หลังจากที่แต่งงานกับไฮโซ ‘เพชร’อิทธิ ชวลิตธำรง นางเอกสาวตาคม ‘พิ้งกี้’สาวิกา ชวลิตธำรง ก็หายหน้าจากวงการไปถึง 2 ปี ซึ่งช่วงที่หายหน้าไปก็มีข่าวลือออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชีวิตหลังแต่งงานไม่สวยหรู สามีเจ้าชู้ จนต้องขอเลิก ,ข่าวว่าสามีหวงมากไม่ยอมให้ทำงาน หรือแม้กระทั่งเรื่องว่าได้สินสอดไม่ครบ
ล่าสุดนักแสดงสาวได้เดินทางมาร่วมงาน Thailand International Film Destination Festival 2016 : TIFDF 2016 ที่ โรงละครแห่งชาติ หลังจากจบงาน นักแสดงสาวได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจทุกประเด็นว่า
“กี้ไม่ได้เจอสื่อมานาน 2 ปีได้ค่ะ นานมาก ความรู้สึกตอนนี้เหมือนเป็นเด็กใหม่ค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ(หัวเราะ) ก่อนหน้านี้ไปทำธุรกิจส่วนตัวกับสามี เริ่มก่อร่างสร้างตัว ช่วงหลังๆ เราเลยค่อนข้างตั้งใจกับธุรกิจของเรา เลยไม่สามารถปลีกตัวมาทำอย่างอื่นได้ เลยอาจจะไม่ได้เห็นกี้ตามหน้าหนังสือพิมพ์เท่าไหร่”
เหมือนเราหันหลังให้กับวงการบันเทิงไปเลย
“ไม่ได้หันหลังค่ะ เป็นช่วงที่เราไปศึกษาธุรกิจมากกว่าค่ะ เราอยู่ในวงการบันเทิงมา 20 ปีแล้ว เราอยากจะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ พอเรามีโอกาสได้เรียนรู้ก็อยากจะทำให้เต็มที่ อยากรู้ว่าเราจะทำตรงนั้นได้ไหม”
ถามต่อเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของทางคุณเพชรหรือเปล่า
“เป็นบริษัทส่วนตัว กี้มีธุรกิจหลายอย่าง ซึ่งตอนนี้ค่อยๆ ทำทีละอันให้สำเร็จมันต้องใช้เวลา จะมีการเปิดตัวเร็วๆ นี้ แต่ต้องอุบไว้ก่อน ถามว่ามีงานผู้จัดด้วยไหม ก็มีค่ะ อยู่ในช่วงกำลังเตรียมตัว”
มีกระแสเม้าธ์มาว่าที่ไม่ได้ออกงาน เพราะสามีหวงมาก
“สามีไม่หวง อย่างมาวันนี้สามีก็บอกว่า ไหนส่งรูปชุดมาให้ดูหน่อย(หัวเราะ) สามีอยากให้เราโฟกัสกับตัวธุรกิจมากกว่า เลยไม่สามารถปลีกตัวมาทำอย่างอื่นได้ แต่พี่เพชรไม่หวงหรอกค่ะ เมื่อถึงเวลาเขาก็อยากให้เราทำงาน แต่ตอนนี้ก็ช่วยกันและกันดีกว่า”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าคนมองเราเป็นนกน้อยในกรงทอง พิงกี้ ตอบว่า “ไม่หรอกค่ะ มันเป็นจังหวะของการเรียนรู้ต่างๆ อาจจะเป็นช่วงที่เราเบรกตัวไปทำธุรกิจ งานในวงการบันเทิงเราอยู่มานานก็คิดถึง แต่ถ้าถึงเวลาเราก็กลับมาค่ะ”
ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า นางเอกแต่งงานกับสามีเจ้าชู้ ทนไม่ได้จึงอยากขอเลิก มีคนโยงว่าเป็นเราด้วย พิงกี้ ปฏิเสธทันทีว่า “ไม่มีค่ะ คู่หนูอาจจะเป็นคู่ที่ไม่ค่อยได้ลงรูปในอินสตาแกรมอะไรเยอะ วันๆสามีคอยเขียนบนกระดาษเพื่อสอนงานเรา หน้าก็ไม่ได้แต่ง กี้ไม่ใช่แบบที่เราเคยเห็นไปเลย ไม่มีแบบนั้นแน่ๆ ขาเตียงยังดีอยู่ค่ะ(ยิ้ม) ไม่มีปัญหาเรื่องมือที่สาม ไม่มีเลยค่ะ อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ”
พอมีข่าวแบบนี้เราตกใจไหม
“ไม่ตกใจค่ะ เพราะไม่ค่อยได้อ่าน จะอ่านแต่เรื่องในเชิงการลงทุนมากกว่า ข่าวในบันเทิงไม่ค่อยอ่าน มีแต่คนโทรมาบอก(หัวเราะ) ส่วนสามีก็ไม่ได้อ่านค่ะ เลยไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับใคร แต่อาจจะเห็นจากหน้าเฟซบุ๊กบ้าง พี่เพชรไม่ได้โมโหอะไรเลย เขายังบอกว่ามันมี 4-5 คนในวงการไหม ที่โดนสุ่มเหมือนเรา เลยไม่ได้สนใจอะไร”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่ามีแม่ดาราคนหนึ่งที่ลูกสาวแต่งงานกับไฮโซออกมาพูดว่าได้สินสอดไม่ครบ เหลือสินสอดที่เป็นคอนโด คนก็มองว่าเป็นคู่ของเรา พิงกี้ ตอบทันทีว่า “คงไม่ใช่เรา เพราะว่าเราแฮปปี้ดี สินสอดก็เป็นอย่างในวันที่แต่งงานค่ะ ได้ครบทุกอย่างค่ะ”
ถามย้ำว่าไม่ได้ขาดคอนโด พิงกี้แจงว่า “ไม่มีค่ะ ไม่ได้ต้องมาทุ่มเทขนาดนั้น ได้ตามปกติของภรรยาที่แต่งงาน กี้แต่งงานและก็จดทะเบียน กับข่าวนี้เอาจริงๆ กี้ไม่เคยได้ยิน และไม่รู้ว่ามีข่าวแบบนี้ แต่มาถามกี้ กี้ก็ตอบได้เลยว่าไม่ใช่คู่เรา”
แม่มีพูดถึงเรื่องสินสอดบ้างไหม นักแสดงสาว กล่าวติดตลกว่า “ตอนนี้แม่ตำน้ำพริกขายค่ะ แม่ไม่ได้สนใจอะไรเลย แม่คอยช่วยในเรื่องการดูแลบริษัทการทำธุรกิจ”
ถามต่อเรื่องทายาทตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว เห็นตอนแรกฝ่ายชายบอกอยากจะมีเลย
“พยายามค่ะ ตอนนี้ยังไม่มี แต่ไม่ได้รีบ แต่งงานกันมา 2 ปีแล้ว พยายามไปเรื่อยๆ ไปปรึกษาคุณหมอ คุณหมอบอกว่ายังไม่เป็นไร พยายามต่อไป(หัวเราะ) สุขภาพก็แข็งแรงค่ะ บำรุง กินคอลลาเจน”
คุณแม่บอกว่าเรายังใจเย็น ไม่ทำอะไรเลย เขาอยากอุ้มหลานแล้ว
“ถูกต้องค่ะ ตั้งแต่ปีแรกคุณแม่บอกว่าลุ้น แต่ผ่านมา 2 ปีแล้วไม่มีอะไร เลิกลุ้นแล้ว เราใจเย็นมาก ไม่ค่อยมีอาการเร่งเท่าไหร่ พอไม่ได้พยายามก็รู้สึกว่า มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ เรื่องอายุที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราไม่ได้กังวล พี่เพชรอายุเยอะกว่าเราอีก เขาก็พยายามบอก ว่าให้พยายามมีหน่อย(หัวเราะ) เราพยายามแล้ว แต่มันก็ยังไม่มีเนอะ เลยไม่ได้รีบ วางลิมิตไว้ว่าจะมีก่อนอายุ 35 ค่ะ ตอนนี้ยังไม่ถึงเลยไม่เป็นไร ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเราท้อง มีคนถามเยอะมาก อยากติดป้ายเลย(หัวเราะ) ว่ายังไม่ได้ท้อง”
แม่บอกถ้ายังไม่มีอยากให้เรากลับมาทำงานในวงการ
“ต้องพยายาม ถ้ายังไม่มีน้องก็ยังทำงานได้ ถามว่า กลัวไหมถ้ากลับมาทำงานในวงการ แล้วเกิดมีน้องพอดี ตรงนี้ที่กี้กังวล พอเราไม่สนใจน้องเขาจะมาเองแหละ จริงๆ อยากมีค่ะ แต่พอไม่มีแล้วเราเลยอยากไปตั้งใจกับการทำงานค่ะ”
จะมีไปฝากไข่ไหม “ยังไม่ถึงขนาดนั้นนะคะ หนูเพิ่งจะสามสิบเอง ยังไม่แก่มาก ชิวๆ ยังไม่อยากพึ่งหมอค่ะ พี่เพชรก็ยังมั่นใจในศักยภาพค่ะ (หัวเราะ)”
