เรียกว่าเป็นใหญ่ เลยทีเดียว เมื่อมีข่าวว่า อดีตบิ๊กบอสช่อง 3 ประวิทย์ มาลีนนท์ ได้ขายหุ้นของตัวเองทั้งหมดในช่อง 3 ให้กับ คุณทวีฉัตร หรือคุณณัฐพล จุฬางกูร ทำให้ตอนนี้ตระกูล “มาลีนนท์” มีหุ้นเหลือไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนทางตระกูล “จุฬางกูร” มีหุ้นในช่อง 3 ถึง 60 กว่าเปอร์เซ็นต์ เมื่อมีโอกาสเจอ คุณประชุม มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด ผู้สื่อข่าวจึงได้ขอสัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าว แต่ทางช่อง 3 ได้ส่ง “ตี๋-ชาคริต ดิเรกวัฒนชัย” หัวหน้าคณะผู้บริหารสายกิจการองค์กร มาให้สัมภาษณ์แทน


ผู้สื่อข่าวได้ถามว่ามีข่าวว่าคุณประวิทย์ มาลีนนท์ได้ขายหุ้นออกไปจากช่อง 3 หมดแล้ว จะมีการเปลี่ยนถ่ายเลือดหรือเปลี่ยนแปลงอะไรในช่อง 3 บ้าง
ตี๋ ชาคริต ตอบว่า “อันนี้ตอบไม่ได้เลยขอไม่ตอบไม่มีคอมเม้นต์เพราะมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ผมเห็นข่าวนี้แล้วเราก็ยังทำงานกันปกติเพื่อให้ช่อง3 เป็นที่รักคน”

ข่าวนี้มีผลต่อความน่าเชื่อถือของช่อง 3 ไหม
“ผมขอไม่คอมเม้นต์ ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไหม คือจริงๆกลยุทธ์ทุกอย่าง เราทำตามลูกค้า ตามผู้ชมตลอดเวลา อันนั้นมากกว่าเป็นสิ่งที่เราต้องทำ เราต้องรักษาระดับความสนใจของลูกค้าเรา และความน่าเชื่อถือของเราในสายตาของลูกค้าและเอเจนซี่ และสร้างเรตติ้งให้เป็นที่พอใจของคน ผมว่าตรงนั้นเป็นสิ่งที่เราทำต่อไปมากกว่า เรื่องอื่นๆอาจจะเป็นเรื่องรองลงมา”

ทางคุณทวีฉัตร หรือคุณณัฐพล จุฬางกูร ที่คุณประวิทย์ขายหุ้นให้ ได้เข้ามาบริหารหรือยัง
“อันนี้ไม่ทราบเลยครับ ผมตอบไม่ได้เลย ถามว่านายประวิทย์ขายหุ้นจริงหรือเปล่า อันนี้ผมทราบจากข่าวจริงๆครับ ผู้บริหารก็ไม่ยังไม่มีอะไร ผมไม่ทราบเรื่องนี้จริงๆขอไม่คอมเม้นต์”

 

หลักๆอย่างเป็นทีมผู้บริหารเดิมหรือเปล่า
“ตอนนี้ยังเป็นชุดเดิมอยู่ครับ”

มันมีคำถามในส่วนของพนักงานบ้างไหมเรื่องที่คุณประวิทย์ขายหุ้นออกไป
“แต่ละคนก็ทำหน้าที่ของตัวเอง”

มีข่าวว่าจะคืนช่อง 13 Family อันนี้จริงหรือเปล่า
“มีหลายคนพูดมันมีแนวทางมาจากพี่ติ๋มทีวีพูลถ้าเกิดจะทำตามแนวทางของพี่ติ๋มคงต้องรออีกสักปีสองปี เพราะว่าเรื่องยังไม่จบยังต้องมีการอุทรเพราะว่าพอผ่านไปถึงศาลอุทธรณ์ ผลจะเป็นยังไงเราก็ยังไม่ทราบ ในมุมของช่อง 3 จะพูดว่าคืนหรือไม่คืนนั้น มันต้องรอดูกรณีตัวอย่างให้ถึงที่สุดก่อน เราต้องยอมรับว่าการแข่งขันเยอะจริงๆ”

เหมือนตอนนี้เราแบกภาระช่อง 13 Family ใช่ไหม
“เราก็ต้องทำให้มันสร้างรายได้ ได้ด้วย ณ วันนี้อาจจะไม่ได้เป็นตัวหลักในการสร้างรายได้ แต่เป็นช่อง 33 เป็นตัวหลักการแข่งขันมันสูงอีกอย่างช่อง 13 ก็มีเอกลักษณ์ของเขาเป็นรายการสำหรับครอบครัวจริงๆ ตัวรายการมีคุณค่าทำให้คนพูดถึงครอบครัวมากขึ้นด้วย”

ระหว่างช่อง 13 กับช่อง 28 อันไหนเจ็บหนักกว่ากัน
“ผมมองว่าเหนื่อยมากกว่าครับ”

 

มีการเอาข้อเสนอในการคืนช่อง 13 เข้าไปเปิดที่ประชุมบอร์ดหรือเปล่า
“น่าจะยังไม่มีครับ เพราะจากกรณีตัวอย่างผมเชื่อว่ายังไงก็ต้องมีการยื่นอุทธรณ์ไม่จากฝั่งโจทก์ก็ต้อง เป็นฝั่งจำเลย”

ได้ยินว่าสัมปทานของช่อง3 กำลังจะหมดลง
“เราทำตามกฏหมายสัมปทานเราหมดปีหกสามตารางจากนั้นคงจะไม่มีอนาล็อค จริงๆอันนี้เป็นเรื่องตามกฏหมายและตามสัมปทาน เป็นดิจิตอลเต็มตัว”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน