11แข้งยอดเยี่ยมยูโรจากทีมข่าวสด – ฟุตบอลยูโร 2020 ปิดฉากลงไปเป็นที่เรียบร้อย แน่นอนว่าจะต้องมีการสรุปผลงานของนักเตะแต่ละคน ซึ่งทีมงานข่าวสดเลือกผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์ นาเมนต์มา 11 คน วางหมากแบบ 4-3-1-2 ลองดูกันว่าแต่ละคนจะถูกใจแฟนบอลหรือไม่

ผู้รักษาประตู
จานลุยจิ ดอนนารุมมา (อิตาลี)

รอบรองชนะเลิศที่ต้องดวลจุดโทษกับสเปน ดอนนารุมมาเซฟไปได้ 1 ครั้ง จากนั้นรอบชิงชนะเลิศก็ดวลจุดโทษกับอังกฤษ มือกาวรายนี้ก็เซฟได้อีก 2 ครั้ง จนทีมผงาดคว้าแชมป์สำเร็จ พร้อมกับที่เจ้าตัวได้รับรางวัล ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ไปครอง

แบ๊กขวา
เดนเซิล ดุมฟรายส์ (เนเธอร์แลนด์)

ในรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี แมตช์แรกที่ชนะยูเครน 3-2 และแมตช์ต่อมาที่ชนะออสเตรีย 2-0 ดุมฟรายส์ยิงไปถึง 2 ประตู และมีส่วนร่วมสำคัญกับประตูอื่นทั้งหมด ทำให้เจ้าตัวคว้ารางวัลสตาร์ ออฟ เดอะ แมตช์ ตลอดทั้ง 2 เกมดังกล่าว คาดว่าตลาดนักเตะหลังจากนี้เจ้าตัวจะมีหลายสโมสรมารุมจีบ

เซ็นเตอร์แบ๊ก
แฮร์รี แม็กไกวร์ (อังกฤษ)

ช่วงเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ยังไม่ได้ลงเล่นเนื่องจากบาดเจ็บอยู่ แต่หลังจากนั้นกลายมาเป็นแนวรับ คนสำคัญของอังกฤษ แถมยังมีการเติมขึ้นไปช่วย ทำประตูได้ด้วย โดยได้ตำแหน่งสตาร์ ออฟ เดอะ แมตช์ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่ชนะเยอรมนี

เซ็นเตอร์แบ๊ก
เลโอนาร์โด โบนุชชี (อิตาลี)

ทำหน้าที่หัวใจสำคัญในแนวรับของอิตาลีมาตลอด แถมกลายเป็นฮีโร่ในนัดชิงชนะเลิศเมื่อยิงตีเสมออังกฤษได้ จากนั้นสังหารจุดโทษไม่พลาดอีก พร้อมคว้ารางวัลสตาร์ ออฟ เดอะ แมตช์ เป็นคนสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์

แบ๊กซ้าย
ลุก ชอว์ (อังกฤษ)

แม้ทัวร์นาเมนต์นี้อังกฤษจะเรียกผู้เล่นตำแหน่งแบ๊กมาเยอะ แถมตอนแรกชอว์ก็ไม่ได้ลงตัวจริงด้วย แต่หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ยึดพื้นที่ด้านซ้ายของแนวรับอย่างมั่นคง แถมมีบทบาทในแนวรุกสูงด้วยการยิงไป 1 ประตู จ่ายให้เพื่อนยิงอีก 3 ครั้ง

กองหน้า
ปาตริก ชิก (สาธารณรัฐเช็ก)

เป็นอีกคนที่ยิงได้ 5 ประตูเทียบเท่าโรนัลโด น่าเสียดายที่ไม่ได้จ่ายให้เพื่อนยิงเลย จึงพลาดรางวัลดาวซัลโว กระนั้นเชื่อว่าก็คงไม่มีใครลืมลูกที่เจ้าตัวซัลโวสกอตแลนด์ด้วยการยิงจากครึ่งสนามระยะไกลถึง 49.7 หลา มีโอกาสลุ้นรางวัลประตูยอดเยี่ยมของโลกประจำปีนี้ได้เลย

กองกลาง
จอร์จินโญ (อิตาลี)

ปิดท้ายทัวร์นาเมนต์ด้วยการสังหารจุดโทษพลาดระหว่างดวลอังกฤษ แต่ก่อนหน้านั้นเป็นผู้เล่นปิดทองหลังพระชั้นดีของอิตาลี ตลอดทัวร์นาเมนต์วิ่งระยะทางรวม 86.6 กิโลเมตร มากกว่าใครทั้งหมด แถมยังตัดบอลได้ 46 ครั้ง ยึดอันดับ 1 ด้วยเช่นกัน จึงช่วยเกมรับได้มาก

กองกลาง
คัลวิน ฟิลลิปส์ (อังกฤษ)

ได้รับโอกาสลงตัวจริงให้อังกฤษแบบค่อนข้างพลิกความคาดหมาย แต่เจ้าตัวก็พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพของตัวเอง ตลอดทัวร์นาเมนต์เข้าปะทะชนะคู่แข่ง 9 ครั้ง มากกว่าใครทั้งหมด แถมวิ่งระยะทางรวม 83 กิโลเมตร มากเป็นอันดับ 2 จึงช่วยให้แดนกลางของทีมแน่นปึ้กอย่างยิ่ง

กองกลางตัวรุก
เอมิล ฟอร์สเบิร์ก (สวีเดน)

สวีเดนเป็นทีมที่เน้นเกมรับ ดังนั้น จึงต้องมีผู้เล่นสักคนที่สามารถฝากผีฝากไข้ในเกมรุกได้ ซึ่งฟอร์สเบิร์กไม่เพียงแค่รับหน้าที่ทำเกม แต่ เจ้าตัวยังครองตำแหน่งดาวซัลโวของทีมด้วยจำนวน 4 ประตู โดยทั้งทัวร์นาเมนต์นี้คนที่ยิงได้ 4 ตุงขึ้นไป มีเพียงแข้งรายนี้ที่ไม่ใช่ศูนย์หน้าโดยธรรมชาติ

กองหน้า
คริสเตียโน โรนัลโด (โปรตุเกส)

แม้โปรตุเกสจะจบเส้นทางเพียงรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่โรนัลโดในวัย 36 ปีก็ยังเป็นคนสำคัญในแนวรุกของทีมเสมอ ทัวร์นาเมนต์นี้คว้าตำแหน่งดาวซัลโวด้วยจำนวน 5 ประตู และจ่ายให้เพื่อนยิง 1 ครั้ง ทำให้เจ้าตัวขึ้นมาอันดับ 1 ดาวซัลโวตลอดกาลยูโร ด้วยจำนวนรวม 14 ประตูแล้ว

กองกลาง
เปดรี กอนซาเลซ (สเปน)

เจ้าของรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ ด้วย การขับเคลื่อนเกมที่มีประสิทธิภาพ แถมยังขยันไม่มีหมด โดยตลอดทัวร์นาเมนต์วิ่งไประยะทางรวม 76.1 กิโลเมตร รั้งอันดับ 3 ของนักเตะทั้งหมด เรียกว่าทำให้คนลืมเรื่องที่ทำเข้าประตูตัวเองไป ได้เลย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน