต่คือพ่อแม่เขารู้กันไง แต่เราไม่รู้ไงเพราะเราเป็นคนโบราณไง อย่างเรื่องที่ให้ลูกกินข้าวเอง เราเองก็ไม่เข้าใจในตอนแรกว่า ทำไมไม่ป้อน แต่เขาก็มีวิธีการเลี้ยงแบบของเขา”
“เราก็ทำความเข้าใจ เขาก็มาบอกเราว่าแม่ทุกอย่างมันต้องมีการพัฒนาเด็กเองเขาก็ต้องเรียนรู้เราก็มี แอบคิดนะว่าครอบครัวคนอื่นเขาเป็นแบบนี้ไหม และเราก็คิดว่าครอบครัวคนอื่นก็คงเป็นแบบนี้เหมือนกัน เพราะมันมีความแตกต่างในเรื่องของวัย เพราะตอนสมัยของเราเรียนว่ายน้ำ เราเรียนเหมือนลูกหมาตกน้ำ คือว่ายเองตกน้ำไปก็ตีๆ ตะกุยเองแม่ไม่ได้มาสอนไม่ได้มีครูมาคอยสอนมันไม่เหมือนสมัยนี้ สมัยนั้นเวลาตุ๊กตาตกน้ำไปคือเราจะเอาตุ๊กตาก็ต้องกระโดดลงน้ำไป กลัวตายก็กลัวก็ว่ายเป็นลูกหมาตกน้ำเพื่อจะเอาตุ๊กตา”
ปรับความเข้าใจในการเลี้ยงหลานกับลูกชายยังไงบ้าง?
จิ๊ก : “ก็คือคุยกันแล้วก็ทำความเข้าใจกันยอมรับ ว่ามันก็มีบางส่วนที่เรายังไม่เข้าใจแต่เราก็ไม่เข้าไปยุ่งไง เพราะว่าเขามีครอบครัวของเขาคือเจเจ ถึงจะเป็นลูกของเราก็จริง แต่เมื่อเขาตัดสินใจแยกบ้านไปสร้างครอบครัวของเขา มันก็ต้องเป็นหน้าที่ของเขาแล้ว เราเองจะเข้าไปยุ่งมันก็ไม่ควร คือเราอาจจะไม่ได้ยอมรับในการเลี้ยงลูกของเขา 100% แต่เราก็เคารพในการตัดสินใจของเขา เราต้องปล่อยเขา เพราะมันเป็นครอบครัวของเขา”
เจเจ : “เราก็บอกแม่ว่าเราเองก็มีวิธีของเราในการเลี้ยงลูกเราก็อยากให้คุณแม่เคารพ ซึ่งคุณแม่เองเขาก็ไม่ได้จะว่าอะไร เขาก็โอเค แต่เราก็รู้แหละว่าบางอย่างเราเห็นสีหน้าเขา ว่าเขาไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ในบางครั้ง คุณแม่เองเขาก็มีมุมดุเขาจะใช้เสียงดุ”
จิ๊ก : “คือหน้าตาเราตอนเอาจริงคนจะเห็นแล้วจะกลัวว่าดุจัง แต่จริงๆ แล้วไม่ คือเราเป็นคนพูดตรง และเป็นคนที่พูดจริง แล้วก็เป็นคนที่ทำจริง คนก็อาจจะกลัวอย่างเวลาที่เราพูดดุๆ ลูกเองเขาก็ไม่ชอบ เราเองก็ไม่ชอบ มันก็เลยเกิดความที่ไม่เข้าใจกัน”
แล้วกับลูกสะใภ้ล่ะ?
จิ๊ก : “เขาสองคนผัวเมียก็ไปเทรนกันเอง”
เชอร์รี่ : “คือเราเองก็ไม่ได้เถียงกับคุณแม่ก็จะให้สามีไปเป็นกระบอกเสียงให้”
จิ๊ก : “อย่างลูกสะใภ้เขาไม่ชอบอะไรเรา เขาก็จะบอกลูกชายเรามา เพราะว่าแฟน เขาก็ลูกเรา ลูกเราก็จะเจี๋ยมเจี้ยมมาแล้ว คือเรารู้เลยว่าเดินคอตกมา เมื่อก่อนเราเข้าใจ ก่อนที่เขาจะแต่งงานกันเราเข้าใจเลยแต่ ณ วันนี้เมื่อเขาแต่งงานมีครอบครัวมีลูกแล้ว เราเองก็ต้องเข้าใจ ว่าพื้นที่อันนั้นมันเป็นพื้นที่ของเขา เราไม่ควรเข้าไปเกี่ยว คือเมื่อก่อนเราเข้าไปเกี่ยว เพราะเราอยากให้เขาเป็นสะใภ้ที่น่ารัก เป็นสะใภ้ที่ดีรักเราเอาใจเรา แต่พอเราหันไปมองมุมนึง ว่าเขาถูกเลี้ยงมาแบบนี้ ครอบครัวเขาเลี้ยงเขามาแบบนี้ ในเมื่อเขามาเป็นสะใภ้เรา”
“เขารักลูกเราดูแลลูกเรา แล้วทำไมเราต้องกลายพันธุ์ให้เขามาเป็นคนที่รักเราล่ะ มันไม่จำเป็นแล้วไง แต่เมื่อก่อนที่คิดแบบนั้นเลยแต่ ณ บัดนี้ไม่คิดแล้ว เราไม่สามารถไปเปลี่ยนนิสัยผู้หญิงคนนี้ ให้เขาเป็นแบบนี้ได้เพราะว่าอะไร เพราะว่าเขาใช้ชีวิตกันสองคนเราไม่ได้เข้าไปก้าวก่าย แต่ถ้าเราเข้าไปก้าวก่ายครอบครัวเขาพังพินาศ แล้วอันนี้ก็คือลูกเราที่เรารัก แล้วเราต้องการให้ครอบครัวของลูกเราพังหรอ ในเมื่อเรารักลูกเรา เราก็ต้องรักลูกสะใภ้ด้วย แต่มันก็มีบางอารมณ์ที่เขาไม่เข้าใจเรา เราก็ต้องเดินถอยออกมา อย่าเคลียร์ แล้วไอ้ที่จะไปพูดว่า ฟังนะฉันบอกอย่างนั้นอย่างนี้เธอต้องฟังฉัน อย่าทำอย่าพยายามที่จะไปเคลียร์เพราะถ้าเคลียร์ปุ๊บพังปั๊บจบเลย เราจะเสียทั้งหลาน เราจะเสียทั้งลูก เราจะเสียทั้งหมดทุกอย่างเลย เมื่อลูกเราไปมีครอบครัวมีหลาน มันทำให้ความคิดเราเปลี่ยนไปเลยคือตั้งแต่มีโนอาห์เราก็เปลี่ยนเลย”
แต่เห็นว่ามีช่วงเวลาที่ไม่ถูกกันด้วย?
จิ๊ก : “พี่ก็พยายาม คือแม่กับลูกมันเป็นของธรรมดาที่จะไม่ค่อยกินเส้นกัน มันเป็นเรื่องธรรมดา ลูกก็ไม่อยากให้แม่เข้ามาวุ่นวาย ตัวแม่ก็เป็นห่วงลูกก็เข้าไปวุ่นวายกับเขามันคือความเป็นแม่”
เห็นว่ามุมของการทำงานก็เปลี่ยนด้วย?
จิ๊ก : “คือเมื่อก่อนนะงานแค่ 20,000 บาทซ้อนมอเตอร์ไซค์ใส่หางม้าติดขนตาปลอมไปถึงสมุทรปราการ เพื่อไปรับเงิน 20,000 บาท เกาะท้ายเขาไป หลับตาด้วยนะ ว่าเมื่อไหร่จะถึงคือถ้ารถมอเตอร์ไซค์ที่เรานั่งไปมันคว่ำก็คือก็ตายไปแล้ว เพื่อไปหวังเงินแค่ 20,000 บาท นั่นคือสมัยอดีต แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว เราจะเลือกตัดสินใจเลยว่าอะไรที่เราไม่ทำ เพราะว่าไม่เหมาะ อันนี้ไม่ไปเพราะไม่ใช่อันนี้ทำ เพราะมันดูดี ดูดีคือการที่เราทำแล้วเรามีความสุข”
วันนี้พอมองย้อนกลับไปดูตัวเองในอดีตเป็นยังไงบ้าง?
จิ๊ก : “อดีตกับตอนนี้เราว่าเราต่างกันต่างกันโดยสิ้นเชิง เมื่อก่อนอดีตเราแต่งเนื้อแต่งตัวเยอะมาก มาปัจจุบันนี้เราย้อนกลับไปดูรู้สึกอุ๊ยตายกูทำไปได้ยังไง เมื่อก่อนใส่รองเท้าสูง 6 นิ้วกระโปรงสั้นจุ๊ดจู๋ทำตัวให้กุ๊กกิ๊กอะโนเนะ”
เจเจ : “คือมุมมองของผม แม่เมื่อก่อนกับแม่ตอนนี้ตั้งแต่มีโนอาห์ผมรู้สึกว่าคุณแม่มีความสุขมากขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าเมื่อก่อนเขาไม่มีความสุขนะคือ เมื่อก่อนเขาก็มีความสุข แต่เวลาเขาเจอโนอาห์สีหน้าเขาจะยิ้มและรู้เลยว่าเขารักโนอาห์มาก”