กบ ปภัสรา เล่าอดีตสาเหตุไม่ออกงานสังคม ถูกมองไม่เหมาะสมตำแหน่งเมียรัฐมนตรี โดนบูลลี่จากหลังบ้านนักการเมือง
ในยุคหนึ่งใครๆ ต่างก็ตั้งฉายาให้ กบ ปภัสรา เป็น ซินเดอเรลล่า หลังจากแต่งงานกับ เอ๋ พรเทพ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยฯ ในสมัยนั้น แต่น้อยคนนักที่รู้ว่า จริงๆ แล้วการเป็นภรรยารัฐมนตรีไม่ได้สวยหรู อย่างที่หลายๆ คนคิด
โดยผู้จัดคนเก่ง กบ ปภัสรา เล่าอดีตครั้งเคยเป็นภรรยารัฐมนตรี แต่ไม่ค่อยไปงานสังคมกับสามี เพราะโดนบูลลี่จากหลังบ้านนักการเมือง
ครั้งที่เป็นภรรยารัฐมนตรีช่วยทำไมไม่ค่อยเห็นออกงานคู่กับสามี ? “น้อยมากค่ะ จะไปงานใหญ่ๆ และจำเป็นต้องไปเท่านั้น กบก็จะบอกพี่เอ๋ตรงๆ ว่าไม่ชอบ ไม่อยากไปแกก็ยอมรับได้ ต้องบอกก่อนว่ามันเคยมีบางงานสมัยตอนที่แต่งงานใหม่ๆ เราไปงานคนบางคนในกลุ่มพวกเขาไม่ได้เวลคัมเรา ตัวกบเองก็โนสนโนแคร์อยู่แล้ว แต่พอเรารับปฏิกิริยาได้ปุ๊บ เราก็แค่จะบอกว่าป๊าหนูไม่ชอบนะ
เราเข้าใจกว่าที่เราจะทำให้พวกเขายอมรับเราได้มันต้องใช้เวลา แต่เรามองว่าในเมื่อเราเข้ามาแล้ว ทำไมคุณไม่เวลคัมเราล่ะ คุณควรเวลคัมและให้โอกาสเราก่อน แต่สิ่งที่ได้วันนั้นมันทำให้เรารู้สึกกิลตี้
บางคนเรายกมือไหว้ ยังไม่มองก็มี เพราะเขาก็มองว่ากบเป็นดารา กบไม่ได้เทียบเท่า คุณพรเทพ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรี บางคนก็ไม่ได้มองว่ากบเป็นภรรยาท่านรัฐมนตรีเขาก็มองว่ากบเป็นศิลปินดาราเต้นรำกิน
เพราะว่ายุคเมื่อ 20 ปีก่อน คนที่เต้นกิน รำกินก็จะเป็นที่ดูถูกดูแคลนสำหรับคนบางกลุ่ม แต่วันนี้เราก็ทำให้คนบางกลุ่มรักพวกเราได้แล้ว ถึงแม้ฉันจะเต้นกิน รำกินแต่ฉันก็หากินด้วยลำแข้งของตัวเอง
เราเป็นคนสู้คน เป็นคนแข็ง ถ้ากบได้ยกมือไหว้ใครครั้งหนึ่ง แล้วไม่ไหว้ตอบกลับมา อย่าคิดว่าต่อไปกบจะยกมือไหว้คุณ เพราะถือว่าให้เกียรติคุณแล้วแต่คุณไม่ให้เกียรติเราเลย บางคนไม่พูดกับกบเลยนะ มีแบบที่ว่าเดินมาสวัสดีพี่เอ๋ แล้วก็เดินไปเลยทำเป็นมองไม่เห็นเรา กบเจอมาทุกรูปแบบ เจอตั้งแต่พี่เอ๋มีตำแหน่ง จนพี่เอ๋ไม่มีตำแหน่งคนปฏิบัติกับเรายังไง
ใครไหว้เราไหว้ตอบ เราไม่ได้ผิดนะ ไม่ใช่คนไม่มีมารยาท กบมีมารยาทสำหรับทุกคนที่ให้เกียรติเรา แต่ถ้าเกิดใครที่ไม่ให้เกียรติ กบจะไม่มีมารยาทกับคนที่เขาไม่ให้เกียรติไม่จำเป็น แต่บางคนก็น่ารัก
ตำแหน่ง ชื่อเสียง เกียรติยศ มันเป็นของนอกกายมาก คนเรา มันต้องมาจากข้างในความรู้สึกที่ปฏิบัติออกมา วันหนึ่งเราไม่มีตำแหน่ง เราก็จะเห็นคนกลุ่มนี้ปฏิบัติอย่างไรเท่านั้นเอง ซึ่งเราก็ไม่ได้แคร์ กบก็พูดตรงๆว่าเราไม่ได้ขอเขากินจะต้องแคร์คุณด้วยเหรอก็ไม่แคร์”
เอ๋ พรเทพ สามีทราบไหม? “รู้ค่ะ เพราะว่าพี่เอ๋ก็เคยโดนแบบนี้เหมือนกัน ตอนที่มีตำแหน่งและไม่มีตำแหน่ง เขาก็เห็นคนที่ปฏิบัติกับเขาอย่างไร ซึ่งเขาก็รู้แต่พวกเราไม่ค่อยได้สนใจ เพราะว่าเราไม่ได้ขอใครกิน เราแค่รู้ก็จบ ก็ได้รู้ว่าคนนี้เป็นยังไง”
ใช้ชีวิตคู่กับ เอ๋ พรเทพ ตั้งแต่เขายังเป็นรัฐมนตรีช่วยฯ จนไม่มีตำแหน่งให้กำลังใจอะไรกันบ้าง?
“เราอยู่เคียงข้างกันมาให้กำลังใจกันมา เราอยู่ตั้งแต่วันที่มีตำแหน่ง วันที่ไม่มีตำแหน่ง หรือว่าวันที่เราหาเสียงแล้วไม่ได้ เราอยู่กันมาจนรู้ทุกข์ รู้ร้อน รู้หนาว รู้ทุกเหตุการณ์ทุกขั้นตอน ต้องจับมือกันในวันที่ไปลงสมัครแล้วเราไม่ได้ เราจะต้องเทคแคร์ความรู้สึกกันยังไง ดูแลกันยังไง
จากที่เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยฯ วันหนึ่งต้องลงมาหาเสียงลงพื้นที่ หรือเข้าอยู่ในปาร์ตี้ลิสต์ก็ยังได้เป็นบ้าง แต่พอหลังๆ ต้องลงสมัครแล้วเกิดแพ้ เราต้องให้กำลังใจเขายังไงดูแลความรู้สึกเขายังไงนั่นสำคัญที่สุด เราก็จับมือเคียงคู่กันไปและต่อสู้ด้วยกันมา
จนวันหนึ่งพี่เอ๋บอกว่าไม่อยากอยู่ตรงนี้ บวกกับตอนนั้นเรามีลูกที่โตขึ้นเราก็อยากใช้ชีวิตกับลูก เพราะว่าพี่เอ๋ก็อายุมากขึ้น ลูกสาวก็โตขึ้น เราต้องไปทำกิจกรรมกับลูก เราไม่มีเวลาไปทำกิจกรรมทางการเมืองแล้ว พี่เอ๋ก็ค่อยๆ ถอยมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายแล้วไม่อยากอยู่อะไรเลย อยากอยู่กับลูก อยากอยู่กับครอบครัว ทำอย่างไรให้ครอบครัวเรามีความสุข นั่นคือสิ่งที่พวกเราเลือกกัน”