ยูโรคืนนี้ เปิดหัวรอบ 8 ทีมสุดท้าย ด้วย “นาฬิกา” สวิตเซอร์แลนด์ กำลังคึกคัก หลังเขี่ยเต้งหนึ่งอย่างฝรั่งเศสตกรอบไป ลงสนามพบกับ “กระทิงดุ” สเปน

ความเคลื่อนไหวฟุตบอลยูโร 2020 ประจำวันที่ 2 ก.ค. เป็นการแข่งขันวันแรกของรอบก่อนรองชนะเลิศ ดวลกัน 2 คู่ เริ่มคู่แรก เวลา 23.00 น. “นาฬิกา” สวิตเซอร์แลนด์ พบกับ “กระทิงดุ” สเปน ฟาดแข้งกันที่เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดียม ประเทศรัสเซีย

Soccer Football – Euro 2020 – Switzerland Training – Petrovsky Stadium, Saint Petersburg, Russia – July 1, 2021 General view during training REUTERS/Anton Vaganov

สถิติที่ผ่านมาทั้งสองทีมเคยพบกันมาแล้ว 8 ครั้ง สวิตเซอร์แลนด์ ชนะ 1 ครั้ง เสมอกัน 3 ครั้ง และ สเปน เอาชนะไปได้ 4 ครั้ง หนล่าสุดเจอกันในฟุตบอลเนชันส์ ลีก เมื่อปี 2020 เสมอกันไป 1-1

ขณะที่เส้นทางในฟุตบอลยูโรครั้งนี้ สวิตเซอร์แลนด์ เข้ารอบมาเป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม เอ รอบแบ่งกลุ่ม 3 นัด สมอ เวลส์ 1-1, แพ้ อิตาลี 0-3, และ ชนะตุรกี 3-1 ก่อนจะมาทำผลงานพลิกความคาดหมายด้วยการเขี่ย ฝรั่งเศส แชมป์โลก ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยในเวลาเสมอกัน 3-3 และเป็นสวิตเซอร์แลนด์ที่ดวลจุดโทษชนะไปได้ 5-4

ด้านทีม”กระทิงดุ” เข้ารอบมาเป็นอันดับสองของกลุ่ม อี ผลงานรอบแบ่งกลุ่ม เสมอ สวีเดน 0-0, เสมอ โปแลนด์ 1-1 และชนะ สโลวะเกีย 5-0 ส่วนรอบ 16 ทีมสุดท้าย เอาชนะ โครเอเชีย ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 5-3 หลังจากเสมอกันใน 90 นาที ด้วยสกอร์ 0-0

Soccer Football – Euro 2020 – Spain Training – Petrovsky Stadium, Saint Petersburg, Russia – July 1, 2021 Spain coach Luis Enrique during training REUTERS/Maxim Shemetov

ความพร้อมเกมนี้ วลาดิมีร์ เพตโควิช กุนซือสวิตเซอร์แลนด์ จะไม่สามารถใช้งานกองกลางตัวเก่งอย่าง กรานิต ชากา ได้เนื่องจากติดโทษแบน โดยจะวางหมาก 3-4-1-2 ยานน์ ซอมเมอร์ : ริคาร์โด โรดริเกซ, มานูเอล อาคานจี, นิโก เอลเวดี : สตีเวน ซูเบอร์, เรโม ฟรอยเลอร์, เดนิส ซาคาเรีย, ซิลวาน วิดเมอร์ : แชร์ดาน ชากิรี : บรีล เอ็มโบโล, ฮาริส เซเฟโรวิช

ขณะที่ หลุยส์ เอ็นริเก กุนซือทีมชาติสเปน เกมนี้ไม่มีปัญหาเรื่องตัวผู้เล่น เตรียมจัดหมาก 4-3-3 อูไน ซิมอน : จอร์ดี อัลบา, อายเมอริก ลาปอร์กต์, เปา ตอร์เรส, เซซาร์ อัซปิลิกูเอตา : เปดรี กอนซาเลซ, เซร์คิโอ บุสเกตส์, โกเก : ปาโบล ซาราเบีย, อัลบาโร โมราตา, เฟร์รัน ตอร์เรส

ทางด้านคู่ดึก เวลา 02.00 น. “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม ดวลกับ “อัซซูรี” อิตาลี ที่สนามฟุตบอลอารีนา มิวนิก ประเทศเยอรมนี

สถิติที่ผ่านมาทั้งสองทีมเจอกับมาแล้ว 11 ครั้ง เบลเยียม เอาชนะไปได้ 3 ครั้ง เสมอกัน 4 ครั้ง และ อิตาลี ชนะไป 4 ครั้ง หนล่าสุดเจอกันในยูโร 2016 อิตาลี ชนะ 2-0

เส้นทางในยูโร 2020 เบลเยียม คว้าแชมป์กลุ่ม บี ด้วยการชนะ รัสเซีย 3-0, ชนะ เดนมาร์ก 2-1 และ ชนะฟินแลนด์ 2-0 ส่วนรอบ 16 ทีมสุดท้าย เฉือนชนะแชมป์เก่าอย่างโปรตุเกส 1-0

ทางฟากอิตาลี ผลงานดีไม่แพ้กัน รอบแบ่งกลุ่ม คว้าแชมป์กลุ่ม เอ ด้วยการชนะ ตุรกี 3-0, ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 3-0 และชนะ เวลส์ 1-0 ส่วนรอบ 16 ทีมสุดท้าย ชนะ ออสเตรีย ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1 หลังจากเสมอกันใน 90 นาที 0-0

ความพร้อมเกมนี้ โรแบร์โต มาร์ติเนซ เฮดโค้ชทีมชาติเบลเยียม รอลุ้นเช็กความฟิตสองกองกลางตัวเก่ง อย่าง เควิน เดอ บรอยน์ และ เอเดน อาซาร์ โดยจะยังใช้แผนการเล่น 3-4-2-1 ธิโบต์ กูร์กตัวส์ : ยาน แฟร์ตองเกน, โธมัส แฟร์มาเลน, โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์ : ธอร์กาน อาซาร์, อักเซล วิตเซล, ยูรี ตีเลอมันส์, โธมาส์ มูนิเยร์ : ยานนิก การ์รัสโก, ดรีส เมอร์เตนส์ : โรเมลู ลูกากู

ส่วน โรแบร์โต มันชินี เทรนเนอร์ทีมชาติอิตาลี ได้รับข่าวดี จอร์โจ คิเอลลินี กองหลังกัปตันทีมน่าจะฟิตเต็มที่กลับมาลงเฝ้าแดนหลังได้ โดยจะใช้ระบบการเล่น 4-3-3 จานลุยจิ ดอนนารุมมา : เลโอนาร์โด สปินาซโซลา, จอร์โจ คิเอลลินี, เลโอนาร์โด โบนุชชี, โจวานนี ดิ ลอเรนโซ : มัตเตโอ เปสซินา, จอร์จินโญ, มาร์โก แวร์รัตติ : ลอเรนโซ อินซินเญ, ชิโร อิมโมบิเล, โดเมนิโก เบราร์ดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน