วันที่ 22 เม.ย. ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ม้า-อรนภา กฤษฎี พิธีกรฝีปากกล้า จัดงานเปิดตัวเซรั่มบำรุงผิว “อลิซ่า วานิเซรั่ม” จากนั้นให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องมีชื่อถูกตำรวจเรียกสอบ หลังมีคลิปและภาพเกี่ยวข้องกับบริษัทเครื่องสำอาง-อาหารเสริมปลอมที่เพิ่งถูกจับ

โดย ม้า เผยว่า “จริงหรือเปล่า(ตกใจ) ไม่ได้ตามเลย แบรนด์นี้เราไม่แน่ใจอะ จริงๆเวลารีวิวของพวกนี้ทั้งหมดก็อยู่แค่อาทิตย์เดียว แล้วเราก็จะลบทิ้งแล้ว ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ถามว่าจำได้ไหม ก็จำแทบไม่ได้ กับอีกอันหนึ่งเราทำรายการเกี่ยวกับความงาม จะมีสินค้าต่างๆพวกนี้เข้ามาโฆษณาในรายการ ซึ่งมันเยอะมาก ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป จะจำได้บางอันเท่านั้นเองที่มาซ้ำๆอยู่บ่อยๆเกือบทุกเดือน ต้องขอโทษด้วยถ้าจำไม่ได้ ส่วนอันนี้ก็คงจะนานมากๆแน่ๆ เพราะเราจำไม่ได้เลย”

เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้แบรนด์เขาหรือแค่รีวิวเฉยๆ
“ขอบอกว่าในชีวิตนี้เป็นพรีเซ็นเตอร์พอนด์สอยู่ เมื่อ 2-3 ปีที่แล้วคู่กับน้องน้ำตาล-พิจักขณา หลังจากนั้นก็ไม่มีเลย ไม่เคยเป็นเลย จนกระทั่งมาทำของตัวเอง นอกนั้นก็แค่รีวิวเฉยๆ”

ถ้าตำรวจขอความร่วมมือขอสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเรายินดีไหม
“โอ๊ย ฉันจะไปเกี่ยวอะไรล่ะ ก็จำไม่ได้เหมือนกันว่ามันคืออะไร มันนึกไม่ออก แล้วอีกอย่างเวลาเรารีวิว ก็จะอยู่แค่ 1 อาทิตย์แล้วลบไป เราจะลบ แต่พวกเขาก็จะเอาไปใช้ต่อตลอดเวลา เราก็ไม่อยากที่จะไปตามเรื่องในลักษณะแบบนั้น ก็โอเคทำบุญทำทานไปแล้วกัน เราก็ปิดตาข้างหนึ่ง ก็เลยกลายเป็นเหมือนว่าดิฉันเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะมันคงซ้ำจนกระทั่งเป็นแบบนี้ ซึ่งมีบางตัวนะที่สินค้าตัวหนึ่ง แล้วตัวเจ้าของเดิมไม่ได้ทำแล้ว แล้วหลุดไปอีกมือหนึ่ง มือใหม่ก็ยังเอารีวิวของดิฉันไปลงอยู่เลยนะตอนนี้ ก็พยายามปิดตาข้างหนึ่ง ทำบุญทำทานไป ก็ขี้เกียจจะไปวุ่นวาย”

มีความกังวลไหม
“ไม่มีความกังวลอะไรใดๆทั้งสิ้น ตราบใดที่ดิฉันบริสุทธิ์ใจ บริสุทธิ์ในพฤติกรรม การกระทำทุกสิ่งทุกอย่าง ดิฉันเป็นคนคิดดีนะคะต้องบอกงี้ ดิฉันไม่โกง มาทำของตัวเองก็ไม่ได้มาโกงนะจะบอกให้”

ก่อนรับรีวิวเรามีการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ก่อนไหม
“มันยากมากเลยกับการตรวจสอบ คุณต้องจำไว้ว่าคนที่จะเอาออกมาขายประชาชนได้ มันต้องผ่าน อย.แล้ว ดังนั้นดิฉันก็คิดว่ามันต้องผ่าน อย. แม้กระทั่งสินค้าที่วางในเคาน์เตอร์แบรนด์ในห้างสรรพสินค้า ก็ต้องผ่าน อย. เอาจริงๆพูดกันตรงๆเลยนะ ไม่ว่าในเคาน์เตอร์แบรนด์ทั่วโลกหรือว่าจะเป็นสินค้าที่มารีวิวอย่างนี้ ผ่าน อย. น้อยมาก ลองคิดดูว่าส่วนประกอบบางตัวมันไม่สามารถใช้กับมนุษย์ได้ อย่างสารตะกั่วในลิปสติกสีแดง ต้องมีสารตะกั่ว 0.01% เพื่อที่จะทำให้ลิปสติกเกิดสีแดงขึ้นมา อีกอันหนึ่งคือสารกันบูดบอกว่าไม่มี แต่ก็มีทั้งสิ้น แต่มี 0.01% ดังนั้นขอสอนว่าคุณใช้ได้ แต่ต้องล้างออก ก็จบ ถ้าใช้แล้วซ้ำซากไม่มีการเอาออกเลย นั้นคือมีอันตรายแน่นอน”

หลังจากนี้เวลาจะรับรีวิวเราต้องตรวจสอบก่อนไหม
“ตรวจสอบไม่ได้แล้วค่ะ ขอโทษนะไม่รู้จะตรวจสอบกับใคร ไม่งั้นก็ไม่ต้องรับเลย มันเป็นหน้าที่ของ อย. แล้วมันเป็นความซื่อสัตย์ของเจ้าของสินค้าค่ะ จะให้เช็กยังไงอะ ต้องวิ่งไปหา อย. กว่าจะไปหา อย. ก็ไม่ต้องรีวิวแล้วมั้ง ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง แล้วก็คนที่อยู่ในโลกนี้”

คนมองว่าเราเอาชื่อเสียงมาแลกกับรายได้นิดหน่อย
“จะบ้าเหรอ เราทำมาหากิน มันต้องทำ มันคืออาชีพ เขาก็ต้องการคนที่มีชื่อเสียง เพื่อให้มันน่าเชื่อถือ เป็นการโฆษณาชวนเชื่อด้วย เพื่อให้สินค้าเป็นที่รู้จัก ถามว่าเราจะมีการไปแจ้งความเขาไหม ที่ทำให้เราเสียชื่อเสียง ไม่เอา ไม่ยุ่ง เขาสิต้องมาขอโทษฉัน”

เราต้องเตรียมข้อมูลไว้ไหม เผื่อตำรวจเรียกตรวจสอบ
“เขาไม่มาเรียกฉันหรอก ฉันไม่ได้ใหญ่โตขนาดนั้น ฉันบริสุทธิ์ใจ ฉันไม่เคยกลัวอะไร”

เราไม่รู้เรื่องใช่ไหมกับเรื่องนี้
“ไม่รู้เรื่องสิค่ะ ถ้ารู้เรื่องจะมาพูดทำไม ไม่รู้เรื่อง ต้องบอกอย่างนี้เลยนะคะ สิ่งที่จะพูดคือ เขามี อย. ไว้ทำไม เขามี อย. ไว้เพื่อที่จะทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชน คือผู้บริโภค ดังนั้นผู้บริโภคก็ต้องได้บริโภคในสิ่งที่ดี ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เวลาจะมาทำการค้าขาย ขายสิ่งให้ผู้บริโภคไปใช้ ต้องซื่อสัตย์กับตรงนี้ ว่ามันถูกต้อง ไม่มีสิ่งที่ผิด แค่นี้ก็คือจบ อย่าคิดแต่เรื่องเงินอย่างเดียว เป็นเพราะเราโลภมากกันไง มันถึงได้เป็นแบบนี้ ธรรมะมีไว้ทำไม เราเป็นคนไทยที่อยู่ในพระพุทธศาสนา โคตรโชคดีขนาดไหน ที่เรามีพุทธศาสนามีคำสอนของพระพุทธเจ้า นำไปใช้กันสิค่ะ ไม่เคยใช้กันเลย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน