ใกล้ออกอากาศแล้ว “หยดฝนกลิ่นสนิม” (Petrichor The Series) ซีรีส์ยูริของ “มิสแกรนด์ MGI” ที่ผลิตโดย “ทีวี ธันเดอร์” ซึ่งได้สองสาวสวยคู่จิ้นตัวแม่ ‘อิงฟ้า วราหะ’ และ ‘ชาล็อต ออสติน’ มาร่วมจอกันอีกครั้ง ในลุกส์ตำรวจสืบสวนสอบสวนและแพทย์นิติเวช
วันนี้จังหวะดีได้จับเข่าคุยกับ ‘อิงฟ้า วราหะ’ หนึ่งในนักแสดงหลัก ถึงการแสดงและการร้องเพลงประกอบซีรีส์ยูริเรื่องดังกล่าว รวมถึงดราม่าเวทีประกวดมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2024
★ อัพเดตซีรีส์ “หยดฝนกลิ่นสนิม” หน่อย?
อิงฟ้า – “จะได้ชม 23 พฤศจิกายนนี้แล้ว เวลา 21.00 น. ทางช่อง ONE31 และ iQIYI ทุกวันเสาร์ ตื่นเต้นค่ะ เรื่องนี้่ท้าทายมากๆ จริงๆ เราก็เล่นมาหมดแล้ว โสเภณีก็เล่นแล้ว คนไม่มีสัญชาติก็เล่นมาแล้ว บาร์เทนเดอร์ก็เล่นแล้ว แต่เรื่องนี้เล่นเป็นตำรวจ ค่อนข้างยากนิดนึงสำหรับการเป็นผู้หญิง แต่เราก็มั่นใจว่าเราทำเต็มที่แล้วก็ทำออกมาได้ดี หวังว่าหลายคนจะชอบกับบทบาท สารวัตรตุลย์”
★ ทำการบ้านอะไรเป็นพิเศษไหม?
อิงฟ้า – “ทำเยอะเลยค่ะ อันดับแรก ทางทีมงานพาไปเรียนรู้จากหน้างานจริงที่กรมตำรวจนครบาล ในเรื่องการสืบสวน เราก็ดูจำท่าทางการเดิน การพูด การล็อกผู้ต้องหา การจับกุม รวมถึงคำศัพท์ตำรวจที่ต้องเรียนรู้และพูดให้คล่องปาก ถือว่ายาก
เราต้องเปลี่ยนการเดิน เพราะเราเดินทิ้งสะโพกมาตลอดเพราะเราเป็นนางงามเนาะ หลังๆ แฟนคลับก็พูดกันเป็นเสียงเดียวว่า พี่ฟ้าเริ่มเดินไม่เป็นนางงามแล้ว หลังๆ มาใส่แต่สูทออกงานเพื่อปรับการเดินให้ชินแบบนี้ ก็ทำได้”
★ พอเห็นตัวเองในลุกส์นี้เป็นยังไง?
อิงฟ้า – “ตอนแรกคิดว่าเราจะได้เหรอ เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่รู้สึกว่าเมกอัพไม่ได้เยอะ แต่ความเป็นตำรวจไทยกับในซีรีส์หรือในนิยายจะไม่เหมือนกัน อย่างในเรื่องนี้จะมีรูปแบบตัวละครของเขาที่เป็นลักษณะของสารวัตรตุลย์ แต่พอตัวละครนี้มีชีวิตจริงๆ เสื้อผ้าหน้าผมไม่น่ารักเลยอ่ะ เราต้องรวบผม ก็เป็นอีกลุกส์ที่สมาร์ตและเท่มาก ชอบนะ”
★ ได้มาเล่นกับชาล็อตด้วย เป็นยังไงบ้าง?
อิงฟ้า – “เป็นเคมีระหว่างตำรวจแล้วก็หมอ เป็นอีกเรื่องที่เราเห็นการพัฒนาของน้อง เหมือนต่างคนต่างไปร่วมงาน ไปแสดงภาพยนตร์ ละคร พอมาเจอกันฝีมือของพวกเรามีความพัฒนาขึ้น แต่เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เลิฟซีนดูมีความเป็นผู้ใหญ่ เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน”
★ คำว่าเอาเรื่องคือยังไง จะหนักหน่วงรึเปล่า?
อิงฟ้า – “ใช่ ปกติแฟนคลับจะเรียกหนูบ้อกแบ้ก แต่ละเรื่องเราจะมีความเขิน แต่เรื่องนี้จะมีความเป็นทั้งน้องหมาและน้องเสือในเวลาเดียวกัน เหมือนเพิ่มความกร้าวใจขึ้นไป”
★ แฟนรอแล้วล่ะ?
อิงฟ้า – “คิดว่าเขาอาจจะยังไม่เคยเห็นอิงล็อตในพาร์ตนี้”
★ เขินกันไหมตอนเล่น?
อิงฟ้า – “ไม่เขินเลย แปลกมาก เรื่องแรกมีความเขินกัน แต่พอมาเป็นเรื่องนี้การถ่ายง่ายกว่าที่คิด เหมือนเราเอาตัวเองเข้าไปเป็นตัวละคร มันอินไปพร้อมกัน”
★แอ๊กชั่นและเลิฟซีนเข้มข้น?
อิงฟ้า – “ค่ะ ทุกสัดส่วน เพราะตอนที่ถ่ายกันก็ค่อนข้างไม่ได้มีคิวถ่ายเยอะ แต่ในหนึ่งวันเขาก็อัดคิวกันเต็มที่ ล้าบ้าง แต่ทุกคนสู้กันมากจริงๆ ทั้งนักแสดง ทีมงานเพื่อให้มันออกมาดี”
★ ถ้าเอ่ยชื่อ ‘อิงฟ้า’ ในเรื่องของการแสดง เราก็มีศักยภาพสูงเหมือนกัน ผลงานที่ออกมาหลายคนก็จะคาดหวัง มีความกดดันไหม?
อิงฟ้า – “ก็นิดนึงค่ะ ส่วนมากจะเป็นแฟนๆ นิยายมากกว่า เรื่องนี้จะมีแฟนนิยายของเขา มันก็จะมีหลากหลายเสียงที่รอว่าเราจะเล่นออกมายังไง แต่สำหรับตัวหนู หนูทำเต็มที่ที่สุดแล้ว ก็เป็นสารวัตรตุลย์ที่มีชีวิตจริงๆ ที่เราสร้างขึ้นมา และด้วยเนื้อเรื่องก็คือทำให้เราเห็นอะไรหลายๆ อย่างในสังคม”
★ อยากบอกอะไรกับแฟนนิยายล่วงหน้า?
อิงฟ้า – “ขอให้เข้ามาดูแล้วกัน ทำเต็มที่ที่สุดขอบคุณโอกาสจากทางผู้ใหญ่ด้วยที่เล็งเห็นความสามารถของเรา เราทุ่มกันสุดตัวจริงๆ”
★ นอกจากแสดงแล้ว ยังร้องเพลงประกอบซีรีส์ “หยดฝนกลิ่นสนิม” ด้วย?
อิงฟ้า – “ค่ะ ยากมากๆ แต่ความโชคดีคือได้พี่อิน (บูโดกัน) มาช่วยคุมการร้อง ซึ่งเพลงนี้ที่ยากน่าจะเป็นเรื่องคีย์มากกว่า คีย์จะมีความโดดไปโดดมา คำต้องมีความกระชับมากขึ้น และอารมณ์เพลงด้วย เหมือนเราต้องดึงตัวละครนั้นออกมา”
★ เห็นว่าตอนเดินออกมาจากห้องอัดบอกว่าจะร้องไห้แล้ว คือมันยากหรือซึ้ง?
อิงฟ้า – “รู้สึกว่าเพลงนี้เข้ากับชีวิตเราเหมือนกันเรื่องของความรักอะไรแบบนี้ หนูเชื่อว่าปล่อยเพลงนี้ออกไป ก็น่าจะมีคนฟังแล้วรู้สึกเหมือนเรา”
★ เพลงนี้เล่าเรื่องราวอะไร?
อิงฟ้า – “เป็นเรื่องความเชื่อใจ เหมือนการใช้ชีวิตของเราเจอความรักหลากหลายรูปแบบมาก ส่วนมากจะเป็นเรื่องความผิดหวัง แต่พอเราเริ่มจะเปิดใจให้ใครสักคน คือพิสูจน์ให้เห็นได้ไหมว่าความรักของเธอจะไม่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนที่เคยรู้สึกมา ก็ไม่เชิงอกหักร้อยเปอร์เซ็นต์ มันแอบมีความหวังอยู่ท้ายเพลง
ตอนได้ยินครั้งแรกทัชใจมาก ตอนนั้นถ่ายอยู่ที่กองคือชอบเลย ชอบทุกคำที่ร้อง รู้สึกร้องออกมาแล้วเข้าปาก ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในการร้องแนวนี้ ปกติร้องแต่เพลงลูกทุ่งหรือเพลงที่ไม่ได้ออกแนวร็อกมากๆ ก็จะมีความยากนิดนึงค่ะ
อยากให้คนเห็นและรักซีรีส์เรื่องนี้เยอะๆ เรื่องราวจะแอบเฉลยอยู่ในเพลง มันก็มีความเป็นอิงฟ้าเหมือนกันนะ เพราะว่าเพลงนี้ปล่อยออกไปคนจะเอาไปลองโคฟเวอร์เยอะๆ”
★ ย้อนถามถึงดราม่าการประกวด มิสแกรนด์ อินเตอร์ เนชันแนล 2024 (MGI 2024) ปีนี้เยอะมาก?
อิงฟ้า – “เห็นใจมากกว่าค่ะ ถ้าได้เห็นกันปีนี้จะแตกต่างจากทุกๆ ปีที่ได้ทำมา ความอลังการ การลงทุนต่างๆ เรื่องแสง สี เสียง เสื้อผ้า รวมถึงการเก็บตัวที่มีการเปลี่ยนแพลนกลับมาประเทศไทย ตอนนั้นมีการตั้งรับกันแบบกะทันหัน รู้สึกเห็นใจบอส (ณวัฒน์ อิสรไกรศีล) หนึ่งสิ่งที่เราเห็นคือบอสสู้มาก ไม่ว่าจะเจอปัญหารูปแบบไหน พร้อมตั้งรับและแก้ไข รู้สึกชื่นชมในตัวบอสและทีมงานมากๆ”
★ อยู่กับมิสแกรนด์มานาน เคยเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้ไหม?
อิงฟ้า – “ครั้งแรกเลยค่ะ เพราะปีที่เราไปประกวด MGI ที่ประเทศอินโดนีเซีย ทุกอย่างโฟลวมาก ผู้คนและทีมงานดีไปหมด แล้วเป็นมืออาชีพ ครั้งนี้เจอครั้งแรกที่ได้เห็นรูปแบบการเปลี่ยนกะทันหัน แอบตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น”
★ เปลี่ยนสถานที่ว่าหนักแล้ว รอบไฟนอลเจอดราม่าช็อตกระชากมงเข้าไปอีก?
อิงฟ้า – “อันนั้นตกใจค่ะ เพราะจริงๆ ส่วนตัวเรา ได้เจอกับน้อง (แตแต มิสแกรนด์เมียนมา) และ ND ของเขาก่อนจะประกวดอีก สิ่งที่รู้สึกชื่นชมน้องหนึ่งอย่างคือเขาเป็นคนทำคอนเทนต์เก่ง รู้ว่าต้องทำอะไรบ้างก่อนประกวด มีมาเจอเราก่อน มาให้กำลังใจเอาดอกไม้มาให้ตอนเราเปิดตัวหนัง งานอะไรที่จัดก่อนการประกวด MGI น้องจะมาแสดงความยินดีเสมอ น้องรู้งาน บอกเลยแอบเป็นหนึ่งในโพลในใจว่า Top3 ต้องมีเขาแน่ๆ ในเอเชีย แล้วด้วยรูปร่างหน้าตา ความมีเสน่ห์ จริงๆ ส่วนตัวไม่รู้ว่าในกองเป็นยังไง แต่ตอนเห็นคลิปต่างๆ ก็แอบตกใจในเรื่องความเป็นมืออาชีพในการรับมือ
ต้องบอกก่อนว่า ประเทศไทยก็ยังไม่เคยไปถึงขั้นที่มีมง MGI เลย แต่เราต้องรับให้ได้กับสิ่งที่เกิด ต้องเรียนรู้ว่าคนที่จะได้ตำแหน่ง 1 2 3 4 5 ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องดูหลากหลายอย่าง”
★ ตอนที่แตแตออกมาแถลง แล้วมีประโยคพูดว่า “มาเพื่อเป็นที่ 1 และเชื่อว่าตัวเองต้องได้รับตำแหน่งที่สูงกว่านี้” ได้ยินแล้วรู้สึกยังไงบ้าง?
อิงฟ้า – “ทุกคนมาเพื่อเป็นที่ 1 อยู่แล้ว เพราะเราเป็นตัวแทนของแต่ละประเทศ ไม่ผิดที่ใครจะคิดแบบนั้น แต่สุดท้ายต้องมีน้ำใจนักกีฬา อย่างปีที่เราประกวด ในใจเรายังภาวนาไม่ให้ตัวเองชนะเลย เพราะรู้สึกว่าอีกคนหนึ่งเหมาะสมกว่า เราต้องรู้ว่าตลอดระยะเวลาการเก็บตัวมา เราพลาดอะไรบ้าง เราเด่นเราด้อยตรงไหน แล้วคนที่เหมาะสมที่สุดคือใคร จริงๆ การประสบความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่งด้วยซ้ำ มันอยู่ที่การต่อยอดของแต่ละคน”
★ สุดท้ายให้ฝากถึงแฟนนางงามที่อาจจะดราม่ากันเยอะ?
อิงฟ้า – “เรื่องมาตรฐานการประกวดต้องดูระดับสากล บางทีในมุมมองของประเทศเราหรือเอเชีย อาจมองว่าแบบนี้สวย แบบนี้ไม่สวย แต่คนละตินเขาจะมีมุมมองอีกแบบนึงว่าแบบนี้ไม่สวย แต่อาจจะสวยสำหรับเราก็ได้ เพราะฉะนั้นไม่มีจุดหลักว่าใครสวยกว่าใคร แต่สุดท้ายต้องดูภาพองค์รวม ทั้งการต่อยอดด้วย จุดนี้ชัดอยู่แล้วของความเป็นมิสแกรนด์ว่าเราดูอะไรบ้าง การดูมิสแกรนด์ก็จะต้องดูแกรนด์ให้เป็นแกรนด์อีก
แต่เรื่องดราม่าอะไรที่เราเจอเชื่อว่าบอสคงชินแล้ว เพราะมีทุกปี อยู่ที่ว่าจะเป็นแบบไหน แต่เราก็พร้อมตั้งรับและมูฟออน สุดท้ายแล้วเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์”
จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล
