วันที่ 22 เม.ย. ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข นักแสดงสาว มาร่วมงานเปิดตัวเซรั่มบำรุงผิว “อลิซ่า วานิเซรั่ม” จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องมีชื่อถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียก หลังมีคลิปและภาพเกี่ยวข้องกับบริษัทเครื่องสำอาง-อาหารเสริมปลอมที่เพิ่งถูกจับ
โดย สายป่าน เผยว่า “ป่านได้ติดตามข่าว แต่แบบตื้นมากๆ เลย ซึ่งเรามารู้เรื่องว่าสวม อย. หลังจากที่เราทำการรีวิวไปแล้ว โดยเบื้องต้นคือป่านก็รับจ้างรีวิวเหมือนพี่ๆ นักแสดงอีกหลายคน ส่วนที่ว่าจะมีการเรียกตรวจสอบ เราก็ยินดี ถ้าเกิดสมมติมีข้อมูลอันอื่นที่ป่านสามารถให้ได้ ป่านก็ยินดีที่จะให้ข้อมูลตรงนั้นเพิ่ม แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีการติดต่อจากทางเจ้าหน้าที่มาแต่อย่างใด”
กังวลไหมว่ามันจะมีผลอย่างอื่นตามมา
“จริงๆ อย่างที่ป่านบอกว่ามันเป็นการรับรีวิวสินค้าทั่วไปเลย กรณีของป่านก็คงไม่ต่างจากนักแสดงคนอื่นๆ คงเป็นกรณีคล้ายๆ กัน ส่วนเรื่องความคืบหน้า ป่านเองก็ไม่ทราบ เห็นในข่าวคือมีการเข้าไปที่โรงงานวันนี้(22 เม.ย.) ก็คงเป็นไปตามลำดับขั้นตอน”
ก่อนที่จะรับรีวิวได้มีการตรวจสอบสินค้าก่อนไหมว่ามี อย. หรือเปล่า
“ไม่ได้ตรวจสอบ อันนี้ป่านก็ยอมรับจริงๆ เพราะมันไม่ใช่เป็นเรื่องปกติที่เรารับผลิตภัณฑ์นี้มา แล้วเราต้องไปตรวจสอบว่าเลขผลิตภัณฑ์นี้มีการจด อย.จริงหรือเปล่า หรือว่ามีการสวมหรือเปล่า โดยปกติทั่วไป ยี่ห้อนี้หรือการไปซื้อเครื่องสำอางค์ หรือการไปซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นครีมบำรุงที่ขายตามท้องตลาด ป่านว่าไม่ใช่ป่านคนเดียวที่จะไปตรวจสอบ อย. คือเราเห็น อย. เราก็คิดว่าปลอดภัยสำหรับเราและสำหรับผู้บริโภคแล้ว ป่านเลยไม่ได้ตรวจสอบตรงนี้ ซึ่งพอป่านรีวิวลงคลิปปุ๊ปก็คือจบ แต่ทันทีที่ป่านรู้ว่าขั้นตอนและกระบวนการของเขาไม่ถูกต้อง ป่านก็ทำการลบคลิปทันทีเลย”
ไม่ได้เป็นหุ้นส่วนหรือผูกพันกับสินค้าใช่ไหม
“ไม่มีค่ะ ถามว่าเราไม่เช็กก่อนให้รอบคอบก่อนหรือเปล่า คือจริงๆ ต้องบอกตรงๆ ว่าป่านเองมีหน้าที่ทำงาน หน้าที่ของป่านคือทำงานให้มันเสร็จสิ้น หลังจากที่เราได้รับจ้างมา ให้ทำงานที่เราควรจะทำ ดังนั้นเรื่องของการที่ป่านไม่ตรวจสอบ หรือใครไม่ตรวจสอบ หรือคนทั่วไปก็มีการตรวจสอบ อย. กันอยู่แล้ว แต่เราก็มารู้ว่าจริงๆ แล้วมันมีการสวมอย. กันเกิดขึ้น”
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนในการรับงานรีวิวสินค้ามากขึ้นไหม
“ก็ต้องตรวจสอบให้มากขึ้น ต้องศึกษาให้ดีมากขึ้น ว่าที่มาที่ไปเป็นแบบไหน ที่ผ่านมามีการตรวจสอบสินค้าที่เรารีวิวน้อยค่ะ น้อยมากๆ ต้องบอกว่าส่วนใหญ่จะเป็นคนรู้จักแนะนำกันมาเรื่อยๆ มากกว่า”
กลัวจะเอาชื่อเราไปใช้มากกว่านี้ไหม
“ก็คงไม่มากไปกว่านี้แล้วมั้ง สำหรับแบรนด์นี้ ทุกอย่างน่าจะยุติแค่นี้ ไม่ว่าจะเป็นป่านเอง หรือพี่ๆ นักแสดงคนอื่นก็ตาม น่าจะจบแค่ตรงนี้หรือเปล่า อันนี้ป่านไม่แน่ใจ ซึ่งหลายๆ คนก็รู้อยู่แล้วว่าแบรนด์นี้เอาชื่อเราไปใช้ เอาชื่อเราไปแอบอ้าง เพื่อส่งเสริมการขายเขา หลายๆ คนก็คงไม่ไปซื้อ ไม่ไปอุดหนุนเป็นลูกค้าเขาต่อยู่แล้ว”
ได้มีการจ้างให้เรารีวิวสินค้านี้ไปกี่ครั้ง
“ครั้งเดียวค่ะ เท่าที่ป่านรู้จักแบรนด์นี้ คือเขาขายกันมาก่อนหน้าที่จะให้ดารารีวิวแล้ว ดังนั้นการที่ให้ดาราไปรีวิวแค่เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์เขา สำหรับตัวดาราเอง ไม่ว่าจะเป็นป่าน หรือพี่ๆ นักแสดงคนไหนไม่มีใครรู้ก่อนว่ากระทำสิ่งนี้ไปแล้วจะทำให้ชื่อเสียงด่างพร้อย หรือเสียชื่อเสียง หรือเป็นการหลอกประชาชน ป่านเชื่อว่าทุกคนไม่มีความตั้งใจที่จะหลอกประชาชน หรือหลอกผู้บริโภคอยู่แล้ว มันเกิดจากการที่เราไม่รู้มากกว่า เขาจ้างมา เราก็ทำงานที่ได้รับให้มันเสร็จไปเท่านั้นเอง”
กลัวคนจะเข้าใจผิดไหม
“ถ้าใครที่เข้าใจผิด ป่านก็ขอบอกตรงนี้เลยว่า ป่านไม่ได้รับรู้ในการกระทำผิดกฎหมาย หรือเรื่องของ อย. ใดๆ ทั้งสิ้นในก่อนหน้านี้ที่จะรับงานนี้เลย ถามว่าตั้งแต่เกิดเรื่องเจ้าของผลิตภัณฑ์ได้ติดต่อกลับมาไหม ตอนที่เขาว่าจ้าง เขาก็ไม่ได้ติดต่อป่านมาโดยตรง ติดต่อผ่านมาทางผู้จัดการ”
เราจะมีการแจ้งความเจ้าของผลิตภัณฑ์ไหม ที่ทำให้เราเสียชื่อเสียง
“คงยัง แต่ถึงป่านไม่ทำก็มีคนอื่นทำอยู่แล้ว ดังนั้นสำหรับป่านเอง ถือว่าเป็นบทเรียนมากกว่า ส่วนถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกไปให้ข้อมูล ป่านก็ไม่มีความหวั่นใจอะไรเลย ถ้าเกิดเรียกมา หรือให้ป่านไปสอบเพิ่ม ป่านยินดีที่จะให้ข้อมูลทุกอย่างเลยเท่าที่ป่านรู้นะคะ”
