ขณะมาร่วมถ่ายทำมิวสิกวีดีโอ “เดิมพันที่ยิ่งใหญ่” ที่ สนามฟุตบอล ม.ราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา อาร์ต-พศุตม์ บานแย้ม เปิดใจกับผู้สื่อข่าวหลังเพิ่งผ่านพ้นวันเกิด(3พ.ย.) เผยแม่ซื้อมอเตอร์ไซค์ให้ พร้อมให้สัมภาษณ์เรื่องที่ตนโพสต์บอกหนุ่ม น็อต-อัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล หรือ “น็อต เวคคลับ” หนุ่มในคลิปกราบรถว่าให้รับแบบแมนๆ ดีกว่า
โดย อาร์ต เผยว่า “วันเกิดที่ผ่านมาผมไปแจกของที่สนามหลวง และก็ไปขี่มอเตอร์ไซค์รับส่งเหมือนตอนแรกๆ ถามว่ามีฉลองไหมก็มีจัดครับ แต่ว่าเป็นแบบเงียบๆ คือปกติแฟนคลับจะจัดให้แบบเอิกเกริกอยู่แล้ว เราก็จะบอกว่าไม่เอานะ ไม่จัดที่ไหน ไม่เป่าเค้ก ก็มีเหมือนกันที่จะเป่าเค้ก ผมก็ว่าเขาว่าอยากให้คนด่าพี่เหรอ ผมจะค่อนข้างดุนิดนึงกับแฟนคลับที่อาจจะทำไม่ถูก แต่เขาก็รู้ว่าผมเป็นยังไง ถ้าไม่คือไม่ อย่ามาฝืนในสิ่งที่ผมไม่อยากทำ”
แล้วเราบอกเขาไหมว่าเปลี่ยนมาทำบุญร่วมกัน
“ก็บอกผ่านทางไอจีครับ แฟนคลับเขาก็จะเอาของมาทำบุญร่วมกับเราด้วย เราไม่อยากไปเลี้ยงปาร์ตี้ฉลองเพราะว่าเราสูญเสียท่าน ที่ผมบอกว่าผมจะไม่เศร้าเมื่อพูดถึงท่าน ผมไม่ได้บอกว่าให้ทุกคนร่าเริงปกติ แต่ควรมีกรอบของการเศร้า ไม่ได้ฟูมฟาย แต่ก็ไม่ได้ดีใจจนลืมการสูญเสียครั้งนี้ไป”
มีของขวัญให้ตัวเองไหม
“ไม่มีเลยครับ มีแต่แม่ซื้อมอเตอร์ไซค์ให้ไว้ขี่รับส่งที่สนามหลวง และเราอยากได้ด้วยเพราะที่บ้านมีมอเตอร์ไซค์ทุกคนแต่ของเรามันเป็นตัวเล็ก แค่ 125 ซีซี แต่เราต้องขี่มาจากมหาชัยมาสนามหลวงทุกวัน แต่คันนี้ก็ให้แม่ไปแล้ว ส่วนคันใหม่เครื่อง 155 ซีซี ก็แรงขึ้นมานิดนึงครับ เราก็ไปแต่งเครื่องให้มันติดๆ มือหน่อยแค่นั้นเอง จริงๆ ที่ทำไม่ได้เป็นเด็กแว้น แต่ว่าเราขี่กลับพระราม 2 แล้วถ้าเราเจอพวกเด็กแว้นที่มาหาเรื่อง เราจะรู้สึกมีกำลังที่จะบิดรถหนีไปโดยหลีกเลี่ยงการปะทะได้ครับ”
หลายคนจะห่วงเรื่องมอเตอร์ไซค์ แต่คุณแม่เราไว้ใจถึงให้มอเตอร์ไซค์เป็นของขวัญ
“เรามีความรับผิดชอบพอที่จะรักษาชีวิตตัวเองได้ดีกว่า มอเตอร์ไซค์ใหญ่ผมก็ขับ 1,200 ซีซีด้วยซ้ำ แม่ยังให้ซื้อเลยครับ เขารู้จักว่าลูกตัวเองเป็นยังไงมากกว่า เรามีหน้าที่การงาน เลี้ยงดูพ่อแม่ เราคงไม่ไปแว้นเพราะไม่มีอะไรทำครับ”
ท่านมีอวยพรเป็นพิเศษไหม
“ไม่พิเศษครับ ปกติทุกปีทุกวัน ท่านจะบอกว่าโชคดีนะ มีคนรักคนชอบนะ แค่นี้เราดีใจแล้ว จริงๆ บ้านผมจะไม่มีวันเกิด วันปีใหม่ ทุกวันคือวันสำคัญหมด แต่วันเกิดอาจจะมีแฮปปี้เบิร์ธเดย์ในไลน์ครับ”
แล้วตอนนี้มีคนรักหรือยัง
“ยังครับ ไม่ใช่ไม่อยากมีนะ แต่อยากมีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์มากกว่า ถามว่าจะเล่นๆ ไปวันๆ มันก็ยังได้นะ แต่ว่าถ้าจะบอกใครสักคนว่าเป็นแฟนเรา ก็ต้องรู้สึกว่าคนนี้โอเค ไม่ใช่ไม่มีคนคุยเลย ก็มีครับ แต่ถามว่าเป็นแฟนรึเปล่าก็ยังไม่ใช่ ดูกันไปเรื่อยๆ ก่อนครับ”
มีสักคนที่อยู่ในขั้นศึกษากันไหม
“มีบ้างครับ ก็มีผ่านมา แต่ด้วยความที่ช่วงนี้ผมอาจจะทำงานเยอะด้วย ก็ไม่มีเวลาคุยบ้าง ไม่มีเวลาสนใจ คือเราก็เอาใจใส่ แต่เรามีสิ่งที่ต้องทำ อย่างตี 5 ผมต้องตื่นแล้ว บางที 4 ทุ่มยังไม่เลิกงานเลย จะเอาเวลาไหนไปเจอเขาล่ะ มันก็เลยเป็นสาเหตุที่ยังไม่มีครับ”
แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับตรงนี้
“มันบอกไม่ได้ มันไม่มีแพทเทิร์นน่ะครับ เดี๋ยวถึงเวลามันก็มีเองครับ”
ถามถึงเรื่องที่เราโพสต์ถึงน็อต-อัครณัฐ
“ตอนนั้นผมรู้สึกว่าเขาไม่แมนแค่นั้นเอง รู้สึกว่าทำไมเราเกิดกรณีแบบนี้ขึ้นหลายครั้งด้วยคือการชนแล้วหนี ผมวิ่งไปกระชากคอเลยนะแต่ให้เรียกพ่อแม่มา ถ้าน้องเขาได้อ่าน สิ่งที่สังคมกำลังเข้าใจผิดคือโดนประณามที่เขาไม่แมนแค่นั้นเอง แต่สิ่งที่เขาอารมณ์ร้อนมันเป็นเรื่องปกติ ผมถึงบอกว่าถ้าคุณไม่รับแมนๆ สังคมไม่จบหรอก จนมาตอนหลังผมรู้สึกว่าสังคมเกินไปแล้ว ด่าพ่อแม่เขา ด่าให้เขาตาย ไม่มีที่ยืน เฮ้ย ถ้าเขาแค่ต่อยคนแล้วไม่มีที่ยืน ผมไปตายอยู่ในนรกแล้ว ผมต่อยคนยับเหมือนกัน สังคมกำลังทำอะไรกันอยู่ คนขโมยเงิน 10 บาท กับคนฆ่าเขาตาย โทษมันเท่ากันเลยเหรอ เขาต่อยคน เขาต้องไปตายเลยรึเปล่า มันไม่ใช่น่ะ แล้วคนที่ฆ่าคนพิการไปไหนแล้ว ไปตามตรงนั้นเถอะ ไม่ต้องมาตรงนี้แล้ว เขารู้ว่าเขาทำอะไรอยู่ ให้โอกาสเขา แล้วรอดูเขาว่าเขาจะเอาโอกาสนี้ไปใช้ในชีวิตเขาได้หรือเปล่า”
หลังจากเราโพสต์ คนไปคอมเม้นต์ค่อนข้างแรง
“เขาโพสต์ทางกระแสเดียวกันหมดเลยครับ มีน้อยมากที่ไม่เห็นด้วย ก็มีป้ามหาภัยที่มาโพสต์ว่าอยู่เฉยๆ ก็ได้นะ ระวังยิ่งดังน้อยๆ อยู่ เราก็เฮ้ย ทำไมคนดังโพสต์ไอจีไม่เป็นเหรอ สรุปจริงๆ แม่เขาเป็นคนโพสต์ ลูกเขากลับมาตอบว่าทำไมต้องทำร้ายจิตใจหนูขนาดนี้ เลยบอกว่าหนูไปดูที่แม่คอมเม้นต์พี่มานะ ใครที่ทำร้ายจิตใจใคร เขาก็เลยขอโทษก็จบ ผมก็เลยบอกว่าหนูไปเตือนแม่หนูด้วยนะว่าไม่ควรดูถูกใครแบบนี้อีก”
มีกระแสภายนอกมาถึงเราไหม
“ตอนนี้มีแต่กระแสดีทั้งนั้นเลยครับ เราไม่ได้ต้องการสิ่งที่เป็นกระแสดีเข้ามา ต้องบอกว่าที่เราทำวันนี้เพราะเราทำให้ท่าน ทำให้คนที่มาหาพ่อมีความสะดวกสบาย ไม่โดนเอารัดเอาเปรียบ แต่กระแสมันดีเกินกว่าที่เราคิด แต่ก็มีมุมลบครับ บอกว่าทำไมต้องทำข่าวดารา ตามดาราสร้างภาพเหรอ แล้วถ้าเขาไม่ทำข่าวดารา จะให้เขาไปทำข่าววัวควายที่ไหนครับ (ยิ้ม) ถามว่าที่คุณดูทีวีตอนนี้คุณดูใคร ไม่ได้ดูดาราเหรอ ดูหมาที่ไหนล่ะ ผมคนแรงนะ แต่ตอนนี้คนเริ่มรู้แล้วว่าที่ผมพูดไปมันคือสังคมที่เป็นอยู่ตอนนี้จริงๆ จะให้ผมมาปากหวานแล้วกลับหลังเป็นอีกคน ผมทำไม่ได้ครับ”
อยากบอกอะไรกับคนที่ชอบว่าเราไหม
“ก็ยึดคำพ่อแล้วกัน พ่อบอกว่าสิ่งที่คุณทำอยู่น่ะ ถ้าคุณเป็นคนไม่ดีหรือจิตบกพร่อง คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่คุณทำเป็นสิ่งไม่ดี คุณกำลังบั่นทอนคนที่ทำดีให้ไม่ทำดี เราควรเตือนเขาด้วยคำพูดยิ้มๆ แล้วบอกว่าสิ่งที่คุณทำไม่ดีนะ แต่ถ้าเขาไม่รู้เรื่อง ก็คิดซะว่าเขาเป็นผู้ป่วยทางจิตโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เขาทำมันเลว ทำดีต่อไปเถอะครับ ปิดทองหลังพระ ทำไปเรื่อยๆ ผมทำดีมาประมาณ 4-5 ปี ไม่เคยมีข่าวหรือใครสนใจเลย จนมาทุกวันนี้มีคนขุดทุกอย่างที่ผมทำดีออกมาหมดเลย ผมบอกว่าทองที่ผมปิดมันพอกออกมาแล้ว”
ยึดคำสอนของพ่อมาใช้ตลอดไหม
“แรกๆ ก็เหมือนทุกคนแหละครับ เศรษฐกิจพอเพียง แต่พอเพียงคืออะไรบางคนยังไม่รู้เลย พอเพียงคืออยู่อย่างมีความสุขโดยที่มีกำลังที่จะทำโดยไม่เดือดร้อนใคร พ่อบอกอย่างนี้ตลอด แต่หลังๆ มาบางทีก็ทำไม่ได้เหมือนกันนะ มีฟุ่มเฟือยบ้าง แต่คำที่ชอบเลยคือคำว่าปิดทองหลังพระ คนจะมองว่าผมปากไม่ดีบ้าง ลองไปย้อนดูเทปข่าวเลยนะว่าสิ่งที่ผมพูดมันเกิดขึ้นทุกอย่างหมดแล้ว ไม่เห็นมีใครขอบคุณผมเลยสักคน ถามว่าคุณเป็นคนของประชาชน คุณต้องเป็นคนดีถูกป่ะ ประชาชนให้เงินผมป่ะ ไม่ แต่เวลาผมล้ม ประชาชนย่ำผมเลย ถามว่าผมเป็นตัวอย่างของประชาชนเหรอไม่ใช่ครับ แต่ผมทำดีเพื่อคนรอบข้างผมมีความสุขแค่นั้นเอง ผมไม่จำเป็นต้องซัพพอร์ตคนอีกหลายล้านคนที่อยู่บนโลก คุณต้องเป็นคนดีของสังคม”
อย่างการที่เรามารวมตัวกลุ่มบิ๊กไบก์เพื่อช่วยเหลือคน เป็นความตั้งใจของเราเอง
“ผมเป็นคนต้นคิดคนแรกครับ เป็นเจ้าของโครงการครับ กว่าจะมีโครงการนี้ได้มาก็ไม่ค่อยมีคนสนใจหรอกครับตอนแรกๆ แต่การตอบรับดีเกินคาดครับ มีเวลา 28 วันได้เงินมาล้านกว่าบาทโดยแทบไม่พึ่งคนในวงการเลย ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่รู้จักตัวตนเราจริงๆ เขาจะช่วย กระทั่งเราโดนแจ้งจับว่าเราหลอกเงินประชาชน แต่ผมเป็นคนดีอย่างนึงที่ผมทนแรงกดดันได้สูงกว่าคนอื่น ทนแรงเสียดสีได้กว่าคนอื่น เพราะผมเป็นเด็กบ้านจน สู้ด้วยตัวเองมาตลอด ดูถูกผมเหรอ เดี๋ยวจะทำให้ได้ ผมเป็นคนแบบนี้ คือเอาแรงกดดันมาผลักดันตัวเองครับ”
