วันที่ 23 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่บริเวณหลังบ้านเลขที่ 51 หมู่ 3 ต.ป่าแฝก อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย มีเด็กนักเรียนหญิงอายุ 15 ปี เป็นเด็กขยันและผลการเรียนดีมาก อาศัยอยู่ในกระต๊อบกับแม่ที่ป่วยเป็นโรคท้าวแสนปม ซึ่งมีอาชีพรับจ้างเพาะถั่วงอกขายได้ค่าแรงสัปดาห์ละ 500-600 บาท ความเป็นอยู่ยากลำบาก และต้องการความช่วยเหลือ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบ น.ส.วิยดา เผือกไร หรือ น้องฝน อายุ 15 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนกงไกรลาศวิทยา และ นางไสว แอบยิ้ม อายุ 57 ปี ผู้เป็นแม่ อาศัยอยู่ร่วมกันในกระต๊อบ หลังเล็กๆ ขนาด 2×2 เมตร มุงด้วยหลังคาสังกะสีเก่าๆ และใช้สแลนถุงปุ๋ย กับป้ายไวนิลขึงล้อมไว้แทนฝาบ้าน กันฝนไม่ได้ ไม่มีประตู ไม่มีห้องน้ำ ไม่มีไฟฟ้า ภายในกระต๊อบมีแค่เสื่อปูนอนกับผ้าห่ม มุ้ง และเครื่องครัวเท่านั้น

201609230751551-20021028190233

นางไสว เผยชีวิตรันทดให้ฟังว่า ตนเองป่วยเป็นโรคท้าวแสนปมมาตั้งแต่อายุ 20 ปี และเลิกกับสามีตอนมีลูกอายุได้แค่ 11 เดือน จากนั้นมาก็มุ่งทำงานหาเลี้ยงลูกสาว แต่ก็ไม่มีใครกล้ารับเข้าทำงานด้วย เพราะเขารังเกียจโรคที่เป็น จึงต้องอาศัยทำงานรับจ้างอยู่กับญาติพี่น้องเท่านั้น ถึงมีรายได้เลี้ยงลูกมาจนโตในทุกวันนี้

201609230751553-20021028190233

“ก่อนหน้านี้ฉันทำงานอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด ได้ค่าแรงวันละ 100 บาท ทำมานาน 13 ปี จนมีอายุมากแล้ว เป็นลมหน้ามืดบ่อย เลยกลับมาอยู่บ้านเกิดที่สุโขทัย ช่วงแรกๆ ก็อาศัยอยู่บ้านของน้องสาว แต่ด้วยความเกรงใจ เพราะน้องสาวก็มีลูกๆ อีกตั้ง 4 คน เลยตัดสินใจไปปลูกกระต๊อบอยู่ตรงหลังพื้นที่บ้านของน้องสาวแทน”

201609230751552-20021028190233

นางไสว เผยอีกว่า ทุกวันนี้ช่วยน้องสาวเพาะถั่วงอกขาย มีรายได้แบ่งกันสัปดาห์ละ 500-600 บาท เป็นค่าใช้จ่ายให้ลูกไปโรงเรียนวันละ 32 บาท อยากให้ลูกสาวได้เรียนสูงๆ ตามความตั้งใจของเขา แต่ก็ไม่รู้จะมีปัญญาทำได้แค่ไหน ทั้งนี้ลูกสาวเป็นเด็กดี ไม่เคยไปเที่ยวที่ไหน ขยันช่วยทำงานบ้าน มีผลการเรียนดี ล่าสุดได้เกรดเฉลี่ย 3.9 และช่วงปิดเทอมนี้ ลูกสาวก็อยากหางานทำ เพื่อจะมีรายได้เป็นของตัวเอง รวมทั้งไว้เก็บกินใช้แบ่งเบาภาระในบ้านด้วย

201609230751555-20021028190233

“ฉันไม่มีบ้านอาศัย มีแค่เสื้อผ้าที่สวมใส่กับจักรยานเก่าๆ และเงินในบัญชีอีก 1,000 กว่าบาท ฉันอยากมีงานทำ มีรายได้ที่มากกว่านี้ เพื่อส่งเสียให้ลูกสาวได้เรียนสูงๆ แต่ก็จนปัญญา เพราะไม่มีใครจ้างทำงาน ฉันเดินไปไหนก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ พอนั่งรถโดยสารคนข้างๆ เขาก็ขยับหนี” นางไสว กล่าวด้วยน้ำตาคลอ

ด้าน “น้องฝน” บอกว่า ปัจจุบันอาศัยอยู่ในกระต๊อบกับแม่ แต่เวลามีฝนตกหนักก็จะไปอาศัยหลับนอนที่บ้านน้าสาวใกล้ๆ กัน รวมทั้งอาศัยใช้ห้องน้ำห้องส้วมด้วย และมีความตั้งใจอยากเรียนสูงๆ จบปริญญาตรีก็ยังดี จะได้มีงานดีๆ ทำ มีเงินมาเลี้ยงแม่ ส่วนความฝันสูงสุดนั้นอยากเป็นครูสอนคอมพิวเตอร์ เพราะชอบคอมพิวเตอร์

นายจีระศักดิ์ พวงขจร อาจารย์สอนวิชาภาษาไทย ซึ่งเคยเป็นครูที่ปรึกษาของน้องฝน บอกกับผู้สื่อข่าวว่า น้องฝนเป็นเด็กเรียบร้อย ตั้งใจเรียน มีความประพฤติดี และเป็นคนมีจิตอาสาชอบช่วยเหลืองานครู เมื่อกลับบ้านก็ช่วยเหลืองานแม่และน้าที่อาศัยอยู่ด้วยเป็นอย่างดี ตนเองเคยไปเยี่ยมถึงบ้านแล้ว เห็นสภาพความเป็นอยู่ก็สงสาร จึงพยายามหาทุนการศึกษามาช่วยเหลือตามกำลังที่พอจะทำได้ สำหรับผู้ใจบุญที่ต้องการช่วยเหลือน้องฝนและแม่ที่ป่วยโรคเท้าแสนปม โอนเงินได้ที่ธนาคารออมสิน สาขากงไกรลาศ ชื่อ นางไสว แอบยิ้ม บัญชีเลขที่ 04-2606-20-011244-9 และส่งสิ่งของจำเป็นบริจาคได้ที่บ้านเลขที่ 51 หมู่ 3 ต.ป่าแฝก อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย 64170 หรือโทรสอบถามนางไสว 087-730-4507

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน