โย ยศวดี พอใจคนชมดูดีขึ้น อัพสวยในวัยเลขสี่ ปีทองได้งานใหญ่ ให้กำลังใจ ลูกหมี มั่นใจได้เงินคืน เผยทริคไม่ให้ใครยืม
แม้อายุขึ้นเลข 4 แล้วแต่ยังคงสต๊าฟความสวยไว้ แถมยังดูดีขึ้นมาก สำหรับนางแบบสาว โย ยศวดี หัสดีวิจิตร ที่ไปทำศัลยกรรมยกคิ้ว ล่าสุดมีโอกาสเจอเจ้าตัวที่มาร่วมงาน “มวยไทย เวิล์ด เฟสติวัล 68” ที่พารากอนฮอลล์ สยามพารากอน ลูกหมี ได้เปิดใจถึงการตัดสินใจอัพความสวย เรียกว่าเป็นปีทองของตนเอง มีงานเข้ามามากขึ้น พร้อมกันนี้ยังให้กำลังใจเพื่อนซี้ ลูกหมี รัศมี ที่กำลังประสบปัญหาทวงเงินลูกหนี้ ทั้งสงสารและชื่นชมเพื่อนอดทนมาก มั่นใจจะได้เงินคืน
ความสวยระดับตำนาน? “ตำนานค่ะ เราอายุไม่น้อยแล้วเนาะ เลข 4 แล้วอ่ะ ถ้าคิดจะทำอะไรตอนนี้โยว่ามันก็เป็นช่วงเวลาที่จะต้องทำ สิ่งที่ทำก็ไม่ได้แบบว่าเปลี่ยนแปลงจนคนเดินมาแล้วจำหน้าไม่ได้ คนชอบแซวว่าจำไม่ได้ เอาจริงๆ จำได้แหละ ก็อาจจะมีผิวเปลี่ยนไปนิดนึง มีความตึงขึ้น (ตึงขึ้นกว่าเดิม) จริงหรอ งั้นต้องขอบคุณคุณหมอ”
ตัดสินใจยากมั้ยก่อนไปทำ? “ไม่ยากค่ะ เพราะว่าเราแพลนไว้อยู่แล้วว่าอยากจะทำอะไรบ้าง ดึงคิ้วนิดนึง สิ่งที่ตั้งใจอยากจะทำมากที่สุด คือตอนบินไปเกาหลี แล้วไปเอาสารเหลวที่คางออก มันเป็นที่เดียวที่โยมั่นใจว่าเขาช่วยโยได้ คือโยมีปัญหาเรื่องนี้มา 20 ปี พอไปถึงเขาก็บอกว่าตอนนี้จะเป็นคางจริงแล้วนะ ตอนนี้ก็ยังพูดไม่ชัดอยู่ เพราะมันเพิ่งทำ 2 เดือนเอง ก็จะเป็นคางจริงแล้วเราก็ต้องปรับตัวว่าพอเป็นคางจริงแล้วเนี่ยมันจะเป็นยังไง”
พอใจกับหน้าตัวเองตอนนี้หรือยัง? “พอใจ แต่ว่าต้องใช้เวลาค่ะ คือจริงๆ หน้าอันนี้มองว่ายังมีความบวม ไม่ลงตัว ต้องดูอีกประมาณ 3-6 เดือน รวมๆ มาเนี่ยสิ่งที่ทำมาทั้งหมดยังไม่ถึง 3 เดือนเลย โยดึงคิ้วไปก็เพิ่ง 2 เดือนกว่า”
มีคนทักยังไงบ้างหลังจากที่ไปทำมาโดยรวมทั้งหมด? “เขาบอกว่าดูดีขึ้น ตาก็ดูสดชื่นขึ้น สมัยก่อนตามันจะดูเศร้าๆ นิดนึง พอเราอายุมากทุกอย่างมันจะดูโรยไปหมดเนาะ แต่พอมันเริ่มที่ตาได้ทุกอย่างมันก็สว่างขึ้น”
โหงวเฮ้งเปลี่ยนไปด้วยมั้ย เรื่องเงินเรื่องงาน? “ยังวัดไม่ได้ เพราะมันเพิ่งทำ(หัวเราะ) ขอดูปีนี้ก่อนนะคะ แต่ว่าปีนี้ก็ดีในเรื่องของธุรกิจ ตอนนี้โยไปทางสายกีฬาด้วย เป็นผู้จัดงานกอล์ฟทัวร์นาเมนต์ มีงานใหญ่ตลอดเลย และกำลังจะมีงานใหญ่วันที่ 24 มีนาคมนี้ ตอนนี้คิดว่ามันน่าจะดีนะ ปีนี้ก็ถือว่าเป็นปีทองปีหนึ่งค่ะ”
มันเปลี่ยนแปลงในตัวเองยังไงบ้าง? “อย่างแรกมันเปลี่ยนจิตใจตัวเองก่อน โยว่าพอเรารู้สึกดีกับตัวเอง คนรอบข้างก็จะรู้สึกดีกับเราด้วย เพราะเวลาเราไม่มั่นใจในหน้าตาบุคลิกภาพเรา คนรอบข้างก็จะสัมผัสได้ โยว่าอย่างแรกเลยเริ่มที่ตัวเราก่อนค่ะ”
อยากไปทำเพิ่มเติมอีกมั้ย? “พอเหอะ (หัวเราะ) พักก่อน คนจะเข้าใจผิดว่าโยไปดึงหน้า ยังไม่ได้ดึงนะคะ สเต็ปต่อไปคิดว่าการดึงหน้าน่าจะอีกสัก 2 ปี โยทำแค่การดึงคิ้วเรียกว่าเอนโดไทน์ ยังไม่ได้ดึงหน้าเลย ทำที่เมืองไทยและไปที่เกาหลีด้วยค่ะ”
ศัลยกรรมบ่อยมั้ย? “เอาจากใจเลยนะ เป็นคนชอบจิ้มมากกว่า แต่ว่าการใช้มีดน้อยมาก ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 หรือ 4 นี่แหละที่ใช้มีดผ่าตัด ถามว่ามูมั้ย โยว่าไม่มูนะคะแต่ว่าพยายามดูคุณหมอมากกว่าว่าสิ่งที่เขาทำมาคนนี้เราเชื่อใจในฝีมือเขาแค่ไหน อันนี้โยว่ามันสำคัญที่สุด”
ก่อนตัดสินใจทำมีความกังวลแค่ไหน? “กังวลค่ะ กังวลตอนไปเกาหลีมาก เพราะรู้ว่างานนี้ไม่ง่าย เพราะว่าคางโยมันค่อนข้างแหลมเยอะมาก คุณหมอก็จะทำให้ดูก่อนว่าตัดออกมาแล้วเป็นยังไงบ้าง ตอนแรกก็นอยด์ค่ะ แต่พอผ่านมาแล้วก็โอเคมันน่าจะดี ก็น่าพอใจนะ แต่ขอใช้เวลาดูอีกสัก 2 เดือน เมื่อมันเข้าที่ทุกอย่างแล้วมันจะเป็นยังไง”
คนในวงการบันเทิงโดนบ่อยมากเรื่องการยืมเงินไม่ได้คืน? “ประสบการณ์ส่วนตัวเราให้ญาติพี่น้อง เวลาคนที่เดือดร้อนแล้วเรารู้จริงๆ ว่าเขาเดือดร้อน แล้วรู้ว่าให้ไปแล้วได้คืน แต่กับคนที่ไม่สนิทกันบอกตรงๆ เลยไม่เคยให้ เขาก็คงไม่มากล้ายืมด้วยแหละ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคือเรามีเพื่อนสนิทที่เกิดเหตุการณ์แล้วยังเจอกันตลอด สงสารนะ เขาต้องเหนื่อยหลายอย่างมาก ทางที่ดีอย่าให้ใครยืมเลย”
ได้พูดคุยกันมั้ย? “พูดคุยค่ะ เพราะเพิ่งเจอไปตีกอล์ฟด้วยกัน ลูกหมีก็มาช่วยงานบ่อยมากก็ยังบอกเขาเลยว่า หมีเก่งมาก และอดทนมากเลย เป็นเราก็คงท้อใจพอสมควร โยว่าหมีค่อนข้างคอนโทรลได้ดี แล้วเขารู้ว่าเกมนี้เขาจะดำเนินยังไง โยมั่นใจว่าเขาจะได้เงินคืน คงอยู่ในเรื่องของการต่อรองกัน ทางนี้ก็เป็นกำลังใจให้ค่ะ”
ไม่ค่อยให้ใครยืม และไม่ยืมคนอื่น? “อย่าเลยค่ะ เหนื่อยใจ อย่าเลย”
มีวิธีรับมือคนที่จะมาขอยืมเงินเรายังไง? “เราดูก่อนดีกว่าว่าสถานการณ์คนที่มายืมเราเป็นยังไง เราสามารถสัมผัสได้แหละว่าเขาลำบากจริงมั้ย เราคงไม่มาให้ใครยืมเงินในขณะที่เขาดูมีเงินแต่เขาไม่สามารถไปทางอื่นแล้วเลือกเรา แต่เขามาในมุมที่ลำบากจริงเรารู้ชีวิตเขาจริงๆ ว่าลำบากก็ควรจะช่วย คนที่ให้ยืมก็ต้องมีสติด้วย บางครั้งมันออกไปแล้วมันไม่กลับมา ต้องคิดว่ากว่าเราจะได้มันมามันยากแค่ไหน จะปล่อยออกไปมันต้องมีคุณค่านะ สมัยนี้โยว่าการยืมเงินในส่วนที่เป็นข่าวส่วนใหญ่มักจะไม่ได้ให้ยืมแบบว่ามีความเดือดร้อนเนาะ เช่น ยืมไปเพื่อทำการค้า ทำธุรกิจต่อเนื่อง ก็อยากให้ดูนิดนึง ส่วนตัวโยครอบครัวเตือนอยู่แล้วไม่ให้ยุ่งอะไรแบบนี้อยู่แล้ว เบรกไว้ก่อนอย่าว่ากัน ทำธุรกิจทางนี้ไม่มีใครรวยค่ะ มีแต่เจ๊งกับเจ๊งพูดได้เลย”.