การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ที่ปาร์เกน สเตเดียม เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เป็นการแข่งขันในกลุ่มบี รัสเซีย ลงสนามพบ เดนมาร์ก

โดยก่อนหน้านี้ รัสเซีย แพ้ เบลเยียม 0-3 ชนะ ฟินแลนด์ 1-0 มี 3 คะแนน ส่วน เดนมาร์ก แพ้ ฟินแลนด์ 0-1 แพ้ เบลเยียม 1-2 ยังไร้แต้ม

เกมนี้เดนมาร์ก ไม่ได้ปรับทัพจากเกมที่พบกับเบลเยียม 11 ตัวจริงประกอบด้วย แคสเปอร์ ชไมเคิล, แอนเดรียส คริสเตนเซน, ยานนิก เวสเตอร์การ์ด, ซิมอน เคียร์, โยอาคิม เมห์เล, แดเนียล แวสส์, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก, โธมัส เดอลานีย์, มิกเคล ดามสการ์ด, ยุสซุฟ โพลเซน, มาร์ติน เบรธเวต

ส่วนรัสเซีย ส่ง 11 ตัวจริง ประกอบด้วย มัตเว ซาโฟนอฟ, อิกอร์ ดิเวเยฟ, จอร์จี ชิคิยา, เฟดอร์ คูเดรียชอฟ, มาริโอ แฟร์นานเดส, มาโกเมด ออซโดเยฟ, โรมัน ซอบนิน, ดาเลอร์ คุซยาเยฟ, อเล็กเซ มิรันชุก, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน, อาร์เตม ซูบา

เริ่มเกมเป็น เดนมาร์ก ที่เปิดฉากบุกเข้าใส่ ขณะที่รัสเซีย คอยตั้งรับและรอสวนกลับ นาที 18 อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน ใช้ความสามารถเฉพาะตัวโซโลเดี่ยวจากกลางสนามเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะกดด้วยขวา แต่ดันไปตรงตัว แคสเปอร์ ชไมเคิล

หลังจากนั้นยังคงเป็นเดนมาร์ก ที่ขึงเกมบุก นาที 29 ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก ได้โอกาสลองยิงนอกกรอบ บอลพุ่งราวจรวด แต่เฉียดเสาออกไปอย่างได้ลุ้น กระทั่งนาที 38 แฟนเดนมาร์ก ที่เข้ามาชมจนเกือบเต็มความจุ ได้เฮจนได้ เมื่อ มิกเคล ดามสการ์ด รับบอลจาก ฮอยเบิร์ก บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะโยกเข้าขวา แล้วปั่นเสียบเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม ให้เดนมาร์ก ออกนำในครึ่งแรก 1-0


ครึ่งหลัง เดนมาร์ก ยังเล่นได้ดี ขณะที่รัสเซีย ยังเหมือนตั้งเกมกันไม่ได้ นาที 59 ดาเลอร์ คุซยาเยฟ ดันส่งคืนหลังพลาด ทำให้ ยุสซุฟ โพลเซน หลุดเข้าไปยิงง่ายๆ ให้เดนมาร์ก หนีเป็น 2-0

หลังโดนนำสองประตู รัสเซีย พยายามบุกเอาประตูคืน นาที 70 อาร์เตม ซูบา โดนทำฟาวล์ในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที แล้วเป็น อาร์เตม ซูบา ที่ลุกขึ้นมาสังหารไม่พลาด ให้รัสเซีย ตีไข่แตกเป็น 1-2

หลังเสียประตูตีไข่แตก เดนมาร์ก กลับมาเปิดเกมรุกอีกครั้ง แล้วเป็น แอนเดรียส คริสเตนเซน ที่ซัดไกลเข้าไปสุดสวยให้ เดนมาร์ก ฉีกหนีอีกครั้งเป็น 3-1 ในนาที 79 จากนั้นไม่นานนาที 82 เดนมาร์ก มาได้ประตูทิ้งเป็น 4-1 จากจังหวะสวนกลับ ก่อนจังหวะสุดท้ายจะเป็น โยอาคิม เมห์เล ที่ซัดเสาแรกเข้าไปตุงตาข่าย ปิดกล่องให้ เดนมาร์ก ถล่ม รัสเซีย 4-1 เก็บ 3 แต้ม แซงขึ้นอันดับ 2 เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ โดยมี 3 คะแนนเท่ากับ ฟินแลนด์ และรัสเซีย แต่วัดมินิลีกแล้ว เดนมาร์ก มีลูกได้เสียดีกว่า

ทั้งนี้ เดนมาร์ก จะเข้ารอบไปเจอเวลส์ ทีมรองแชมป์กลุ่มเอ ด้านฟินแลนด์จบอันดับ 3 ต้องไปลุ้นอันดับ 3 ที่ดีที่สุด ถ้าเข้ารอบก็มีโอกาสไปเจอแชมป์กลุ่มอีหรือเอฟ ส่วนรัสเซียหล่นไปบ๊วย (ยิง 2 เสีย 4) ตกรอบเพียงเท่านี้

ขณะเดียวกัน ข้อสรุปในกลุ่มนี้ยังเป็นอานิสงส์ให้สวิตเซอร์แลนด์ ที่เก็บไป 4 แต้มในกลุ่มเอ การันตีโควตาอันดับ 3 ที่ดีที่สุดไปด้วย เนื่องจากยูเครน ของกลุ่มซี ก็ทำได้แค่ 3 แต้มเช่นกัน สวิตเซอร์แลนด์จึงไม่หล่นสู่ 2 ทีมสุดท้ายที่วืดตั๋วอย่างแน่นอนแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน