การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 ที่สนามเวมบลีย์ เมื่อคืนวันที่ 7 ก.ค. เป็นการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ อังกฤษ พบ เดนมาร์ก
สถิติก่อนหน้านี้ อังกฤษ และ เดนมาร์ก เคยเจอกันที่สนามเวมบลีย์ มาแล้ว 7 ครั้ง อังกฤษ ชนะ 5 ครั้ง เดนมาร์ก ชนะ 2 ครั้ง ส่วนการพบกัน 6 นัดหลังสุด รวมทุกรายการ อังกฤษ ชนะ เดนมาร์ก แค่ 1 นัด เท่านั้น
นอกจากนั้นในยูโร 2020 ครั้งนี้ อังกฤษ ยังไม่เสียประตูเลย และถ้ารวมก่อนศึกยูโร เข้าไปด้วยแล้ว ทำให้ อังกฤษ ไม่เสียประตูมาแล้ว 7 เกมติดต่อกัน คิดเป็น 662 นาที ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่คลีนชีตได้นานขนาดนี้
เกมนี้ อังกฤษ มาในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย จอร์แดน พิกฟอร์ด : ไคล์ วอล์กเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี แม็กไกวร์, ลุก ชอว์ : คัลวิน ฟิลลิปส์, เดแคลน ไรซ์ : บูกาโย ซากา, เมสัน เมาต์, ราฮีม สเตอร์ลิง : แฮร์รี เคน
ส่วน เดนมาร์ก มาในระบบ 3-4-2-1 ประกอบด้วย แคสเปอร์ ชไมเคิล : แอนเดรียส คริสเตนเซน, ซิมอน เคียร์, ยานนิก เวสเตอร์การ์ด : เยนส์ สตรีเกอร์ ลาร์เซน, โธมัส เดอลานีย์, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก, โยอาคิม เมห์เล : มิกเคล ดามสการ์ด, มาร์ติน เบรธเวต : แคสเปอร์ โดลเบิร์ก
เริ่มเกมทั้งสองทีมผลัดกันรุกรับอย่างสนุก โดยที่อังกฤษ เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า เล็กน้อย จนกระทั่งนาที 30 เดนมาร์ก มาได้ฟรีคิกหน้ากรอบ มิกเคล ดามสการ์ด รับหน้าที่ปั่นด้วยขวาเข้าไปสุดสวย ให้เดนมาร์ก ออกนำ 1-0
หลังเสียประตู อังกฤษ เร่งเกมบุกมากขึ้น นาที 38 แฮร์รี เคน ลากทะลุหลุดมาทางกราบขวา ก่อนตวัดเข้ากลาง ให้ สเตอร์ริง ยิงจ่อๆ แต่ติดเซฟ แคสเปอร์ ชไมเคิล อย่างไรก็ตามถัดมา 1 นาที อังกฤษ ตีเสมอได้สำเร็จจนได้ จากจังหวะที่ เคน แทงทะลุมาให้ ซากา หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจ่ายยัดเข้ากลางประตู ไปโดน ซิมอน เคียร์ ที่สไลด์ตัดหน้า สเตอร์ลิง เข้าประตูตัวเอง จบครึ่งแรก อังกฤษ เสมอ เดนมาร์ก 1-1
ครึ่งหลัง อังกฤษ เป็นฝ่ายขึงเกมรุกอยู่ฝ่ายเดียว ขณะที่ เดนมาร์ก ลงไปตั้งรับลึก และหาโอกาสสวนกลับ ขึ้นมาได้เป็นบางครั้ง แต่สุดท้ายยังไม่ผ่านมือ ผู้รักษาประตูทั้งสองทีมอย่าง จอร์แดน พิกฟอร์ด และ แคสเปอร์ ชไมเคิล ทำให้จบ 90 นาที อังกฤษ เสมอ เดนมาร์ก 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษ
เข้าสู่ช่วงต่อเวลา นาที 103 อังกฤษ ที่โหมบุกหนัก มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ราฮีม สเตอร์ลิง ไปโดนสกัดในเขตโทษ ก่อนจะเป็น แฮร์รี เคน ที่รับหน้าที่สังหารจังหวะแรก ติดเซฟ ชไมเคิล แต่ดีที่ยังตามไปซ้ำเข้าไปตุงตาข่ายให้ อังกฤษ ออกนำ 2-1
ช่วงเวลาที่เหลือ อังกฤษ เล่นแบบเอาชัวร์ ถ่ายบอลส่งกันไปมา ชนิดเดนมาร์ก หาบอลกันไม่เจอ จบ 120 นาที อังกฤษ เอาชนะ เดนมาร์ก 2-1 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ พบ อิตาลี คืนวันที่ 11 ก.ค. เวลา 02.00 น. (เช้าวันที่ 12 ก.ค.)
