ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อม พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. และพล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. แถลงผลกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดของนายอุสมาน สะแลแมง ที่เชื่อมโยงกับนายไซซะนะ แก้วพิมพา พร้อมอายัดทรัพย์สินและเงินสดจากภาคใต้รวมกว่า 68 ล้านบาท
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2557 จากการสืบสวนและประสานงานระหว่างตำรวจไทยและตำรวจปราบปรามยาเสพติดมาเลเซีย ได้จับกุมนายมามะรุสลัน ดรอแม ชาวไทย และชาวมาเลเซีย พร้อมของกลางยาบ้า 70,000 เม็ด ก่อนขยายผลมาถึงเครือข่ายในไทยและตามแกะรอย จนวันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมาได้ประสานไปยัง พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผบช.ภ.9 ให้เจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจค้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา และเจอรถต้องสงสัย ก่อนจับกุม น.ส.บุหลัน ธารีสืบ อายุ 42 ปี ภรรยาของนายมามะรุสลัน และนายจิตรภานุ แซ่เฮง อายุ 37 ปี คนขับรถ พร้อมเจอเงินสดในรถ 1 ล้านบาท
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวต่อว่า จากนั้นได้สอบสวนและขยายผลตรวจค้นคอนโดฯใน อ.หาดใหญ่ พบเงินสดเป็นธนบัตรไทย 40 ล้านบาท และธนบัตรมาเลเซีย 1,500,000 ริงกิต หรือประมาณ 11,700,000 บาท ซึ่งซุกไว้ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ 2 ใบซ่อนไว้ใต้เตียง จากนั้นยังขยายผลค้นบ้าน น.ส.บุหลัน ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ตรวจยึดเงินสดมาเลเซีย 89,700 ริงกิต ทองรูปพรรณหนัก 10 บาท และทรัพย์สินจำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 68 ล้านบาท
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวอีกว่า สรุปได้ว่าทั้งนายอุสมาน และนายไซซะนะ ถือเป็นเครือข่ายเดียวกัน รวมถึงเงินสดและทรัพย์สินที่ยึดจากภาคใต้รวม 68 ล้านบาทด้วย โดยทั้งคู่ทำหน้าที่จัดหายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน ส่งจำหน่ายให้เครือข่ายในภาคใต้และส่งออกไปยังประเทศมาเลเซีย โดยนายอุสมานยังอยู่ระหว่างหลบหนีใน สปป.ลาว ซึ่งมีหมายจับติดตัวและมีค่าหัว 2 ล้านบาท
ด้านพล.ต.ท.สมหมายกล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีข่าวดีที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายนี้ โดยเตรียมขยายผลไปถึงเครือข่ายไซซะนะและนายอุสมาน ส่วนกรณีที่ทางการมาเลเซียจับกุมนายไซนุเด็ง มะ ลูกเขยของนายมะรินิง จาโก หรือมะ สิบล้อ เอเยนต์ยาเสพติด ได้เมื่อวันที่ 6 ก.พ.นั้น เลขาธิการป.ป.ส.เตรียมบินไปมาเลเซีย เพื่อร่วมสอบปากคำด้วย ขณะที่ท้าวสีสุกที่มีภาพถ่ายคู่กับไซซะนะจำนวนมากและโพสต์ข้อความยอมรับเป็นเพื่อนกันนั้น ตอนนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่มีหลักฐานไปถึง
นายศิรินทร์ยา กล่าวว่า หลังจากนี้ป.ป.ส.ต้องเรียกเบนซ์ เรซซิ่งมาสอบสวน หลังจากยึดทรัพย์สิน 12 รายการที่เชื่อมโยงกับนายบอย รวมถึงรถหรูลัมโบร์กินีด้วย โดยเฉพาะประเด็นเงินที่มาในการซื้อรถหรู ซึ่งเบนซ์ระบุว่ายืมจากนายบอย ในส่วนนี้ก็ต้องมีเอกสารมาชี้แจง โดยอยู่ระหว่างเตรียมเรียกตัวเบนซ์มาให้ข้อมูลโดยเร็ว ซึ่งตอนนี้ยังไม่ตั้งข้อหาสมคบคิดกับเบนซ์ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างสอบสวนและตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด
นายศิรินทร์ยากล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำเบนซ์ในตอนแรกที่บช.ปส. เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ ทำให้เตรียมเรียกมาสอบสวนอีกครั้ง เช่นเดียวกับนายบอย เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปสอบปากคำในเรือนจำด้วย โดยการสอบสวนในประเด็นนี้ตามกฎหมายมีกรอบเวลา 60 วันและสามารถขอขยายได้
