เรียกว่าพลิกบทบาทการแสดง มาท้าฝีมือใน “พนอ” ภาพยนตร์ไสยศาสตร์ ต้นกำเนิดของภาพยนตร์ “ลองของ 1-2” สำหรับนักแสดงสาว ‘เฌอปราง อารีย์กุล’ และนักแสดงหนุ่ม ‘แจ๊คกี้’ จักริน กังวานเกียรติชัย
โดยวันนี้โอกาสดีได้พูดคุยกับทั้งคู่ ถึงภาพยนตร์ไสยศาสตร์ชวนสยองเรื่องนี้
• ในภาพยนตร์ “พนอ” รับบทเป็นอะไรกัน?
เฌอปราง – “เฌอรับบท พนอ ค่ะ เป็นตัวดำเนินเรื่อง เรื่องนี้เล่าเกี่ยวกับตัวละคร ครูพนอ ในภาพยนตร์ ลองของ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ตำนานหนังสยองขวัญที่ทุกคนติดตราตรึงใจกับคาแร็กเตอร์ครูพนอ แล้วมีข้อสังสัยว่าทำไมครูพนอถึงมีพลังขนาดนั้น ทำไมรู้จักไสยศาสตร์ เขาก็เลยนำมาเล่าในแบบที่เรียกว่าภาคสปินออฟภาคใหม่ เป็นจักรวาลลองของ แต่เล่าถึงตัวคาแร็กเตอร์ของครูพนอโดยตรง ก็เลยเป็นชื่อ พนอ ขึ้นมา ตัวละครนี้เฌอได้แสดงเป็นเขาตั้งแต่เด็กๆ”
แจ๊คกี้ – “ส่วนผมเป็น เปี๊ยก ครับ เป็นเพื่อนพนอ จริงๆ เป็นเหมือนนักเลงทวงหนี้ในหมู่บ้าน”
• ตอนได้รับการติดต่อไป คิดนานไหมกว่าจะรับเล่น?
แจ๊คกี้ – “ของผมไม่นานเลย อยากลองแคสต์บทอะไรแบบนี้อยู่แล้ว เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกด้วย อยากลองดู ทำเต็มที่”
เฌอปราง – “เฌอก็คล้ายๆ กันค่ะ ไม่น่าจะมีบทอะไรแบบนี้มาให้เล่นง่ายๆ อีกแล้ว เพราะตัวละครเฌอมีตั้งแต่ตอนเด็ก ตอนโดนคนทำร้าย ถูกกระทำ แล้วก็เปลี่ยนกลายเป็นคนกระทำ ความที่คาแร็กเตอร์ไม่ได้ขาวไม่ได้ดำขนาดนี้ มันไม่ค่อยมีโอกาสได้เล่นง่ายๆ ที่เราจะสามารถเล่นเป็นตัวละครที่แรง ทำร้ายคนอื่น เลยรู้สึกว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิต แล้วยิ่งเป็นตำนานของทุกคนด้วย เป็นตัวละครที่พี่มัดหมี่ (นภคปภา) เคยเล่นใน ลองของ ก็เลยลองดู แค่แคสต์ก็สนุกแล้ว เพราะว่าฉันได้เล่นบทอะไรที่ไม่ปกติอะ”
• เฌอปรางยอมตัดผมสั้นเพื่อเล่นเรื่องนี้?
เฌอปราง – “ใช่ค่ะ ผู้กำกับฯ บอกตั้งแต่วัน ไปแคสต์แล้วว่าต้องตัดผมสั้น ตอนแคสต์ยังผมยาวอยู่ แล้วเขาถามว่าตัดผมสั้นได้ไหม เฌอก็แบบดีเลยพี่ อยากตัดพอดี ช่วงนี้ร้อน เหมือนเป็นการเปลี่ยน ลุกส์ไปด้วย คนนี้ก็ย้อมดำ (ชี้ไปที่แจ๊คกี้)”
แจ๊คกี้ – “ใช่ครับ ผมย้อมสีดำ”
• แจ๊คกี้เป็นการเล่นภาพยนตร์เรื่องแรก เป็นไงบ้างโปรเจ็กต์นี้?
แจ๊คกี้ – “ตื่นเต้น ดีใจมากๆ แล้วก็เหนื่อยมากๆ เพราะเป็นเรื่องที่เล่นเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติ เกี่ยวกับไสยศาสตร์ มนต์ดำ เป็นสิ่งที่เราต้องจินตนาการขึ้นมาเอง สมมติเราโดนเล่นของ เราต้องรู้สึกหรือแสดงออกอย่างไร แล้วก็เป็นเรื่องที่ต้องมอมแมมทุกวันเลย แต่วันนี้อาบน้ำแล้ว เปี๊ยกอาบน้ำแล้วครับ”
• เรื่องนี้มีการทำการบ้านยังไง?
เฌอปราง – “ทำเวิร์กช็อปค่ะ ต้องปูพื้นฐานตัวละคร เพราะเป็นเรื่องราวที่ไม่มีความทรงจำอยู่กับเขาเลยว่าตอนเด็กเขาโตมายังไง”
แจ๊คกี้ – “ต้องปูแบ๊กกราวด์ใหม่”
เฌอปราง – “ทำการบ้านกับเรื่องราวก่อนหน้านั้นเยอะๆ แต่จริงๆ เฌอมองว่ามันมีเรื่องเยอะกว่านั้นมากๆ ในตัวบท มันเล่ามาอย่างเต็มที่ แล้วรู้สึกว่าเรา 2 คนมอมกันเยอะมาก ช่วงก่อนที่จะเทิร์นแล้วจังหวะที่เขายังไม่เทิร์น เรียกว่าเปลี่ยนร่างละกัน มันเยอะมากจริงๆ ที่ทำงานกันไป แล้วยิ่งในเวิร์กช็อปเขาสร้างความทรงจำที่เป็นคนโดนบูลลี่ โดนทุกคนรังเกียจมาโดยตลอด
เฌอต้องเข้าเวิร์กช็อปกับทุกคนที่เราเกี่ยวข้อง ซึ่งก็มีแจ๊คกี้ พี่น้ำตาล (ชาลิตา) ที่แสดงเป็นนวลแม่ของพนอ มิ้ม (รัตนวดี) แสดงเป็นจิ๊บ แบงค์ (ณฐวัฒน์) เป็นป้อง แล้วอีกคนที่สำคัญคือ เพอซ (นันทวรรณ) ที่แสดงเป็นแต้วค่ะ ทุกคนมีความสำคัญกับตัวพนอ พนอถูกเกลียดโดยสังคมหมู่บ้านนั้นมากๆ จะมีแค่ไม่กี่คนที่ทำให้เขาแบบ ถึงแม้จะโดนเปี๊ยกเกลียดนะ (ชี้ไปที่แจ๊คกี้) แต่ก็คอยเป็นห่วงเขา”
แจ๊คกี้ – “เจ็บมาก”
• สองคนถือเป็นเด็กรุ่นใหม่ ปกติเชื่อพวกไสยศาสตร์ไหม?
เฌอปราง – “เป็นคนไม่ลบหลู่ค่ะ สำหรับหนูคำว่าไม่ลบหลู่ก็แปลว่ามีความเชื่อนิดๆ แต่เราไม่ได้แบบต้องทำตามเป๊ะๆ ทำเพื่อความสบายใจของคนที่เชื่อในสิ่งเหล่านี้มากกว่า เรารู้สึกว่าเราก็ไม่ได้ติดอะไรที่จะไม่ทำ เผื่อมันมีจริงก็เชื่อไว้ระดับนึง แต่ไม่ได้เทกแบบซีเรียสมาก หรือกล้าไปพูดกับใครว่า มีจริง เราแค่เป็นคนไม่ลบหลู่ค่ะ ใช่ไหม”
แจ๊คกี้ – “ใช่ๆ แจ๊คกี้ก็เหมือนกันครับ”
• ในกองบรรยากาศเป็นยังไงบ้าง?
แจ๊คกี้ – “เต็มไปด้วยความน่ากลัวและสนุกสนาน เพราะทุกอย่างใหม่มากสำหรับทุกคน ไหนเราจะต้องทำเอฟเฟ็กต์ ซีนนี้จะต้องมีซีจีเข้ามาด้วย ไหนจะต้องเล่นกับสัตว์แปลกๆ เยอะไปหมด”
• เป็นครั้งแรกที่มาร่วมงานกัน เป็นไงบ้าง?
เฌอปราง – “จริงๆ เข้าฉากด้วยกันเยอะ แต่สุดท้ายตัวละครมันเกลียดกัน (หัวเราะ) หมายถึงเขาเกลียดเรา เราไม่กล้าอะไรกับเขา ด้วยความที่เป็นพนอ เราก็เลยไม่ค่อยได้เจอเขา”
แจ๊คกี้ – “มันมีสเปซนิดนึง แต่ก็ต้องรอติดตามว่าจริงๆ แล้วเราอาจจะสนิทกันก็ได้ หรือเปล่าไม่แน่ใจ”
เฌอปราง – “ทำงานกับแจ๊คกี้สนุกค่ะ ช่วงแรกๆ เพิ่งมาเจอ น่าจะเจอกันหลายครั้งก่อนที่จะรู้สึกว่าเเจ๊คกี้จริงๆ ก็กวนเหมือนกัน แกล้งคนในกองบ่อย เราก็โอเคน้องแค่เป็นคนหน้านิ่ง คือนิ่งแค่ตรงนี้แหละ อย่าให้เล่นมุข อย่าให้ได้หยอด แต่จะเป็นคนหยอดแล้วหน้านิ่ง บางทีจะรู้สึกแบบนี่เล่นกันอยู่ใช่ไหม”
แจ๊คกี้ – “ไม่มีอะไรแก้ตัวครับ ยอมรับทุกอย่างฮะ (หัวเราะ)”
• ร่วมงานกับพี่เฌอเป็นไงบ้าง?
แจ๊คกี้ – “พี่เฌอเป็นคนที่แจ๊คกี้นับถือคนหนึ่ง เป็นคนที่ทำการบ้านมาค่อนข้างเยอะ แล้วเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง เวลาเขาสวิตช์คาแร็กเตอร์ให้เข้าเป็นพนอ ก็ทำให้เราเชื่อได้ว่าเป็นพนอจริงๆ เวลาเขาต่อบทกัน หรือแสดงด้วยกัน ก็ทำให้เราอินไปกับสถานการณ์ในตอนนั้น”
เฌอปราง – “พอดีเป็นคนไม่ค่อยมีเอ็นเนอร์จี้ แสดงเสร็จแล้วจะปลีกตัวด้วยการหนีไปนอน เพราะในซีนใช้พลังงานเยอะมาก”
แจ๊คกี้ – “แต่เวลาแอ๊กชั่นปุ๊บ คือแบบปึ้ง อยู่ๆ เอ็นเนอร์จี้ก็มา”
• ตอนที่พี่เฌอปรางนอน แจ๊คกี้ทำอะไรอยู่ตอนนั้น?
แจ๊คกี้ – “เล่นเกมครับ แล้วก็มีเซฟพลังงานด้วยการนอนเหมือนกัน ไม่นอนก็กิน”
• พูดถึงความสยองขวัญ ตอนดูจะต้องปิดตาดูเลยไหม?
เฌอปราง – “เฌอมีจังหวะปิดตา หนูไม่รู้คนอื่นนะ แต่เฌอไม่ไหว บางทีตกใจหลุดเสียงอุทาน แล้วก็หลายอัน ไม่ได้เป็นซีจี อันที่เป็นซีจีก็ใช้ได้อยู่ บางอันก็โอ๊ะ ทำไมมันสุดจัง แบบดึงเล็บ นู่นนี่นั่น น่ากลัวจังเลย”
แจ๊คกี้ – “ปิดนะ ปิดแต่ว่าอีกมือก็จกป๊อปคอร์นอยู่ แต่บางฉากมันไม่ไหวจริงๆ เราก็กรี๊ดออกมาเลย”
• พอเห็นผลงานตัวเอง คิดไหมว่าเราจะเล่นได้ขนาดนั้น?
แจ๊คกี้ – “ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะไปเบอร์นั้นได้เหมือนกันนะ เปลี่ยนบุคลิกไปเลย”
เฌอปราง – “จริง บุคลิกเปลี่ยนไปเลย”
• อย่างที่บอกว่านี่คือบทบาทที่เปลี่ยนไปมากๆ ต่างจากชีวิตจริง แฟนๆ ว่าอย่างไรบ้าง?
แจ๊คกี้ – “แฟนๆ ก็ชอบกันครับ ขอบคุณทุกคนที่ชมในตัวเปี๊ยก”
เฌอปราง – “ส่วนเฌอก็ดีใจที่มีคนบอกว่าเข้าถึง รู้สึกว่าเปลี่ยนไปเป็นเชื่อมกับพนอ หรือรู้สึกว่าแววตามันเปลี่ยนไปได้ ก็ขอบคุณค่ะ ดีใจที่ทำให้คนเชื่อได้ในระดับนึง ฝากไปดูด้วยนะคะ รับรองว่าได้รับความสนุกสนานและความมันจากหนังเรื่องนี้แน่นอนค่ะ”
แจ๊คกี้ – “ฝากด้วยนะครับ เข้าโรงแล้ว สามารถดูได้ทั่วประเทศ ดูแล้วคิดว่าทุกคนจะอยากรู้จักตัวพนอมากขึ้น แล้วก็อยากจะย้อนกลับไปดูลองของภาค 1 ภาค 2 อาจจะให้อะไรที่แปลกใหม่กว่าตอนที่ดูครั้งแรกก็ได้ครับ”
อชริญา บุญชู / กัณฑมาศ ธรรมณี